หลังจากนั้นไม่กี่วัน ชีวิตความเป็นอยู่กลับเปลี่ยนเป็นเรียบง่ายมากขึ้น ทุกวันก็ต้องช่วยพี่น้องสองสาวตระกูลฉางไปเก็บสมุนไพร หรือไม่ก็ช่วยทำงานที่ต้องใช้แรงงานให้กับพี่น้องสองสาวตระกูลฉาง
แทบจะรู้สึกเหมือนหวนกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของชิงจือเช่นนั้นเลย แต่ว่ากลับมีพี่น้องสองสาวฝาแฝดแสนสวยอยู่เป็นเพื่อน ก็จึงไม่รู้สึกเหงา
ในเวลาสองวันนี้ เฉินเฟิงก็ได้รู้จักชื่อของพี่สาวคนนั้น ฉางหลงหลิน คล้องจองกับน้องสาวเฟิ่งซีกลายเป็นมังกรหนึ่งหงส์หนึ่ง คาดเดาว่าพ่อของพวกเธอคงอยากได้ลูกชายหนึ่งคนลูกสาวหนึ่งคน แต่ว่านึกไม่ถึงจะเป็นลูกสาวทั้งคู่
หลงหลินเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ทุกวันก็ขลุกอยู่กับพวกยาสมุนไพร ไม่งั้นก็จะอยู่ในห้องหนังสือดูตำราวิชาการแพทย์ ดูเหมือนจะเพลิดเพลินจนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย เฉินเฟิงเองก็คิดอยากจะพูดคุยกับเธอบ้าง แต่ว่าเมื่อเห็นสายตาเธอแล้ว เขาก็ล้มเลิกความตั้งใจนั้นไป
แต่ยังดีที่ว่าพูดคุยกับเฟิ่งซีได้ง่ายกว่า
“พวกคุณสองคนพี่น้องทำไมถึงได้มาอยู่ที่แบบนี้ตามลำพังได้ล่ะ หรือว่าคนที่บ้านก็ไม่สนใจแล้วเหรอ?”
วันหนึ่งหลังจากอาหารเย็นแล้ว ขณะที่เฟิ่งซีได้มาช่วยตรวจร่างกายของเฉินเฟิงนั้น เฉินเฟิงถาม
เฟิ่งซีก็ปักเข็มเงินเข้าไปในจุดรวมประสาทของเฉินเฟิง เธอพูดว่า “ฉันกับพี่สาวเป็นลูกกำพร้า หลังจากที่อาจารย์รับเลี้ยงพวกเราไว้ ก็ได้อาศัยอยู่ที่บ้านสวนแห่งนี้มาโดยตลอด อย่างมากก็ไปแค่หมู่บ้านซื้อของบางอย่าง ก็ไม่รู้ว่าโลกภายนอกมันเป็นยังไงเลย”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่าย รู้สึกไม่ค่อยให้ความสนใจกับประวัติส่วนตัวของตัวเองเท่าไรนัก เพียงแต่เมื่อพูดถึงเรื่องของโลกภายนอกแล้ว ดูเหมือนว่าความรู้สึกนึกคิดเต็มเป็นไปด้วยความโหยหา
เฉินเฟิงรู้สึกละอายใจเล็กน้อย เดิมทีไม่น่าจะไปสืบหาเรื่องน่าเศร้าพวกนี้เลย เขาพูดอย่างสำนึกผิดว่า “ฉันไม่ควรจะถามเลย เพียงแต่ฉันนึกไม่ถึงว่าพวกคุณจะเป็นลูกกำพร้า แล้วอาจารย์พวกคุณล่ะ?”
เฟิ่งซีกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร พูดอย่างเรียบง่ายว่า “ก็ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว อาจารย์เลี้ยงพวกเราอย่างดี ความจริงเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นแล้ว ฉันกับพี่สาวนับว่าโชคดีมากเลย ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องไปถือโทษโกรธเคืองทั้งนั้น
สำหรับอาจารย์นั้น เมื่อปีที่แล้วเขาก็ได้เสียไปแล้ว ฉันกับพี่สาวเลยไหว้วานคนให้นำศพเขาไปฝั่งภายในสวนสมุนไพรบนเขานั้น ชั่วชีวิตของเขาก็อยู่กับพวกสมุนไพรมาตลอด เมื่อเขาสิ้นแล้วก็คงยังชอบดมกลิ่นหอมของพวกสมุนไพร คาดหวังว่าเขาคงชอบอย่างนั้น”
เฉินเฟิงก็นึกภาพตามคำพูดของเฟิ่งซี จินตนาการถึงรูปร่างหน้าตาของผู้เฒ่านั้น คิดว่าคงไม่แตกต่างอะไรกับหลิงหลงในตอนนี้ ที่คอยศึกษาค้นคว้าตำราวิชาการแพทย์ทั้งวันทั้งคืน หนำซ้ำยังปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนซกมกไปบ้าง
หลังจากคิดคิดดูแล้ว เฉินเฟิงก็ถามอีกว่า “งั้นพวกคุณก็พักอยู่ที่นี่ตลอดเลยเหรอ? ไม่คิดที่จะออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าง”
เฟิ่งซีก็ได้ทำการฝังเข็มเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้บนร่างของเฉินเฟิงก็มีเข็มเล็กๆปักอยู่เต็มไปหมด ดูราวกับเหมือนแม่นตัวหนึ่ง หลังจากที่เธอตรวจดูแล้วว่าไม่มีขาดเกิน จึงได้นั่งลงข้างเฉินเฟิง
ดูเหมือนแทบจะเป็นอย่างที่เฉินเฟิงพูดไว้เช่นนั้น มีความรู้สึกปรารถนาที่อยากจะไปสู่โลกภายนอก
“พี่สาวชอบที่นี่มาก ฉันกลับอยากจะออกไปดูโลกภายนอกบ้าง แต่ว่าพี่สาวไม่ยอมไปฉันก็เลยต้องยกเลิกความตั้งใจ ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างไปข้างนอกกับอยู่กับพี่สาวแล้ว ความจริงฉันก็อยากจะอยู่เป็นเพื่อนพี่สาวมากกว่านะ”
เฉินเฟิงพูดอย่างตื้นตันใจว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของพวกคุณสองคนช่างดีจริงๆเลยนะ”
ส่วนเฟิ่งซีก็รู้สึกภูมิใจเป็นพิเศษ “นั่นเป็นเพราะว่าฉันชอบพี่สาวฉันมากที่สุดเลย เพียงแต่เธอไม่ค่อยชอบยิ้ม มักจะชอบทำหน้าบึ้งตึงเย็นชา แต่ความจริงแล้วพี่สาวก็อ่อนแอมากนะ ตอนที่อาจารย์เสียนั้น เธอก็มักจะรอให้ฉันนอนหลับก่อนแล้วแอบไปนั่งร้องไห้คนเดียว แล้วยังทำเป็นแกล้งไม่ให้ฉันรู้อีก ที่จริงเธอไม่รู้หรอกว่า ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมา ก็ได้ยินหมดแล้ว”
เฉินเฟิงก็หัวเราะ คาดเดาว่าสาวงามเย็นชาคนนั้นเวลาร้องไห้ขึ้นมาคงน่าสงสารมาก เพียงแต่สถานการณ์เช่นนี้คงไม่มีใครมีโอกาสที่จะได้เห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...