บทที่ 400 รอดูท่าทีคนๆหนึ่ง
ตระกูลเฉินนอกจากสิบสามสายที่ฉินเสวียนหรัวดูแลกับสายหลักที่เฉินเจิ้นหนานเป็นคนดูแลแล้ว ที่เหลืออีกสิบเอ็ดสาย แทบจะทั้งหมดอยากให้เขาตาย!
พลังของสิบเอ็ดสายนี้มากจนถึงระดับที่คนธรรมดายากจะคิดได้ ไม่ใช่อะไรที่ตระกูลฉู่จะต้านทานได้เลย
ต่อให้ฉู่เจิ้นกั๋วออกหน้าเองก็ไม่มีประโยชน์
“ความหมายของคุณเฉิน ชีงฉือเข้าใจแล้วค่ะ แต่ชีงฉือไม่รู้สึกว่า ตระกูลเฉินจะไม่ไว้หน้าคุณปู่เลย ถ้าคุณปู่ออกหน้าด้วยตัวเอง อาจคุ้มครองคุณตลอดชีวิตไม่ได้ แต่ซักสามปีห้าปีรับรองว่าไม่มีปัญหา” ฉู่ชีงฉือบอก ก่อนนี้ที่พูดว่าสามารถคุ้มครองเฉินเฟิงได้สามปีห้าปี และไม่ได้พูดมากกว่านั้น เพราะปีนี้เทพเจ้าแห่งสงครามเก่าอายุปาเข้าไปเก้าสิบแปดปีแล้ว น่าจะอยู่ได้อีกอย่างมากสุดสามปีห้าปี
พอเทพเจ้าแห่งสงครามเก่าตาย ตระกูลฉู่ก็เหมือนขาดเสาหลัก ความรุ่งโรจน์ในวันนี้ทั้งหมดจะมลายหายไปสิ้น
ตอนนั้นอย่าว่าแต่คุ้มครองเฉินเฟิงเลย แค่เอาตัวตระกูลฉู่ให้รอดเองยังยากเลย
“คุณเฉิน คุณปู่เคยบอกไว้ว่า คุณเป็นมังกรที่หลับใหล ถ้าให้เวลาคุณสามปีห้าปี คุณต้องแปลงร่างบินขึ้นฟ้าได้ และมีความสามารถที่สามารถทัดเทียมกับตระกูลเฉินได้แน่”
“สิ่งเดียวที่คุณขาดคือเวลา และคุณปู่ของฉันคือเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถให้เวลานั้นกับคุณได้”
ฉู่ชีงฉือยังพยายามเกลี้ยกล่อมเขาต่ออย่างไม่ยอมแพ้ เธอรู้ดีว่า ที่คุณปู่อยากคุ้มครองเฉินเฟิง นอกจากจะตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตแทนเธอแล้ว ยังมีความหวังอีกอย่าง
ความหวังนั้นคือตระกูลฉู่
ตระกูลฉู่ในตอนนี้เหมือนไม้ใหญ่ที่ข้างในใกล้กลวง
บางทีในสายตาคนนอก ตระกูลฉู่เป็นผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ของจงไห่ ต่อให้มีความสามารถทัดเทียมกับหกตระกูลใหญ่ของหวาเซี่ยก็ตาม
แต่มีแค่คนส่วนน้อยในตระกูลฉู่เท่านั้นที่รู้ดีว่า ความแข็งแกร่งของตระกูลฉู่มันก็แค่ฟองสบู่เท่านั้น
ด้วยเพราะบารมีเทพเจ้าแห่งสงครามเก่าที่หนักเกินไป ทำให้ลูกหลานตระกูลฉู่ต่างพากันใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เทพเจ้าแห่งสงครามเก่า ชื่นชมบารมีเทพเจ้าแห่งสงครามเก่า ชอบพูดถึงเทพเจ้าแห่งสงครามเก่า ภูมิใจที่ตัวเองเป็นลูกหลานเทพเจ้าแห่งสงครามเก่า แต่ไม่มีใครคิดพัฒนาตัวเองเลย
ต่างอยากกินของเดิม
ผลลัพธ์ของความคิดแบบนี้ ทำให้ตอนนี้คนที่มีความสามารถของตระกูลฉู่เริ่มน้อยลง
เทียบกับอีกสามตระกูลของจงไห่แล้ว ในโลกข้าราชการและทหาร ตระกูลฉู่ห่างไม่เห็นฝุ่นเลย
ทั้งไม่มีข้าราชการระดับสูง และก็ไม่มีทหารหน้าใหม่ด้วย
ถ้าเทพเจ้าแห่งสงครามเก่าตายไป ตระกูลฉู่คงล่มเหมือนไร้ที่พึ่ง ความรุ่งโรจน์ที่เคยมีก็จะมลายหายไปสิ้น
ผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ของจงไห่คงกลายเป็นตัวตลก
เทพเจ้าแห่งสงครามเก่ามองการณ์ไกล เลยเล็งเห็นปัญหานี้ได้ก่อนแล้ว ดังนั้นหลายปีนี้เลยพยายามหาทางออกให้ตระกูลฉู่มาโดยตลอด
แต่ก็หาคนที่เหมาะสมไม่ได้ซักที
จนกระทั่งครั้งนี้เฉินเฟิงปรากฏตัว ถึงทำให้เทพเจ้าแห่งสงครามเก่ามองเห็นความหวัง
ถ้าจะพูดว่าให้เทพเจ้าแห่งสงครามเก่าคุ้มครองเฉินเฟิง สู้พูดว่าเทพเจ้าแห่งสงครามเก่าวางเดิมพันข้างเฉินเฟิงดีกว่า
เขากำลังเดิมพัน เดิมพันว่าเฉินเฟิงไม่ใช่คนธรรมดา เขาพนันอนาคตของเฉินเฟิงว่าจะมีความสามารถต้านทานตระกูลเฉินได้!
ถ้าเขาพนันถูก ตระกูลฉู่ก็มีทางรอดแล้ว
เขาไม่เชื่อหรอกว่า เฉินเฟิงที่กล้าแกร่งขึ้นมาจะไม่ยอมยื่นมือเข้าช่วยตระกูลฉู่หลังจากที่เขาตายไปแล้ว
เฉินเฟิงเงียบไปนาน ฉู่ชีงฉือพูดถูกมาก ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือเวลา ขอเพียงให้เวลาเขา เขาถึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตขึ้นมา
แต่เทพเจ้าแห่งสงครามเก่าจะให้เวลาสามปีห้าปีกับเขาได้จริงหรอ?
ตระกูลเฉินจะยอมให้เทพเจ้าแห่งสงครามเก่าให้เวลาสามปีห้าปีกับเขาจริงหรอ?
ผ่านไปสักพัก เฉินเฟิงส่ายหน้าบอก: “คุณหนูฉู่ ผมยังยืนยันคำเดิม ความหวังดีของเทพเจ้าแห่งสงครามเก่าผมขอรับด้วยใจ แต่ผมยังไปตระกูลฉู่ตอนนี้ไม่ได้”
ผู้หญิงข้างกายเฉินเฟิงแต่ละคนสวยๆทั้งนั้น ขนาดดาราใหญ่อย่างฉู่ชีงฉือยังดูมีใจให้เขาเลย
“ยังจะมาบอกเปล่าอีก กลิ่นหึงของเธอน่ะห่างไปห้ากิโลยังได้กลิ่นเลย” เซียวรั่วกระเซ้าให้หนึ่งดอก
หลินหวั่นชีวหน้าแดงเรื่อ ก้มหน้าลงต่ำทันที
“หวั่นชีว ที่จริงเธอไม่ต้องหึงฉู่ชีงฉือหรอก ฉันดูออกนะว่า พี่เฟิงน่ะไม่ได้คิดอะไรกับฉู่ชีงฉือเลย”
“ส่วนฉู่ชีงฉือคิดอะไรกับพี่เฟิง...อันนี้ฉันไม่แน่ใจละ แต่อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ เพราะฉู่ชีงฉือเป็นถึงดาราสาวที่โด่งดังที่สุดในประเทศตอนนี้ ผู้ชายที่ตามจีบเธอต่อแถวยาวจากนี่ไปถึงฝรั่งเศสแหน่ะ ผู้ชายแบบไหนบ้างล่ะที่เธอไม่เคยเจอ? ถึงพี่เฟิงจะดี แต่เทียบกับผู้ชายที่ตามจีบเธอแล้วยังด้อยอยู่เยอะนะ” เซียวรั่ววิเคราะห์ ฐานะของเฉินเฟิงเธอยังไม่แน่ใจ แต่ฐานะของฉู่ชีงฉือมันเห็นกันอยู่ชัดๆนี่นะ
ความแตกต่างกันของทั้งคู่ คนมีตาใครๆก็ดูออก
หลินหวั่นชีวกัดปากไม่ได้ว่าอะไร บางทีโลกนี้อาจจะมีผู้ชายที่ดีกว่าเฉินเฟิงไม่น้อยเลย แต่ในสายตาเธอ เฉินเฟิงกลับดีที่สุด
ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้
“จริงสิ พี่เฟิงทำงานอะไรกันแน่น่ะ? ฉันว่าเขาแปลกมากเลย ดูเหมือนคนกระจอก แต่กลับมีเพื่อนเป็นดาราดังอย่างฉู่ชีงฉือ”
“แถมครั้งที่แล้วคุณอาที่มาช่วยเธอกับพี่เฟิงน่ะ เธอรู้ไหม? รถที่คุณอาคนนั้นขับน่ะเป็นLand Roverรุ่นกันกระสุนด้วยนะ”
“รถแบบนี้คนในประเทศไม่มีปัญญาได้ขับหรอก...”
“ฉันชอบรู้สึกว่าพี่เฟิงน่าจะมีฐานะอื่นอีก หวั่นชีว ถ้าเธอคิดจะคบกับเขาจริงๆ เธอต้องถามเรื่องพวกนี้ให้แน่ชัดนะ” เซียวรั่วแนะนำเป็นข้อๆอยู่ข้างๆ
หลินหวั่นชีวมองเซียวรั่วอย่างลำบากใจ: “พี่เซียวรั่ว ฉันไม่เคยคิดจะคบกับพี่เฉินเฟิงเลยค่ะ”
“ที่จริงพี่เฉินเฟิงเขา...แต่งงานแล้ว”
“อะไรนะ?!” เซียวรั่วเบิกตากว้างอย่างตะลึง: “เธอบอกว่าพี่เฟิงแต่งงานแล้ว?!”
“ค่ะ” หลินหวั่นชีวพยักหน้า: “พี่เฉินเฟิงเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมีย ภรรยาของเขาสวยมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...