บทที่ 589 กระทำกับคนหวาเซี่ย ไกลแค่ไหนก็ต้องฆ่า
แม้กระทั่ง บ่อนการพนันในต่างประเทศที่มีชื่อเสียงบางแห่งก็เปิดให้พนันสิ่งนี้เช่นกัน เปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้ที่เฉินเฟิงสามารถหนีออกมาจากประเทศญี่ปุ่นได้มีเพียงหนึ่งส่วนห้า เปอร์เซ็นต์ที่เฉินเฟิงตายอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมีหนึ่งส่วนสี่
จากเปอร์เซ็นต์ที่เห็น บ่อนการพนัน ไม่เชื่อว่าเฉินเฟิงจะสามารถมีชีวิตหนีออกมาจากประเทศญี่ปุ่นได้
เพราะในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ยังไม่เคยมีใคร สามารถมีชีวิตรอดมาจากการล้อมปราบของสำนักจัานถังเสินอิ่น กับหน่วยตระเวนร่วมมือกัน
ยังไงสำนักจัานถังเสินอิ่น กับหน่วยตระเวนร่วมมือกัน สามารถใช้อาวุธที่ทันสมัยชนิดรุนแรงในการสังหาร และยังใช้กลวิธียุทธนาวี ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกอยู่ในรายชื่อเซียนอันดับที่หนึ่ง ก็ไม่สามารถต้านทานได้
ในขณะที่วงการศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก กำลังพูดถึงเรื่องของเฉินเฟิงกันอยู่อย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน เรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งเทียบท่าเรือปูซานประเทศกาวลี่อย่างตรงเวลา
เฉินเฟิงไปจากเรือบรรทุกสินค้าอย่างไร้ร่องรอย หลังจากนั้นก็ออกไปจากท่าเรืออย่างโจ่งแจ้ง ไม่ได้เป็นที่สังเกตของพวกผู้คน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เขานั่งรถมายังโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในปูซาน เช็คอินเข้าพักห้องหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้ให้ทิฟพนักงานเป็นจำนวนเงินไม่น้อย เพื่อให้อีกฝ่ายช่วยซื้อเสื้อผ้ามาให้เขา
เฉินเฟิงเข้าไปในห้องพัก อาบน้ำอุ่นอย่างสุขสบาย หลังจากนั้นก็จองตั๋วเครื่องบินบินกลับไปหวาเซี่ย
“ติ๊งต่อง...”
หลังจากที่เฉินเฟิงทำทุกอย่างนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
เฉินเฟิงลุกขึ้นมาเปิดประตู ที่ปรากฏในสายตาของเขาไม่ใช่พนักงานโรงแรม แต่เป็นกลุ่มตระเวนติดอาวุธหนัก และมีนักรบอีกจำนวนไม่น้อย
เรื่องทั้งหมดที่เฉินเฟิงกระทำในประเทศญี่ปุ่น ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ทุกประเทศจัดอันดับระดับความอัตรายของเขา สูงถึงระดับSSS เป็นระดับที่อัตรายที่สุด
หลังจากที่เฉินเฟิงเช็คอินเข้าพักโรงแรม ประเทศกาวลี่ก็ได้รับข่าวเป็นอันดับแรก
เห็นหน่วยตระเวนติดอาวุธหนักแต่ละคน บนใบหน้าของเฉินเฟิงไม่มีความตื่นตระหนกเลยสักนิด ไม่มีแม้แต่ความประหลาดใจ เขาคาดการณ์ทั้งหมดนี้ไว้แต่แรกแล้ว
“นายตระเวน ผมแค่มาพักที่นี่เพื่อเปลี่ยนเส้นทางกลับหวาเซี่ยเท่านั้น ผมไม่ได้คิดที่จะทำอะไรที่นี่ พวกคุณเองก็ไม่คาดหวังให้ผมทำอะไรที่นี่ ใช่ไหม?” เฉินเฟิงมองดูหัวหน้าหน่วยตระเวน แล้วยิ้มพูด
“ผมสามารถเข้าไปคุยกับคุณได้ไหม?”
หลังจากที่เฉินเฟิงพูดเสร็จ หัวหน้าหน่วยตระเวน จ้องมองดูเฉินเฟิงหลายวินาที แล้วพูดขึ้น
เขาเป็นหัวหน้าหน่วยตระเวนของปูซาน ตั้งใจพาคนมาไม่ได้มาเพื่อจับตัวเฉินเฟิง แค่อยู่รู้จุดประสงค์ที่เฉินเฟิงมาปูซานให้ชัดเจน
“แน่นอน”
เฉินเฟิงยิ้มพร้อมพยักหัว แล้วยื่นมือเชื้อเชิญ
หัวหน้าหน่วยตระเวนปูซาน ยื่นมือแสดงท่าทางไปยังกลุ่มตระเวนพิเศษติดอาวุธหนักที่อยู่ข้างหลังเขา กลุ่มตระเวนเห็นแล้ว ต่างก็ถอยออกไป
“คุณเฉิน ก่อนอื่นต้องขอแจ้งให้ทราบว่า หน่วยตระเวนของปูซานตลอดจนประเทศกาวลี่ไม่ต้อนรับคุณ ผมก็เชื่อว่า หน่วยตระเวนประเทศใดๆในทั่วโลกล้วนต่างก็ไม่ต้อนรับคุณ” หัวหน้าหน่วยตระเวนปูซานเข้ามาในห้อง นั่งบนโซฟา แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเข้ม
“เช่นเดียวกัน พวกคุณก็ไม่คาดหวัง ที่จะเป็นศัตรูกับผม” เฉินเฟิงยิ้มพูด
“ใช่ครับ”
หัวหน้าหน่วยตระเวนปูซานยอมรับข้อนี้ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “เพราะเหตุนี้ ผมถึงได้พาคนมาหาคุณ ไม่ได้อยากจับกุมคุณ พวกเราเองก็ไม่มีความสามารถนั้น ผมแค่อยากรู้จุดประสงค์ที่คุณมาปูซาน และอยากรู้ว่าคุณจะไปจากที่นี่เมื่อไหร่”
“ผมเพิ่งจองตั๋วเครื่องบินเมื่อกี้ เดี๋ยวก็จะไปสนามบินทันที” เฉินเฟิงพูดขึ้น
“คุณเฉิน เพื่อรับประกันว่าสิ่งที่คุณพูดคือความจริง ผมต้องให้ลูกน้องของผมติดตามคุณภายในสองชั่วโมงนี้ จนกว่าคุณจะไปจากปูซาน คุณคิดว่าได้ไหม?” หัวหน้าหน่วยตระเวนปูซานพูดขึ้นอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ขอความเห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...