บทที่ 658 แสดงความเป็นเจ้าของ
โรงแรมหูเจียงถึงแม้จะเทียบเกสต์เฮาส์ซีหูไม่ได้ แต่เพราะตั้งอยู่ด้านข้างทะเลสาปม้าขาว แถมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมล้วนหรูหราและดีที่สุด เป็นอุตสาหกรรมโรงแรมแห่งใต้เจ้อเจียงแห่งเดียวในทะเลสาบตะวันตก งานประชุมสำคัญต่างๆล้วนเลือกที่จะมาจัดที่นี่ กิจการดีมาก โรงแรมหูเจียงเป็นบริษัทในเครือของบริษัทหูเจียง เฉินเฟิงอ้างที่ตนบาดเจ็บ ไม่ได้ดื่มเหล้า แต่เรื่องมารยาทยังไงก็ต้องมี เมื่องานเลี้ยงเริ่มดำเนินมาได้ครึ่งชั่วโมง เขากับเสี้ยเมิ่งเหยา เดินขอเชิญดื่มเหล้ากับแขกทุกห้อง
ห้องแรกที่เขาไปขอเชิญดื่มเหล้าก็คือห้องที่ก่วนหนานเทียนอยู่
ภายในห้องนอกจากมีก่วนหนานเทียน ยังมีอู่คง ปรมาจารย์คงเหมิง ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงในหวาเซี่ย “เฉินเฟิง เดิมคืนนี้ผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษากับคุณ แต่เมื่อกี้เด็กพวกนั้นมาขอเชิญดื่มเหล้า ดื่มไปเยอะแล้ว พรุ่งนี้พวกเราค่อยคุยกัน” หลังจากขอเชิญดื่มเหล้าเสร็จ ก่วนหนานเทียนพูดกับเฉินเฟิงด้วยสีหน้าแดงๆ
เดิมด้วยความสามารถในการต่อสู้ของก่วนหนานเทียน หากจะใช้ลมปราณขับแอลกอฮอล์ออกมา ต่อให้เป็นพันแก้วก็ไม่มีทางเมา แต่คนในวงการศิลปะการต่อสู้ มีหนึ่งกฎอย่างไม่เป็นทางการในการร่วมทานอาหารด้วยกัน นั่นก็คือไม่ให้ใช้ลมปราณขับแอลกอฮอล์ ออกมา
เช่นนี้ นอกจากถูกคนในห้องขอเชิญดื่มเหล้าแล้ว นักสู้ในวงการศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดที่มาในวันนี้ ต่างก็มาขอเชิญดื่มเหล้า ดื่มไปเป็นร้อยแก้ว จนค่อนข้างเมาแล้ว
ได้ยินคำพูดของก่วนหนานเทียน ในใจทุกคนกระตุก แล้วก็เดาขึ้นมาได้ว่า เรื่องที่ก่วนหนานเทียนจะคุยกับเฉินเฟิง เกี่ยวข้องกับการประชุมศิลปะการต่อสู้ระดับโลก
“ได้ครับ ท่านประมุขก่วน” เฉินเฟิงก็เดารู้ว่าเป็นเรื่องนี้ เขาพยักหัว พร้อมประคองก่วนหนานเทียนนั่งลง แล้วพูดกับทุกคนว่า “ปรมาจารย์ทุกท่าน ผมได้ให้คนจัดเตรียมห้องพักไว้ให้กับทุกคนแล้ว สักครู่จะมีพนักงานโรงแรมเอาคีย์การ์ดมาให้ที่นี่ แน่นอน หากท่านใดอยากกลับไปยังโรงแรมเดิมก่อนหน้านี้ ให้บอกพนักงาน จะมีรถส่งท่านกลับไป”
“เฉินเฟิงรอบคอบจริงๆ มา พวกเรามาเชิญคุณสักแก้ว ขอแสดงความยินดีกับรับชัยชนะที่ได้กลับมาในวันนี้”
ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง จ้าวอู๋เต้าเจ้าสำนักปากั้วหัวเราะพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นมา เสนอให้ทุกคนเชิญเฉินเฟิงดื่มหนึ่งแก้ว
เมื่อจ้าวอู๋เต้าเสนอขึ้นมา ทุกคนต่างก็ตอบรับ เฉินเฟิงดื่มน้ำแทนเหล้า ดื่มน้ำเปล่าไปหนึ่งขวด แล้วก็พาเสี้ยเมิ่งเหยาออกไปจากห้อง
ห้องที่สองยังคงเป็นเจ้าสำนักแต่ละสำนัก ของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ เพียงแต่ไม่ได้มีชื่อเสียงเหมือนกับพวกปรมาจารย์คงเหมิง พวกเขารู้สึกขอบคุณต่อการที่เฉินเฟิงขอเชิญดื่มเหล้า ในขณะเดียวกันก็เชิญเฉินเฟิงด้วยหนึ่งแก้ว
หลังจากนั้น เมื่อเฉินเฟิงมาขอเชิญดื่มเหล้าถึงห้องของพวกลูกศิษย์แต่สำนัก ทุกคนต่างก็ค่อนข้างไม่คาดฝัน พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะมาขอเชิญพวกเขาดื่มเหล้า
“คุณเฉิน”
และเมื่อเฉินเฟิงมาถึงห้องของพวกเจี่ยหวั้นเหา ลู๋เจิ้งเฟิง ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นมา ทักทายเฉินเฟิงเป็นอันดับแรก
หนึ่งในนั้น ลู๋เจิ้งเฟิงดึงเก้าอี้มาตัวหนึ่ง บ่งบอกให้เฉินเฟิงนั่งด้านข้างเขาที่มีที่นั่งว่าง
นั่นเป็นที่นั่งหัวโต๊ะ เป็นที่นั่งของประมุข
ตำแหน่งที่นั่งตรงนั้น ว่างตั้งแต่งานเลี้ยงเริ่ม ทุกคนตั้งใจเว้นไว้ให้เฉินเฟิง
“ทุกคนเชิญนั่ง” เฉินเฟิงเห็นแล้ว จึงยิ้มพูด แล้วก็ไปนั่งตรงที่นั่งประมุข พร้อมกับเสี้ยเมิ่งเหยา
ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง รวมถึงผู้ที่อาวุโสที่สุด ลู๋เจิ้งเฟิงที่มีสถานะสูงสุด ไม่มีใครนั่ง จนเฉินเฟิงนั่งลงแล้วพูดอีกครั้ง พวกเขาถึงค่อยนั่งลง
ถึงแม้พวกเขาล้วนเป็นจักรพรรดิบนดินของวงการใต้ดินหวาเซี่ย แต่ตรงหน้าเฉินเฟิงที่มีความสามารถขนาดนี้ พวกเขากลับไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้
“ทุกคน ขอบคุณที่เสียสละอันมีค่าเพื่อมาที่นี่ ผมขอดื่มขอบคุณพวกคุณหนึ่งแก้ว”
เฉินเฟิงยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วก็พูดขึ้นว่า “แต่เพราะร่างกายผมไม่อำนวย คืนนี้จึงต้องใช้น้ำแทนเหล้า ขอทุกท่านเข้าใจ”
“เข้าใจเข้าใจ ร่างกายสำคัญที่สุด”
ลู๋เจิ้งเฟิงยกแก้วเหล้าขึ้นมา ยิ้มพร้อมพูดขึ้น คนอื่นๆต่างก็พยักหัวเห็นด้วย แล้วก็ยกแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว
“คุณเฉิน พวกเราก็ขอเชิญคุณดื่มหนึ่งแก้ว ขอแสดงความยินดีที่คนชนะทายาทตระกูลตระกูลจิ่ง” เจี่ยหวั้นเหายกแก้วเหล้าขึ้นมาพร้อมพูดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...