บทที่ 487 เลี้ยงหมาก็ไม่ยอมใส่เชือกคล้องคอหมา
หลังจากที่ผู้หญิงวัยกลางคนเดินมายืนด้านหน้าหลินหลัน ก็มองหลินหลันหัวจรดเท้า เมื่อเห็นว่าหลินหลันแต่งตัวเสื้อผ้าแบรนด์เนม สีหน้าของหญิงสาวถึงได้ดีขึ้นหน่อย จากนั้นก็เอ่ยปากถาม “เอาเงินมาหรือเปล่า?”
“แผลบนขาของสามีฉัน แกเป็นคนทำใช่ไหม?!”
หลินหลันยังไม่ทันตอบคำถามของผู้หญิงคนนั้น แต่กัดฟันถามผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นแทน
ผู้หญิงวัยกลางคนย่นคิ้วหากัน “ฉันถามแกว่าเอาเงินมาหรือเปล่า? แกฟังคำพูดไม่เข้าใจเหรอ?”
“แกพูดออกมาก่อนว่ารอยแผลที่อยู่บนตัวสามีฉันใครเป็นคนทำ เราค่อยพูดเรื่องเงิน!” หลินหลันตอบด้วยความโมโห
“อ้อ รอยแผลบนขาสามีของแก ฉันไม่ได้เป็นคนทำ” ผู้หญิงวัยกลางคนมองมาทางเสี้ยเว่ยกั๋ว แล้วพูดเพิ่ม “ลูกชายฉันเป็นคนทำ”
“ลูกชายแกอยู่ที่ไหน?!”
“อยู่ที่นั่น” หญิงวัยกลางคนเหล่ตามองไปทางขวา หลินหลันกับเสี้ยเมิ่งเหยาก็มองตามสายตาผู้หญิงวัยกลางคนไป หลังจากที่เห็น ‘ลูกชาย’ ที่ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยถึงมันก็คือหมาทิเบตตัวสีดำ ดวงตาของหลินหลันและเสี้ยเมิ่งเหยา ลุกโชนไปด้วยความโกรธเคือง
“เฉินเฟิง ฆ่าไอ้สัตว์นั่นให้ตายซะ!” หลินหลันใกล้จะระเบิดอารมณ์ เพราะเธอคิดว่า เสี้ยเว่ยกั๋วไปฆ่าคน ถึงได้มีสภาพเป็นอย่างนี้ แต่พอมาเห็นภาพ ก็แค่หมาทิเบตสีดำทำให้อยู่ในสภาพนี้
“ใครพูดว่ามันเป็นสัตว์กัน? อีผู้หญิงชั้นต่ำ!”
เฉินเฟิงยังไม่ได้สติกลับมา หญิงวัยกลางคนก็เริ่มระเบิดอารมณ์ “พูดจาระวังปาก นี่มันลูกชายกู มันไม่ใช่สัตว์”
“ลูกชาย? แกเรียกหมาว่าลูกชาย? แกนี่เป็นคนหรือเป็นหมา?!” หลินหลันเกือบจะระเบิดอารมณ์เต็มที
“พ่อ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เฉินเฟิงไม่สนใจที่ทั้งสองคนกำลังทะเลาะกัน ในเวลานี้ ที่เขาสนใจคือ เรื่องมันเป็นมายังไง เสี้ยเว่ยกั๋วไม่ใช่คนที่หาเรื่องไปทั่ว โดยปกติแล้ว เขาคงไม่หาเรื่องกับผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้
เสี้ยเว่ยกั๋วมองมาที่เฉินเฟิง และพูดด้วยความอ่อนล้า “หลังจากลงเครื่องมา ฉันก็เรียกรถ เพื่อจะได้ไปหาพวกแก แต่คนขับรถฟังไม่ถนัดตอนที่ฉันบอกสถานที่ เลยพาฉันมาที่นี่”
“หลังจากลงรถแล้ว ฉันก็เตรียมจะเรียกรถอีกคันไปหาพวกแก จากนั้นก็เห็นผู้หญิงคนนี้กำลังพาหมาเดินเล่น ตอนนี้คนที่อยู่ด้านหน้าหมู่บ้านก็เยอะแยะ เธอเดินเล่นกับหมาทิเบตตัวโต แถมไม่มีเชือกคล้องคอ ฉันกลัวว่าหมาทิเบตตัวนี้มันจะกัดเด็ก เลยแนะนำให้เธอเอาเชือกมาคล้องคอหมาทิเบต”
“ตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ได้ยินแล้วไม่ถูกใจ บอกว่าหมาทิเบตตัวนี้มันเป็นลูกชายของเธอ เธอไม่สามารถเอาเชือกมาคล้องคอลูกชายตัวเองได้”
“ฉันเลยโมโห เลยมีปากเสียงกับเธอไปสองสามคำ จากนั้นเธอก็ให้หมาทิเบตตัวนี้กระโจนเข้ามากัดฉัน...”
“ฉันรู้แล้ว พ่อ พ่อพักก่อน เดี๋ยวเรื่องนี้ ฉันจัดการเอง”
เฉินเฟิงพยักหน้าให้ พลางพันไปมองทางผู้หญิงวัยกลางคน พร้อมทั้งถามกลับด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ที่พ่อฉันพูด จริงไหม?”
“แกเป็นใคร?” หญิงสาววัยกลางคนขมวดคิ้วมองมาทางเฉินเฟิง ความรู้สึกของผู้หญิงบอกกับเธอว่า เฉินเฟิงที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่คนที่จะพูดง่าย
“ที่ฉันถามแก ที่พ่อฉันพูด จริงไหม?!”
เฉินเฟิงยังคงสีหน้าเช่นเดิม พร้อมทั้งเน้นย้ำทีละคำ
“จริงแล้วจะยังไง?” หญิงวัยกลางคนเบะปากให้ พลันเธอหันมามองเสี้ยเว่ยกั๋วอย่างดูถูก แล้วพูดว่า “ไอ้บ้านนอกนี่ ไม่มองสภาพตนเองว่าเล่นตลกเรื่องอะไร กล้ามาบอกให้กูเอาเชือกไปคล้องคอลูกกู กูไม่สั่งให้ลูกชายกันมันให้ตายห่าไปซะก็ดีแค่ไหนแล้ว....”
“เพี๊ยะ”
หญิงวัยกลางคนยังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงตบดังฟังชัดดังขึ้นในสถานการณ์นั้น
การตบในครั้งนี้ เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นคนตบ
ในเวลานั้น เสี้ยเมิ่งเหยาได้แต่กัดฟันทนมองผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ แล้วพูดว่า “แกเชื่อหรือเปล่าว่าฉันจะฆ่าแก?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...