คืนนั้น ฟางยู่เชินเลิกงานแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่งที่นัดหมายเอาไว้
ซ่างกวนหยวนเสนอเรื่องขึ้นมาว่าต้องการพบเจอเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของทั้งสามบริษัท เพื่อคุยเรื่องงานด้วย
เวลา ก็กำหนดเป็นคืนนี้
วันนี้ฟางยู่เชินทำงานค่อนข้างเยอะ รอเวลาทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พบว่าเวลามันเริ่มสายแล้ว จึงรีบไปอย่างเร่งรีบ จนซ่างกวนหยวนมารออยู่แล้ว
“ขอโทษ ขอโทษ ผมมาสายแล้ว” ฟางยู่เชินได้แต่กล่าวขอโทษมาโดยตลอดอย่างเขินอาย
เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของเขา ไม่เหมือนท่านประธานบริษัทสักนิด
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็เพิ่งมาถึงเอง” ซ่างกวนหยวนยิ้มแย้มแจ่มใส จากนั้นก็เหลือบมองด้านหลังของฟางยู่เชิน “คุณท่านจิ้นไม่ได้มากับคุณด้วยเหรอ?”
“เขากลับเมืองจิ่นไปแล้ว”
ฟางยู่เชินตอบและนั่งลงทันที แต่ไม่ได้สนใจตอนที่ซ่างกวนหยวนได้ยินคำตอบแล้ว นัยน์ตาทอประกายแปลกใจและผิดหวังออกมา
“วันนี้ผมเลี้ยงเอง คุณสั่งได้ตามสบายเลย” ฟางยู่เชินยิ้มอย่างอ่อนโยนตอนมองเธอ
ซ่างกวนหยวนฉีกยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก้มหน้าก้มตาพลิกเมนูดู
ความจริงแล้วมันไม่ได้เข้าสายตาเธอเลย เพราะว่าในใจเริ่มวุ่นวายแล้ว
เดิมคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมา แต่กลับไม่คิดว่าเขาจะกลับไปเมืองจิ่นแล้ว
ฟางยู่เชินเห็นว่าเธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเล็กน้อย จากนั้นก็ซักถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยทันที “คุณหนูซ่างกวนคุณคิดออกหรือยัง?”
น้ำเสียงของเขาดึงสติของซ่างกวนหยวนที่หลุดจากภวังค์ไปให้กลับมา เธอตกใจเล็กน้อยจากนั้นก็เริ่มชี้มั่วไปที่อาหารหลายอย่าง “ฉันเอาสามอย่างนี้แหละ”
ฟางยู่เชินเหลือบมองแวบหนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่สามอย่างนั้นมันเป็นซุปทั้งนั้นและอีกอย่างยังเป็นขนมหวานหลังอาหารด้วยซ้ำ คุณจะไม่สั่งอาหารจานหลักเหรอ?”
ซ่างกวนหยวนตะลึงทันที จากนั้นถึงตั้งสติได้ จนรีบพูดทันที “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันอ่านพลาดไป”
ฟางยู่เชินไม่คิดมากอะไร พลันยิ้มให้ “งั้นคุณลองดูใหม่นะ ไม่ต้องรีบ”
สุดท้ายฟางยู่เชินก็เป็นคนสั่งอาหารแทนเอง
ตอนที่รออาหารมาเสิร์ฟนั้น ฟางยู่เชินพยายามลองหาเรื่องมาคุยกับซ่างกวนหยวน
“ได้ข่าวว่าก่อนหน้านี้คุณทำงานในศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งในต่างประเทศมา แล้วทำไมถึงได้คิดกลับมาช่วยพี่ชายของคุณล่ะ?” ฟางยู่เชินถาม
“เรือล่มในหนองทองจะไปไหน” ซ่างกวนหยวนตอบพรวดพราดออกมาทันที
ฟางยู่เชินที่กำลังดื่มน้ำอยู่ เมื่อได้ยินคำตอบนี้แล้ว เกือบจะสำลักน้ำทันที
เขารีบเช็ดมุมปากทันที พร้อมทั้งจ้องมองเธออย่างติดตลก “จะมีใครกันที่พูดเปรียบเปรยตนเองแบบนี้ได้”
เพราะว่าเธอนั้นเป็นเด็กสาวที่สวยงามหยาดเยิ้มมาก
ซ่างกวนหยวนยิ้มเล็กน้อย “พูดตามความจริงนี่”
“งั้นคุณมีความเชื่อมั่นในความร่วมมือกันของพวกเราในอนาคตไหม?” ฟางยู่เชิน
จ้องมองเธอเพื่อรอคอยคำตอบ
“มี ต้องมีอย่างแน่นอน”
ต้องพูดให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือ เธอมีความเชื่อมั่นในตัวจิ้นเฟิงเฉิน และจิ้นกรุ๊ป
เมื่อได้รับคำตอบหนักแน่นแบบนี้แล้ว สีหน้าของฟางยู่เชินฉีกยิ้มหนักกว่าเดิมเสียอีก “ผมดีใจมากที่ได้ยินคำตอบนี้”
ซ่างกวนหยวนคลี่ยิ้มให้ แต่ไม่ได้พูดอะไร
ทั้งสองคนดำดิ่งสู่ความเงียบงัน
ฟางยู่เชินเงยหน้าขึ้นมามองซ่างกวนหยวน สมองพลันหมุนโลดแล่นอย่างรวดเร็ว เพื่ออยากจะหาประเด็นมาพูดคุยกับเธอ
ทันใดนั้น เขาก็คิดออกทันที พร้อมทั้งถามกลับ “คุณเป็นเพื่อนกับน้องสาวของผม ใช่ไหม?”
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้ว “ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ไม่มีอะไร ก็แค่เคยได้ยินน้องสาวของผมพูดถึงคุณอยู่ พูดว่าคุณเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เลยเป็นผู้มีพระคุณสำหรับเธอ”
“พูดซะเกินไป ก็แค่ช่วยตามสภาพไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรเท่านั้นเอง”
เธอท่าทางแล้วเธอเริ่มความหมดความสนใจเล็กน้อย ฟางยู่เชินฉุกคิดขึ้นมา หรือเป็นเพราะว่าเธอไม่ชอบพูดคุยกันตนเอง?
โชคดีที่ พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟทันเวลาพอดี เพื่อลดบรรยากาศความเก้อเขินลงไปไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!