บทที่ 671 วิธีการคัดเลือก
กับบทสนทนาก่อนหน้าเฉินเฟิงไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ
เนื่องจากตอบโต้ในตอนนี้ก็ไม่มีความหมายอะไร สิ่งเดียวที่เขาต้องทำก็คือชนะฉู่เหออย่างสง่าผ่าเผยในช่วงการแข่งขัน!
หลังจากเฉินเฟิงและฉู่เหอต่างก็กลับเข้าที่พักของตัวเอง สีหน้าของอู่จื่อโจวจึงดูดีขึ้นไม่น้อย
เขากวาดสายตามองทุกคนแวบหนึ่งก่อนเอ่ย “คิดว่าทุกท่านคงจะรู้สาเหตุที่ผมเรียกทุกท่านมาในวันนี้แล้ว”
“ผู้อาวุโสอู่ พวกเรารู้อยู่แล้วว่าที่เรียกมาก็เพราะเรื่องการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ยังไงรบกวนผู้อาวุโสอู่รีบบอกวิธีการคัดเลือกเถอะ” ไม่รอให้อู่จื่อโจวพูดจบ จียุ่นก็เอ่ยตัดบทอย่างรีบร้อน
“ยุ่นเอ๋อ!”
ทว่าอู่จื่อโจวไม่ได้โกรธแต่อย่างใด กลับเป็นจีอู๋ฉางที่มองจียุ่นด้วยสายตาไม่พอใจราวกับไม่พอใจกับการกระทำของจียุ่นเป็นอย่างมาก
“ใจเย็นๆ ผมกำลังจะบอกวิธีการคัดเลือกแก่ทุกท่าน”
“แต่ว่าก่อนที่จะบอกวิธีการคัดเลือกแก่พวกคุณ ผมมีเรื่องจะต้องอธิบายก่อนนั่นก็คือการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ทางสหพันธ์วูซูนานาชาติให้โควตาประเทศละหนึ่งคนเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวาของเราจะมีจอมยุทธ์เพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่จะเป็นตัวแทนประเทศเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน” อู่จื่อโจวอธิบายอย่างไม่รีบร้อน
“คนเดียวอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของอู่จื่อโจวก็มีหลายคนในที่นี้ต่างขมวดคิ้วมุ่น ตามหลักการแล้วประเทศที่มีศิลปะการต่อสู้แข็งแกร่งอย่างประเทศหวาควรจะได้โควตาอย่างน้อยสามคน คนเดียวนั้นถือว่าน้อยเกินไป
อีกทั้งคนที่มาแย่งชิงโควตาเพียงหนึ่งเดียวนั้นล้วนเป็นความภาคภูมิใจของวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวา ความสามารถของพวกเขานั้นไม่ได้ทิ้งห่างกันมาก ดังนั้นสุดท้ายถึงแม้จะได้ผู้ชนะก็อาจจะไม่ได้แสดงถึงมาตรฐานสูงสุดด้านศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวาได้
“ผู้อาวุโสอู่ ทำไมปีนี้ทางสหพันธ์วูซูถึงให้โควตาประเทศหวาแค่คนเดียวล่ะ?” ชั่วอึดใจจีอู๋ฉางก็เอ่ยถามข้อสงสัยของตัวเอง เพราะว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในปีที่ผ่านๆมา สหพันธ์วูซูนานาชาติให้โควตาประเทศหวาอย่างน้อยสามคน ทว่าปีนี้กลับเปลี่ยนเป็นคนเดียว
“เพราะว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในปีที่ผ่านมา ประเทศหวาของเราทำได้แย่มาก” ราวกับรู้อยู่แล้วว่าจีอู๋ฉางจะต้องถามคำถามประมาณนี้ อู่จื่อโจวจึงเอ่ยตอบอย่างเรียบเฉย
“ทำได้แย่มากอย่างนั้นหรือ?” เมื่อได้ยินคำตอบของอู่จื่อโจว จีอู๋ฉางก็ชะงักไป
“ใช่แล้วล่ะ ทำได้แย่มาก” อู่จื่อโจวพยักหน้าอีกครั้งพลางเอ่ย “ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกประเทศหวาของเราไม่มีคนเข้าถึงรอบแปดคนสุดท้ายสามปีติดกันแล้ว ดังนั้นทางสหพันธ์วูซูนานาชาติจึงลดโควตาประเทศหวาจากสามคนเหลือเพียงคนเดียว”
เมื่อได้ยินคำตอบจากอู่จื่อโจวทุกคนในที่นี้ก็มีสีหน้าเลิ่กลั่ก การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกที่ปีที่ผ่านๆมาประเทศหวาทำได้แย่จริงๆนั่นแหละ
วงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวาทำได้แย่ ไม่เพียงแต่ประเทศหวาเท่านั้นที่เสียหน้า สหพันธ์บูโดและผู้ฝึกฝนการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างพวกเขาก็เสียหน้าด้วย
“ผู้อาวุโสอู่ หากมีเพียงแค่หนึ่งโควตา เช่นนั้นพวกเราห้าคนก็จะทำอย่างเต็มที่เพื่อแย่งชิงโควตานี้ ทว่าหากระหว่างนี้เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ เมื่อไปถึงสนามแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก เกรงว่าบาดแผลที่พวกเราได้รับจะส่งผลต่อการแสดงความสามารถของพวกเรา……” เทียนอิงอดที่จะเหลือบมองอู่จื่อโจวไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยปากถามอย่างเป็นห่วง ห้าคนที่ความสามารถไม่ทิ้งห่างกันมากต้องมาแย่งชิงโควตาเพียงหนึ่งเดียว ใช้หัวแม่เท้าคิดยังคิดได้เลยว่าระหว่างการคัดเลือกนี้จะโหดเหี้ยมแค่ไหน
เพราะยังไงความสามารถของทั้งห้าคนก็ใกล้เคียงกัน ไม่มีใครข่มใครลง ระหว่างการแย่งชิงจึงยากที่จะควบคุมพลังไม่ให้พลั้งมือ เมื่อถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่บาดเจ็บเลยอาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...