ฟางเสว่มั่นนั่งอยู่ข้างเตียงของคุณท่านฟาง นั่นจนเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนท่านั่งไปทางไหน
เจียงสื้อสื้อกลัวตัวเธอจะรับไม่ไหว เลยพูดเตือนด้วยความเป็นห่วง " แม่ ไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวหนูดูแลคุณตาเอง "
ฟางเสว่มั่นส่ายหัว " ไม่ต้องหรอก แม่ยังไหว "
ความดึงดันของเธอ ทำให้เจียงสื้อสื้ออดเป็นห่วงไม่ได้
คนที่จะทำได้ มีแค่เธอเท่านั้น
" สื้อสื้อ " ฟางเสว่มั่นโพล่งขึ้นมา
" อืม "
" แม่เป็นคนอกตัญญูใช่ไหม " ฟางเสว่มั่นหันหน้ามาหาเธอ ในตามีความโศกเศร้าผุดขึ้นมา
เจียงสื้อสื้อไม่ตอบ
เพราะว่าหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่รู้ว่าใครกันแน่เป็นคนที่ผิดหรือถูก อีกอย่างมันเป็นปัญหาระหว่างแม่กับตาของเธอ เธอเป็นแค่เด็กไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินอยู่แล้ว
" ถ้าตอนนั้นฉันฟังคำของตาและยายของแก ตอนนี้เรื่องราวอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนี้ก็ได้ ยายของแกก็คงไม่จากไปเร็วขนาดนี้ "
พูดถึงตรงนี้ ฟางเสว่มั่นก็เอาปิดหน้าปิดตาร้องไห้โฮ " เป็นเพราะฉันมันอกตัญญู ทำไมไม่กลับมาให้เร็วกว่านี้ ทำไม..... "
เธอเกลียดตัวเองที่อวดเก่ง อวดดี ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
จนทำให้ตอนที่แม่จากไป ไม่มีตัวเองที่คอยอยู่ข้าง ไม่ได้เจอหน้ากันเลยสักครั้ง
ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีก
ฟางเสว่มั่นร้องไห้จนเสียงแหบเสียงหาย
เมื่อเห็นอารมณ์ของแม่เธอที่เป็นแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็รีบปลอบเธอ " แม่คะ อย่าเสียใจไปเลย ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลรักษาอาการป่วยของตัวเอง แล้วคอยอยู่ข้าง ๆ คุณตานะคะ "
จากคำพูดที่หวังดีของเจียงสื้อสื้อ ฟางเสว่มั่นจึงพยายามสงบสติอารมณ์ แต่น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหล
" แม่ " เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นทุกข์ ดวงตาแดงก่ำ
" สื้อสื้อ แม่ขอร้องไห้สักหน่อยเถอะ ไม่งั้นแม่คงทนไม่ไหว "
เจียงสื้อสื้อโอบปลอบไปที่ไหล่ของเธอโดยไม่พูดอะไร
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสียงร้องไห้ค่อยๆหยุดลง
ฟางเสว่มั่นร้องไห้จนตาบวมไปหมด
" แม่ หนูไปเอาผ้าอุ่นมาให้แม่ประคบตานะ "
" ไม่จำเป็นหรอก " ฟางเสว่มั่นปาดน้ำตา " อีกสักพักก็หายแล้ว "
" ไม่ได้ แม่ปล่อยไว้แบบนี้เดี๋ยวสักพักจะเคืองตาเอาได้ "
เจียงสื้อสื้อไม่ได้ฟังคำที่แม่พูด ตรงดิ่งไปยังห้องน้ำ
เวลานั้น ซ่างหยิงมาพอดี
เธอเดินเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ตรงข้างเตียง ก็นึกว่าตัวเองเข้าผิดห้อง จึงรีบกลับออกไป แต่ดูเลขห้องยังไงก็มั่นใจว่าไม่ได้เข้าผิดห้องแน่ ๆ เลยเดินกลับเข้ามาใหม่
" ขอโทษนะคะ คุณคือ... "
น้ำเสียงคุ้นเคยที่ดังมาจากด้านหลัง ฟางเสว่มั่นค่อย ๆ หันไปมอง
เมื่อตาสองคู่นั้นผสานกัน
ตาของซ่างหยิงค่อย ๆ เลิกกว้าง ก่อนจะอ้าปากค้าง
" พี่สาม !"
ฟางเสว่มั่นเกร็งปากเล็ก ๆ " อะหยิง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน "
ซ่างหยิงรีบเดินเข้ามาหาพลางเอาของที่นำมาวางไว้บนชั้น ก่อนจะยืนมือมากอดเธอ
แต่ก็กลัวว่าตัวเองจะทำให้เธอตกใจ ก็ค้างมือไว้กลางอากาศ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ
" คือฉัน "
ฟางเสว่มั่นลุกขึ้นยืน เป็นเพราะเมื่อกี้ร้องนานจนสมองขาดออกซิเจน เมื่อลุกขึ้นจึงทำให้เกิดอาการเวียนหัวตาลาย
" พี่สาม !” ซ่างหยิงหน้าถอดสี รีบมาพยุงเธอเอาไว้ " เป็นอะไรหรือเปล่า "
ฟางเสว่มั่นหลับตาสักพัก ให้ร่างกายคืนสภาพ ก่อนจะตอบเบา ๆ " ฉันไม่เป็นไร "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!