บทที่ 572 อยู่ต่อ – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกเขยมังกร
ตอนนี้ของ ลูกเขยมังกร โดย เมฆทอง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 572 อยู่ต่อ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 572 อยู่ต่อ
สิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจคือ ทำไมคนเหล่านี้ถึงต้องการลักพาตัวเธอ? ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เธอก็ไม่มีค่าพอที่จะถูกลักพาตัวไป
“เพราะพ่อของเธอ” เฉินเฟิงพูด
“พ่อของฉัน?” หลินหวั่นชีวตะลึง
เฉินเฟิงถอนหายใจ เมื่อเห็นหลินหวั่นชีวท่าทางแบบนั้น เหมือนไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองมีพ่ออีกคน ไม่แน่แม้แต่ชื่อของหลินชีงตี้เธอก็อาจจะไม่รู้จัก
“ใช่ พ่อของเธอ เขาชื่อหลินชีงตี้...
เฉินเฟิงไม่คิดปกปิด แต่เล่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างหลินชีงตี้และแม่ของหลินหวั่นชีวแต่ในแผนของหลินชีงตี้เห็นได้ชัดว่า หลินหวั่นชีวมีความสำคัญอย่างยิ่ง
หลังจากฟังเฉินเฟิงพูดจบ หลินหวั่นชีวก็ยังไม่ได้สติกลับมา เธอไม่คาดคิดว่าพ่อของเธอจะมีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ หนึ่งในเก้าปรมาจารย์ภายในหวาเซี่ยและเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก
“พี่เฉินเฟิง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้จักชื่อพ่อ”
หลินหวั่นชีวมองไปที่เฉินเฟิงด้วยใบหน้าที่ซับซ้อน “ก่อนหน้านี้ฉันเคยถามแม่ของฉัน แต่แม่ไม่เคยบอกฉัน เธอบอกเพียงว่าพ่อของฉันเป็นคนตรงไปตรงมาและวันหนึ่งเขาจะกลับมาหาฉัน”
เฉินเฟิงไม่พูดอะไร ประสบการณ์ของเขาค่อนข้างคล้ายกับหลินหวั่นชีว เมื่อเขายังเป็นเด็กเมื่อใดก็ตามที่เขาถามซูจ้าวชิงเกี่ยวกับเฉินห้าวเทียน ซูจ้าวชิงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้
มีช่วงเวลาที่หนึ่ง ที่รู้สึกเกลียดเฉินห้าวเทียนจากก้นบึ้งของหัวใจ เขารู้สึกว่าเฉินห้าวเทียนเป็นคนที่ขาดความรับผิดชอบที่ทอดทิ้งภรรยาและลูกชายของเขา
แต่ซูจ้าวชิงบอกว่าเฉินห้าวเทียนเป็นผู้ชายที่ไม่ย่อท้อที่สุดในโลก
เฉินเฟิงส่ายหัว เขาไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอีกต่อไป งานเร่งด่วนที่สุดคือการหาวิธีที่จะทำให้หลินหวั่นชีวปลอดภัย
“ฉันจะพาเธอกลับก่อนเถอะ” เฉินเฟิงพูด
“กลับ? จะกลับที่ไหน?” หลินหวั่นชีวผงะ
“หวาเซี่ย ไม่นานจะมีคนมารับเธอ” เฉินเฟิงบอกว่าก่อนที่จะมาญี่ปุ่นเขาได้ติดต่อกับสือโพ่จุนในญี่ปุ่นผ่านทางสหพันธ์สงคราม เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเขาได้แจ้งแผนกอ้านเสินอิ่น ในไม่ช้าคนของแผนกอ้านเสินอิ่นจะเข้ามารับ หลินหวั่นชีวและส่งLไปที่สหพันธ์สงคราม
“นายล่ะ พี่เฉินเฟิง พี่จะไม่กลับกับฉันเหรอ?” หลินหวั่นชีวถามโดยไม่รู้ตัว
เฉินเฟิงส่ายหัว “ตอนนี้ฉันยังกลับไม่ได้”
“ทำไม?”
“ฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการ ฉันกลับไปไม่ได้จนกว่าฉันจะจัดการเรื่องในมือให้เสร็จ” เฉินเฟิงพูด ตอนนี้เขาไม่สามารถไปกับLได้อยู่แล้ว เขาเพิ่งฆ่านินจาจำนวนมากเป็นไปไม่ได้ที่ญี่ปุ่นจะปล่อยให้เขาออกไปจากประเทศอย่างผยอง
อีกอย่างหลินหวั่นชีวมีตัวตนในฐานะทายาทปรมาจารย์บวกกับความกดดันของสหพันธ์สงครามจากสมาคมบูโดที่ ตราบใดที่หลินหวั่นชีวถูกส่งไปที่สหพันธ์สงคราม ญี่ปุ่นก็จะปล่อยหลินหวั่นชีวกลับไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“พี่เฉินเฟิง ถ้าพี่อยู่ที่ญี่ปุ่นฉันกลัวว่ามันจะอันตรายมาก...” หลินหวั่นชีวกังวลเล็กน้อยแม้ว่าเธอจะไม่รู้เรื่องอะไร แต่เธอก็เข้าใจความจริงที่ว่าการฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต
ยิ่งไปกว่านั้นเฉินเฟิงฆ่าคนไม่ได้หนึ่งหรือสองคนแต่เป็นร้อยคน!
วงการศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นและคนทั่วหล้าจะต้องไม่ปล่อยเขาไป
“ไม่เป็นไร ไม่อันตรายเชื่อฉันเถอะ” เฉินเฟิงยิ้มมันอันตรายแน่นอน ถ้าเขาอยู่ในญี่ปุ่น ถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นคนในวงการศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นและคนทั่วหล้าจะตามล่าเขา
แต่นี้ก็ไม่ใช่ไม่มีทางออก
สิบนาทีต่อมา รถญี่ปุ่นสีดำคันหนึ่งหยุดอยู่ข้างทาง
ชายคนหญิงคนลงจากรถ
ทั้งชายและหญิงสวมชุดดำเกือบจะกลมกลืนไปกับแสงค่ำคืน
หลังจากทั้งสองลงจากรถแล้วพวกเขาก็มองไปรอบ ๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา จากนั้นพวกเขาก็โทรหาเฉินเฟิง แล้วกระซิบ “รุ่นพี่ พวกเราถึงแล้ว”
ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากคนเหล่านี้แล้ว สมาคมการค้าเชียสุ่ยต้องมีการปรับใช้อื่น ๆ เป็นไปไม่ได้ที่เฉินเฟิงจะช่วยออกมาได้อย่างรวดเร็ว
“นายคิดว่าฉันจะเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นกับนายหรือไง?”
เฉินเฟิงเหลือบมองพวกเขาสองคนและพูดเบา ๆ
ทั้งสองส่ายหัวอย่างเร่งรีบ แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่เชื่อว่าเฉินเฟิงช่วยออกมาได้เร็วขนาดนี้ แต่เฉินเฟิงพูดแบบนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะตั้งคำถามอีกต่อไป
“มากับฉัน”
เฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไร แต่พาทั้งสองตรงไปยังสถานที่ที่หลินหวั่นชีวซ่อนตัวอยู่
เมื่อพวกเขาเห็น หลินหวั่นชีวตัวจริงดวงตาของพวกเขาก็กลม
ช่วยออกมาได้จริงๆ!
เฉินเฟิงไม่ได้ล้อเล่น! เขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร?!
"หลินหวั่นชีว อีกสักพักไปกับ........ใช่แล้ว พวกนายชื่ออะไรกัน?” พูดมาได้ครึ่งทางเฉินเฟิงนึกได้ว่าเขาไม่รู้จักชื่อของชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา
“หูหลี”
“จ้าวซินเย่ว”
ทั้งสองรีบตอบอย่างเคารพ ณ พวกเขาทั้งสองเคราพเฉินเฟิงอย่างมาก
ก่อนที่จะได้รับข่าวจากสือโพ่จุน ได้ยินว่าเฉินเฟิงมาที่ญี่ปุ่นเพื่อช่วยชีวิตตามลำพัง ยังรู้สึกว่าเฉินเฟิงไม่รู้จักกำลังตัวเอง สำนักขวัญนินจาเป็นถึงหนึ่งในสำนักที่มีกำลังมากอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น หากต้องการช่วยคนจากกองกำลัง เกรงว่าแม้แต่จะมองท้องฟ้ายังยาก
แต่ผลก็คือภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง เฉินเฟิงก็นำคนนั้นออกจากสำนักขวัญนินจาได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ขั้นตอนในการช่วยชีวิตคน แต่เขาก็สามารถคิดได้ด้วยปลายเท้าของเขาว่ามันต้องเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...