บทที่ 145 คุณอาบ้า
“ไม่ยังไงค่ะ” ซูหลิงยู่ตอบตรง เธอชื่นชอบคนเก่ง ชอบผู้ชายที่แข็งแกร่งมาดแมน ส่วนลูกชายจินลิ่วอานกลับดูสำอางตุ้งติ้ง ถึงจะหน้าตาดี แต่ไม่ใช่สเป็คเธอเลย
สีหน้าจินลิ่วอานแข็งค้าง ยัยเด็กนี่...พูดตรงชะมัด
ซูเห้าหรันก็กระอักกระอ่วนนิดหน่อย พยายามเกลี้ยกล่อมว่า: “ลูกพ่อ ลูกชายอาจินดีมากเลยนะ อายุยังน้อยก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว บริษัทของเขาปีที่แล้วได้เข้าตลาดอเมริกาด้วย เป็นบริษัทเครื่องสำอางบริษัทเครื่องสำอางเอยีอะไรนี่ไง ลูกเป็นผู้หญิง น่าจะเคยได้ยินนะ”
“พ่อคะ พ่อคงไม่คิดจะให้หนูแต่งงานกับเขาหรอกนะ?” ซูหลิงยู่เชิดหน้าถาม ต่อให้หล่อนโง่ ก็ฟังความหมายของพ่อออก
“ฮึมฮึม” ซูเห้าหรันกระแอมสองทีพลางว่า: “ลูก หนูก็อายุไม่น้อยแล้ว น่าจะคิดเรื่องคู่ครองได้แล้ว ลูกชายอาจิน...”
ซูเห้าหรันยังพูดไม่ทันจบ ซูหลิงยู่แทรกขึ้นทันที: “พ่อคะ อะไรเรียกว่าหนูอายุไม่น้อยแล้ว ปีนี้หนูพึ่งสิบแปดเองนะ แถมลูกชายอาจินไม่ใช่แบบที่หนูชอบเลย”
คำนี้ออกมาปุ๊บ สีหน้าจินลิ่วอานเริ่มไม่น่าดู ซูหลิงยู่กล้าเมินลูกชายเขา?
ลูกชายเขา นอกจากไม่มีพรสวรรค์จอมยุทธ์ มีอะไรไม่ดีบ้าง?
พอเห็นจินลิ่วอานโมโห ซูเห้าหรันรีบถลึงตาใส่ซูหลิงยู่ทันที พลางตะคอกว่า: “หลิงยู่ พูดอะไรน่ะ?! ลูกชายอาจินนั่นน่ะบุคคลแถวหน้าเลยนะ มีหญิงสาวกี่คนหาทางแต่งงานกับเขา ยังหาทางไม่ได้ ทำไมลูกยังมารังเกียจรังงอนอีก!”
“พ่อ!” ซูหลิงยู่กระทืบเท้าอย่างแรง ดวงตางามมีน้ำตาคลอขึ้นมา ไม่คิดว่าพ่อจะว่าเธอหนักแบบนี้
“เอาล่ะ” เหมือนรู้ตัวว่าพูดแรงไป ซูเห้าหรันทำเสียงซอฟท์ลงบอกว่า: “ถ้าไม่อยากแต่งงานกับลูกชายอาจินก็ได้ ไปขอร้องพวกศิษย์พี่ ให้พวกเขาชนะการประลอง ลูกก็ไม่ต้องแต่งแล้ว”
ซูเห้าหรันพูดแบบนี้ ทั้งบอกนัยแก่ซูหลิงยู่ และก็จินลิ่วอานด้วย
ที่พูดให้ซูหลิงยู่ คือเตือนลูกสาวว่า สถานที่ฝึกวิทยายุทธเห้าหรันกำลังอ่อนแอ จินลิ่วอานบรรลุอ้านจิ้งแล้ว ถ้าครั้งนี้เขาไม่ไว้หน้าจินลิ่วอาน งั้นต่อไปสถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังต้องไม่ปล่อยสำนักเขาไว้แน่ จินลิ่วอานต้องหาทางกดขี่สำนักเราแน่ เขาหวังว่าซูหลิงยู่จะเข้าใจเขา
ที่พูดให้จินลิ่วอาน คือแสดงท่าทีเขาให้จินลิ่วอานเห็นว่า เขาเห็นด้วยที่จะให้ลูกสาวแต่งกับบ้านจิน แต่ลูกสาวไม่เห็นด้วย เขาเองก็หมดหนทาง อยากให้ลูกสาวเขาแต่งไป ได้ สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังชนะการประลอง ซูหลิงยู่ก็จะเป็นรางวัล
เขาเชื่อว่าจินลิ่วอานต้องมองเห็นความจริงใจของเขา เพราะเปอร์เซ็นต์ที่สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังจะชนะการประลองมีถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์
“พ่อ หนูให้คนนอกช่วยได้ไหม?” ซูหลิงยู่ถามตาแดงๆ
“คนนอก?” ซูเห้าหรันอึ้ง “ลูกหมายถึงเจ้านั่น?”
“อือ คุณอาคนนั้นแหละ” ซูหลิงยู่พยักหน้าอย่างแรง เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอเองก็หมดหนทางแล้ว ได้แต่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ตัวเฉินเฟิง เธอเองรู้ดีว่าพ่อไม่มีหนทางอื่นแล้ว เพราะจินลิ่วอานเป็นจอมยุทธ์อ้านจิ้งแล้ว จอมยุทธ์อ้านจิ้งสำหรับสถานที่ฝึกวิทยายุทธเห้าหรันเป็นภูเขาใหญ่ที่ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้
“เขาเป็นจอมยุทธ์จริงๆ?” ซูเห้าหรันแอบสงสัย เห็นท่าทางซูหลิงยู่แล้ว ดูมั่นใจในตัวเฉินเฟิงมาก แต่ความมั่นใจเธอมาจากไหนกันเนี่ย? เจ้านั่นน่ะเขาดูยังไงก็ไม่เหมือนจอมยุทธ์เลย
“คุณอาเป็นจอมยุทธ์ ระดับต้นหมิงจิ้ง” ซูหลิงยู่พูดอย่างมั่นใจ
“พี่ลิ่วอาน พี่ว่า...” ซูเห้าหรันเบนสายตาไปที่จินลิ่วอาน เรื่องนี้ต้องถามความเห็นจินลิ่วอาน เพราะเฉินเฟิงไม่ใช่คนสถานที่ฝึกวิทยายุทธเห้าหรัน การให้เฉินเฟิงมาประลองแทนดูไม่ถูกกติกานัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...