แต่ทว่าเฉินเฟิงยังคงแสดงท่าทีเฉยเมยดังเดิม และไม่คิดที่จะไปสนใจเขา
ไป๋ซูจึงตัดสินใจนั่งลงข้างเฉินเฟิงพร้อมพูดกับเขา : “คุณชายเฉิน เรื่องก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าผมทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่คุณก็ไม่น่าจะไปทำแบบนี้กับเรื่องของคุณSouthcoนี่ครับ แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการผลักผมให้ตกไปในนรถสิบแปดชั้น ไม่มีทางให้ผมได้กลับตัวเลย ”
เฉินเฟิงตอบกลับอย่างติดตลก: “ดูเหมือนว่านี่จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมนะ ไป๋ซิงมาขอร้องให้ผมช่วยเหลือเอง และการที่เขาเคยช่วยชีวิตผมเอาไว้ครั้งหนึ่ง การช่วยเหลือเขานั้นจึงเป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องที่Southcoตัดสินใจเลือกไป๋ซิงนั้น แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าไป๋ซิงมีความเหมาะสมมากกว่าตัวเลือกคนอื่นๆ และเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผมมากนัก ”
ไป๋ซูตอบกลับ: “คุณชายเฉิน หากคุณพูดแบบนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ผมรู้ดีว่าคุณมีความเก่งกาจ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะความไม่รู้ของผมเองถึงได้ทำสิ่งผิดพลาดแบบนั้นไป แต่หลังจากที่รู้ถึงภูมิหลังของคุณชายเฉินแล้ว ผมก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมากจริงๆ ถ้าหากว่าคุณชายเฉินสามารถให้อภัยผมได้ ผมจะยอมภักดีเชื่อฟังคุณดั่งม้าเลย”
เมื่อเห็นว่าทิฐิของไป๋ดูลดลงไปแบบนี้ ทำให้เฉินเฟิงอดสงสัยไม่ได้เลยว่าเขาคนนี้ใช่ไป๋ซูตัวจริงหรือเปล่า
“คุณอยากให้ผมอภัยให้คุณงั้นหรอ?” เฉินเฟิงกล่าวถาม
ไป๋ซูพยักหน้าตอบ: “ผมสามารถทำทุกอย่างเพื่อชดใช้แก่คุณชายเฉิน”
เฉินเฟิงจ้องมองแววตาของเขา ซึ่งเขาดูจริงจังอย่างมาก ทั้งยังไม่มีความเสแสร้งเลยสักนิดเดียว เฉินเฟิงจึงกล่าวถามอีกครั้ง: “คุณทำแบบนี้เพราะต้องการร้องขออะไร โครงการนั้นของSouthco ในเมื่อผมได้ตอบตกลงไปแล้ว แน่นอนว่าจะกลับคำไม่ได้ ”
ทว่าไป๋ซูกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ เพียงแต่ตอบกลับว่า: “ผมเองรู้ว่าทุกอย่างได้มีการตัดสินใจไปแล้ว แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะไปแก้ไขอะไรได้อีก แต่ตัวผมไม่ได้มาขอให้คุณชายทำความเข้าใจฉินให้อภัยเพื่อเรื่องนี้หรอกนะครับ ”
เฉินเฟิงตอบกลับอย่างสงสัย: “ผมพูดขนาดนี้แล้ว คุณยังอยากจะร้องขอการอภัยจากผมอีก นั่นทำให้ผมเริ่มอยากรู้แล้วสิว่าคุณต้องการอะไรกันแน่ คุณอย่าบอกผมนะว่าคุณแค่อยากจะมาขอการอภัยจากผมด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น คำพูดแบบนี้เอาไปพูดให้ภูตผีฟังเถอะ ผมไม่มีทางเชื่อหรอก ”
ไป๋ซูที่ได้ยินอย่างนั้นจึงตอบกลับ: “ในเมื่อคุณชายเฉินพูดขนาดนี้แล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อย่างที่ว่าผมมีเรื่องอยากจะมาร้องขอคุณชายเฉินจริงๆ ”
เฉินเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม: “นี่สิถึงจะเป็นตัวคุณ แต่ผมจะไม่ให้คำรับรองหรอกนะ ต้องรอดูก่อนว่าคุณไม่ได้โกหกจริงๆ ”
ไป๋ซูที่ได้ยินถึงกับตะลึง ด้วยความคิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้
แต่เขายังคงตอบกลับด้วยความพยายามอย่างที่สุด: “มันไม่มีทางให้แก้ไขได้เลยหรอครับ?คุณชายเฉิน ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นศัตรูกับคุณหรอกนะ ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะความมีตาแต่ไร้แววของตัวผมเองทั้งนั้น ”
เฉินเฟิงตอบกลับด้วยความอดกลั้น: “ผมรู้ดีว่าหากคุณรู้ถึงตัวตนของผมเร็วกว่านี้ก็คงจะไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน แต่ที่น่าเสียดายก็คือคุณได้ทำไปแล้ว และสิ่งที่เคยทำไปแล้วเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้จากโลกนี้ ”
ไป๋ซูที่ได้ยินแบบนั้นจึงลุกขึ้นยืนด้วยความหมดหนทาง
“ในเมื่อพูดอย่างนี้แล้วผมก็คงต้องขอตัวลาก่อน และจะไม่มารบกวนคุณชายเฉินอีก ”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินจากไป
กระทั่งเขาเดินไปได้สิบกว่าเมตร เฉินเฟิงก็ตะโกนเรียกห้ามเขาเอาไว้
“คุณ กลับมา”
ไป๋ซูประหลาดใจจนต้องหันหลังกลับไปมองเฉินเฟิง จนแน่ใจว่าเสียงตะโกนเมื่อสักครู่นั้นเป็นของเฉินเฟิงจริงๆ
เขาไม่ได้ถูกกระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจใดๆ เพียงแต่เมื่อเฉินรู้ว่าเฉินเฟิงเรียกเขาจริงๆ เขาจึงเดินกลับไป
“คุณชายเฉินยังมีธุระอะไรอีกหรอครับ?”
เฉินเฟิงถามด้วยความอยากรู้: “คุณไม่รู้สึกโกรธกับสิ่งที่ผมเพิ่งทำไปเมื่อสักครู่นี้เลยหรอ?”
ไป๋ซูตอบกลับ: “แน่นอนว่ามีความโกรธภายในใจ แต่เรื่องบางอย่างสามารถที่จะทำได้ แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่ควรที่จะทำเด็ดขาด ซึ่งสิ่งนี้ตัวผมเองเข้าใจดี ”
เมื่อฟังประโยคนี้ของเขา จู่ๆ เฉินเฟิงก็รู้สึกมีความสนใจขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...