“คุณพูดว่าพี่ชายของฉันชอบหยวนหยวนเหรอ?”
เมื่อกลับมาถึงห้องแล้ว เจียงสื้อสื้อพลันถามจิ้นเฟิงเฉินทันที
จิ้นเฟิงเฉินหลุดยิ้มให้ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย “เรื่องนี้ผมจะรู้ได้อย่างไรกัน?”
เจียงสื้อสื้อเบะปากให้ “ก็ใช่ คุณก็เป็นผู้ชายเต็มตัวจะไปเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไง”
เธอเอนตัวลงบนเตียง จากนั้นก็จ้องมองเพดานห้อง “ความจริงแล้วฉันรู้สึกว่าพวกเขาสองคนช่างเหมาะสมกันมากเลย”
“คุณอยากจับคู่ให้พวกเขาเหรอ?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
เจียงสื้อสื้อหันพลิกตัว นอนตะแคงอยู่บนเตียง พร้อมทั้งใช้มือข้างหนึ่งดันศีรษะเอาไว้ สายตาจับจ้องมาที่ลำตัวของจิ้นเฟิงเฉิน น้ำเสียงเริ่มเบื่อหน่ายเล็กน้อย “ปล่อยไปตามเลยเถอะ น้าสะใภ้เล็กกับแม่ของฉันคงแนะนำผู้หญิงสักคนให้กับพี่ชายของฉันแหละ”
“คุณรู้สึกว่าพวกเขาทั้งสองคนเหมาะสมกันใช่ไหม?”
“แน่นอน”
เจียงสื้อสื้อลุกขึ้นนั่ง “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฐานะทางครอบครัวหรือว่าภาพลักษณ์ก็ตาม หรือว่าทางด้านอื่นๆ พวกเขาช่างเหมาะสมกันมาก แถมยังไม่ต้องกลัวเรื่องสูงเกินเอื้อม หรือพวกฐานะที่ไม่คู่ควรกันอีก”
เมื่อพูดเรื่องนี้ เธอฉุกคิดเรื่องของตนเองกับจิ้นเฟิงเฉิน พลันถอนหายใจออกมา “ตอนแรกที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน ฉันก็คือพวกเอื้อมของสูง คนภายนอกมองต่างหัวเราะฉันยกใหญ่เลย”
จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้ามาหา จากนั้นก็นั่งลงข้างตัวของเธอ พลันโอบกอดตัวเธอเข้าสู้อ้อมกอด และพูดอย่างอ่อนโยน “ไม่มีอะไรที่จะสำคัญไปกว่าความรักของคนสองคนอีกแล้ว”
เจียงสื้อสื้อแหงนหน้าชายเล็กขึ้น “คุณคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”
“อืม...” จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ พลางเอ่ยถาม “ถ้าเกิดว่าผมล้มละลายล่ะ จนกลายเป็นคนเหลือแต่ตัว คุณจะยังรักผมอยู่ไหม?”
“รักสิ” เจียงสื้อสื้อพูดพรวดออกมาโดยที่ไม่คิดสิ่งใดเลย
จิ้นเฟิงเฉินฉีกยิ้ม ขนาดดวงตายังยิ้มตามเลย
“ทำไม? คุณไม่เชื่อเหรอ?” เจียงสื้อสื้อขมวดหัวคิ้วเล็กน้อย
“เชื่อ เชื่อสิ” จิ้นเฟิงเฉินกอดเธอเอาไว้แน่น “ไม่ว่าคุณจะพูดว่าอะไร ผมก็เชื่อทั้งนั้นแหละ”
“แบบนี้ถึงจะพอได้อยู่”
เจียงสื้อสื้ออิงแอบแนบชิดเข้าไปในอ้อมกอดของเขา พลันถามเสียงอ่อน “คุณไม่ไปจริงๆ เหรอ? ที่นัดกับหยวนหยวนเอาไว้”
“ไม่ไป”
“ทำไมล่ะ?”
“ความร่วมมือในครั้งนี้ ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือฟางซื่อกรุ๊ปและซ่างกวนกรุ๊ปทั้งสองบริษัท พูดกันตรงๆ ก็คือ ทางจิ้นกรุ๊ปเป็นคนออกเงิน แต่ไม่ได้ออกแรง”
หลังจากได้ยินแล้ว เจียงสื้อสื้อบ่นเป็นหมีกินผึ้งออกมาหนึ่งประโยค “มีเงินก็สุดยอดไปเลย”
จิ้นเฟิงเฉินเผลอยิ้มทันที “มีเงินถือว่าสุดยอดจริงๆ แบบนี้ไงผมถึงได้มีเวลาอยู่กับคุณเยอะๆ”
เจียงสื้อสื้อเคร่งขรึมลงทันที
พูดกันตรงๆ ก็เป็นเพราะว่าเธอถึงไม่ยอมไป
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมพูดยอมจาอะไร จิ้นเฟิงเฉินกระซิบถามทันที “เป็นอะไรไป?”
“ฉันอยากไป” เจียงสื้อสื้อตอบกลับมาเสียงเบา
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้วขึ้น “คุณอยากไปก็ไปสิ”
“จริงเหรอ?” เจียงสื้อสื้อนั่งหลังตรงด้วยความตื่นเต้นทันที พร้อมทั้งใช้ดวงตาลุกวาวเปล่งประกายจ้องมองเขา “ที่คุณพูดมาเป็นความจริงใช่ไหม?”
“คุณอยากจะจับคู่ให้พวกเขาสองคน ถ้าพวกเราไปแล้วมันจะกลับกลายไปในทางไม่ดีหรือเปล่า?” จิ้นเฟิงเฉินถามกลับ
ยังพูดว่าเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ความจริงแล้วเขาเข้าใจมากว่าเธอตั้งเยอะ
เพราะว่าเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย
“งั้นก็ไม่ไปแล้ว สร้างโอกาสให้พวกเขา” เจียงสื้อสื้อเริ่มถลาเข้าสู้อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง
จิ้นเฟิงเฉินกอดเธอเอาไว้ พร้อมทั้งหัวเราะเล็กน้อย
……
ข่ายสื้อลินแจ้งคำร้องขอของฝู้จิงเหวินให้แก่เบอร์เกนทราบ
หลังจากที่คนหลังได้ยินแล้ว ยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ทำไมเขาถึงอยากจะเจอกับฉัน?”
“เพราะว่า ...” ข่ายสื้อลินลังเลอยู่ชั่วครู่ ไม่รู้ว่าควรจะบอกความจริงกับเขาดีไหม
เบอร์เกนหรี่ตา จากนั้นก็ตีเสียงเข้ม “คุณก็น่าจะรู้ผลลัพธ์อยู่แก่ใจสำหรับคนที่ปิดบังผมอยู่ว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร”
“เขาทะเลาะกับชาร์ส”
เบอร์เกนไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย เขาตกใจมาก “ทะเลาะกันเลยเหรอ? มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ข่ายสื้อลินบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนั้นให้เขาฟังอย่างหมดเปลือก ตอนจบยังพูดเสริมอีกประโยคหนึ่งด้วย “อาจจะเป็นเพราะว่าฝู้จิงเหวินรู้สึกว่าตนเองถูกดูหมิ่น เลยอยากจะพบหน้าคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!