บทที่ 698 ครอบครัวโรโปรี
"ไม่เป็นไร องค์หญิงทรงเป็นคนที่คบหาคนง่าย จึงมีสหายเยอะ ทว่าก็ไม่ใช่ว่าสหายแบบไหนก็มีสิทธิ์มาที่นี่ ผมคิดว่าองค์หญิงแอนนี่น่าจะไม่อยากจะปฏิเสธ ไม่งั้นก็คงลืม ไม่เป็นไร ผมจะบอกกับองค์หญิงเอง! "
ข่ายซ่ามองไปยังนัยน์ตาของเฉินเฟิงที่เคล้าด้วยความดูหมิ่น จากมุมมองของเขาแล้ว การจะอยู่หรือจะไปของเฉินเฟิงก็ถูกควบคุมอยู่ในกำมือของเขา
ตอนนี้แม้กระทั่งแขกทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างก็มองเฉินเฟิงมีสายตาที่ดูหมิ่น เหมือนฝ่ายตรงข้ามไม่มีสิทธิ์มาร่วมงานฉลองกับพวกเขา เหมือนเฉินเฟิงต้องถูกไล่ออกจากงานเลี้ยงแน่นอน
ทว่าตอนนี้มีเพียงเซียวเอินที่แอบส่ายหัว คนอื่นไม่รู้ เขาก็จะไม่รู้ได้ยังไง องค์หญิงแอนนี่ที่สูงส่งและสง่าผ่าเผยในสายตาของคนอื่น นั้นเคารพนับถือ และรักใคร่ในเฉินเฟิง คนที่พวกเขาดูถูกมากขนาดไหน
เซียวเอินมองข่ายซ่า แล้วเห็นฝ่ายตรงข้ามยังคงทำสีหน้าที่เคล้าด้วยความได้ใจ เซียวเอินจึงอดเห็นใจฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ อย่าว่าแต่เขามีเพียงทายาทของครอบครัวโรโปรีเลย ต่อให้หัวหน้าครอบครัวโรโปรีไปคุยกับองค์หญิงแอนนี่ด้วยตัวเอง ให้เธอไล่เฉินเฟิงออก ผมเชื่อว่าองค์หญิงแอนนี่ก็คงไม่เห็นด้วยแน่นอน
ข่ายซ่าครุ่นคิดถึงองค์หญิงแอนนี่ กลัวว่าจะทิ้งความทรงจำไม่ดีให้กับฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นก็ไม่ได้ลงไม้ลงมือ แค่ว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว รอได้เจอองค์หญิงแอนนี่ ต้องยุโยงองค์หญิงแอนนี่อยู่ข้างๆ ว่าให้ไล่คนประเทศหวาออก
ในความคิดของเขา ตัวเองก็คนเป็นที่มีฐานะ และมีตำแหน่ง ถ้าเอ่ยปากบอกองค์หญิงแอนนี่ก็คงไม่มีทางไม่ให้เกียรติเขาอยู่แล้ว
ข่ายซ่าไม่เคยคิดถึงความสัมพันธ์ของเฉินเฟิงและแอนนี่ ในมุมมองของเขา ฝ่ายตรงข้ามแค่สามารถคบหากับองค์หญิงแอนนี่ได้ ก็อาจจะเพราะว่ารู้จักตอนไปเยี่ยมเยือนประเทศหวาเพื่อครั้งที่แล้ว อย่างมากก็แค่ทายาทรุ่นที่สองของข้าราชการไม่ก็ทายาทรุ่นที่สองเศรษฐี ฐานะแบบนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าข่ายซ่าแล้วก็ไม่สำคัญอะไรเลยจริงๆ
ฝ่ายตรงข้ามถ้ารู้ในฐานะของตัวเอง ไม่รู้ว่าเขาจะทำสีหน้าอะไร ข่ายซ่าทำสีหน้าที่รอคอย เหมือนเห็นถึงท่าทางที่น่าสงสารของเฉินเฟิง
แขกที่อยู่รอบๆ ต่างก็พรั่งพรูกันออกจากที่นี่ไปพร้อมกับข่ายซ่า
"คุณเฉิน ต้องขอบคุณอย่างยิ่ง ท่านเห็นแก่สถานการณ์โดยรวม ไม่ให้ทำให้องค์หญิงแอนนี่ต้องลำบากใจ ยิ่งให้ผมมีทางออก ผมขอบคุณคุณจากใจจริงจริงๆ! "
"ฮ่าๆ คุณเซียวเอินก็กล่าวเกินจริงแล้ว ไม่มีอะไร เขาแค่ไม่ทำอะไร ผมก็ไม่มีทางสนใจเขาอยู่แล้ว! "
เฉินเฟิงหัวเราะเสียงดัง แล้วเปลี่ยนประเด็นเอ่ยถาม "คุณเซียวเอิน ไอ้หมอนั่นเมื่อครู่นี้คือใคร? ทำไมถึงรู้สึกว่ายังดูมีอำนาจมากกว่าตระกูลราชวงศ์อังกฤษอีก! "
เซียวเอินยิ้มอย่างขมขื่น "คนๆ นั้นชื่อว่าข่ายซ่า เป็นทายาทครอบครัวโรโปรี ถ้าไม่มีสิ่งที่คาดคิดไม่ถึง อนาคตต้องได้เป็นหัวหน้าครอบครัวครับ! "
"ครอบครัวโรโปรีเป็นหนึ่งในตระกูลเก่าแก่ไม่กี่ตระกูลของอังกฤษ แม้กระทั่งตระกูลราชวงศ์อังกฤษยังต้องให้เกียรติพวกเขา! "
"อ่อ? แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะ! "
เฉินเฟิงพยักหน้า สีหน้าเคล้าด้วยรอยยิ้ม ทว่ากลับไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือตกตะลึงหลังจากที่รู้ฐานะของฝ่ายตรงข้ามเลย
เซียวเอินเห็นสีหน้าของเฉินเฟิง ทว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เขาก่อให้เกิดการปิดล้อมโดยอำนาจของประเทศหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นคือถูกหลาย ๆ ประเทศเฝ้าระวังมากขึ้น ครอบครัวโรโปรีนี้ ในสายตาคนอื่นอาจจะมีมีอำนาจที่แข็งแกร่ง และยิ่งใหญ่ ทว่าในสายตาของเฉินเฟิง กลับเล็กมาก
"คุณเซียวเอิน ไม่งั้นคุณยุ่งเกินเถอะ ผมเข้าไปเอง! "
เห็นเซียวเอินไม่พูดอะไรอีก เฉินเฟิงจึงเอ่ยถาม
"นี่คือ ถ้าคุณเฉินไม่ถือสา ให้ผมเข้าไปกับท่านเถอะ! "
เซียวเอินทำสีหน้าที่เผยยิ้มออกมา เขากลัวว่าเฉินเฟิงและข่ายซ่าอยากจะเกิดปัญหาอะไร ตัวเองก็หวาดผวาและตกใจมาก จึงต้องติดตามอยู่ตลอดเวลา ไม่งั้นถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตัวเองจะตอบสนองยังไง
"ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องขอบคุณท่านมากๆ แล้ว! " เฉินเฟิงคลี่ยิ้มพูดขึ้น
เซียวเอินได้ยินจึงหัวเราะเสียงดัง มือข้างหนึ่งยกขึ้น เพื่อเชิญเฉินเฟิงเดินไปข้างหน้าก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...