บทที่ 129 นางจิ้งจอก
โจวเซ่าฟึงสั่นเทาไปทั้งตัว เบื้องลึกในนัยน์ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธเคืองและแค้นใจ แม้ว่าจะต่อหน้าคนนอก แต่ตู้จื่อเยว่ก็ไม่เคยให้เกียรติเขา ตบหน้าเขาแบบนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมาก
แต่แม้ว่าจะโมโห ทว่าเขากลับไม่กล้าทำอะไรตู้จื่อเยว่ เขารู้ดี ตนเองไม่สามารถต่อต้านตู้จื่อเยว่ได้ ตู้จื่อเยว่สามารถทำให้เขาหายไปได้ตลอดเวลา แล้วหาลูกเขยคนใหม่มาแต่งเข้าบ้าน
"ที่รัก คุณฟังผมพูด ผมซื่อสัตย์กับคุณ นางสารเลวเสี้ยเมิ่งเหยาเป็นคนยั่วยวนผม!”โจวเซ่าฟึงชี้ไปที่หน้าของเสี้ยเมิ่งเหยา แล้วพูดใส่ร้าย เวลานี้ เขาทำได้เพียงโยนความผิดให้กับเสี้ยเมิ่งเหยา ไม่อย่างนั้นจากนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นของตู้จื่อเยว่ คงต้องถลกหนังเขาแน่ๆ
เสี้ยเมิ่งเหยาอ้าปากกว้าง คล้ายไม่อยากจะเชื่อว่าโจวเซ่าฟึงจะพูดแบบนี้
"โจวเซ่าฟึง!คุณยังเป็นคนอยู่ไหม?!”เสี้ยเมิ่งเหยาด่าด้วยความโมโห ทั้งๆที่โจวเซ่าฟึงเป็นคนพูดเสนอเองว่าจะเลี้ยงดูเธอ แต่สุดท้ายแค่ชั่วพริบตา เขากลับทำร้ายเธอ หาว่าเธอเป็นฝ่ายยั่วยวนเขาก่อน
"เสี้ยเมิ่งเหยา อย่ามาแกล้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ที่นี่!นับตั้งแต่รู้ว่าฉันเป็นผู้จัดการของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง คุณก็ส่งสัญญาณต่างๆให้ผมตลอดเวลา บอกให้ผมให้เงินคุณเดือนละห้าแสนหยวน คุณก็จะมานอนกับผม แต่ผมบอกกับคุณว่า ตอนนี้ผมเป็นสามีของจื่อเยว่ ผมไม่มีวันตกลงกับข้อเสนอของคุณ คุณก็เลยวิ่งมายั่วยวนตรงหน้าผม......." สีหน้าของโจวเซ่าฟึงเต็มไปด้วยความโมโหและน่าสงสาร คนที่ไม่รู้ เกรงว่าจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นความจริง
"คุณโกหก!ทั้งๆที่คุณเป็นคนพูดเองว่าจะเลี้ยงดูฉัน" เสี้ยเมิ่งเหยาโมโหจนแทบจะบ้าแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึง โจวเซ่าฟึงจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้
สวีตงเหลียงและพวกหวังเจียเมิงรายล้อมเข้ามา ทว่าไม่มีใครกล้าพูดเข้าข้างเสี้ยเมิ่งเหยา ความเป็นในใจของพวกเขาต่างก็รู้ดี ว่าโจวเซ่าฟึงเป็นฝ่ายมาหาเสี้ยเมิ่งเหยาก่อน ถ้าจะบอกว่ายั่วยวนนั้น ก็ต้องเป็นโจวเซ่าฟึงที่เป็นฝ่ายยั่วยวนเสี้ยเมิ่งเหยา ไม่ใช่เสี้ยเมิ่งเหยายั่วยวนโจวเซ่าฟึง
แต่คำพูดนี้ พวกเขากลับไม่กล้าพูดต่อหน้าตู้จื่อเยว่
"เพี๊ยะ"
ตู้จื่อเยว่หัวเราะในลำคอแล้วง้างมือขึ้น จากนั้นตบลงมาบนใบหน้าสวยๆของเสี้ยเมิ่งเหยา เธอตบจนปากของเสี้ยเมิ่งเหยาแตก มีเลือดไหลออกมา
"ผู้หญิงสารเลว ยังจะกล้าเถียงอีก!ทำไมไม่ส่งกระจกชะโงกดูเงาดูเงาของตนเอง สามีของฉันเนี่ยนะที่จะเลี้ยงดูแก?!”
"ไม่ใช่แบบนี้ ฟังฉันอธิบายก่อน!”เสี้ยเมิ่งเหยาถูกรังแกจนแทบจะร้องไห้แล้ว
แต่ "เพี๊ยะ" เสียงดังขึ้น ตู้จื่อเยว่ตบไปที่หน้าของเสี้ยเมิ่งเหยาอีกครั้งด้วยความโมโห
"อธิบาย? อธิบายอะไร!ตอนนั้นในมหาวิทยาลัย แกมันก็เป็นนางสุนัขจิ้งจอกอ้อร้อ มายั่วยวนสามีของฉัน คิดไม่ถึงว่าผ่านไปสามีแล้ว แกยังคงเป็นนางสุนัขจิ้งจอกอ้อร้อ ยังไม่ตายใจอีก!”
"เพี๊ยะ"
"ดูท่าแล้วเมื่อสามปีก่อน ฉันยังสั่งสอนแกไม่พอสินะ นางสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างแกถึงไม่จำใส่หัว!”
ทุกครั้งที่ตู้จื่อเยว่พูดออกมาหนึ่งประโยค เธอก็จะตบไปที่หน้าของเสี้ยเมิ่งเหยาอย่างแรง ชั่วพริบตา ใบหน้าสวยๆของเสี้ยเมิ่งเหยาก็บวมแดงเป็นแถบ
หลี่เสว่และหวังเจียเมิงที่ยืนอยู่ข้างๆนั้น สีหน้าของพวกเธอมีความสุขขึ้นมา เสี้ยเมิ่งเหยา คิดไม่ถึงจริงๆว่าแกจะได้เจอกับผู้หญิงที่ไร้เหตุผลอย่างตู้จื่อเยว่ใช่ไหม
"ใครก็ได้มาที มัดตัวนางผู้หญิงคนนี้เอาไว้!”ตู้จื่อเยว่เอามือท้าวสะเอวแล้วพูดออกคำสั่ง แม้ว่าจะตบหน้าเสี้ยเมิ่งเหยาไปสิบกว่าครั้งแล้ว แต่เธอก็ยังคงไม่หายโมโห
สิ้นเสียงตู้จื่อเยว่ พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนที่สวมชุดสีดำก็เดินออกมาด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกับเอาเชือกมาด้วย พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา
"ตู้จื่อเยว่ คุณคิดจะทำอะไร?!”เสี้ยเมิ่งเหยากลัวมาก ใบหน้าสวยๆของเธอซีดขาว
ตู้จื่อเยว่หัวเราะอย่างเย็นยะเยือก ทว่าไม่ได้พูดอะไร พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนที่สวมชุดสีดำเอาเชือกมามัดตัวเสี้ยเมิ่งเหยาเอาไว้ แน่นอนว่าเสี้ยเมิ่งเหยาไม่สามารถขัดขืนได้ ไม่นาน เธอก็ถูกคนสองคนนั้นมัดแน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...