@หลายเดือนต่อมา
"แม่ขาาาา~" รอยยิ้มเอ็นดูผุดขึ้นมาเปื้อนใบหน้าหวานของอิงดาวในทันทีที่เห็นลูกสาวตัวน้อยวัยสองขวบวิ่งดุ๊กดิ๊กมาหาพร้อมยื่นสองแขนให้ คงไม่ใช่แค่เธอที่หลงใหลในความน่ารักน่าชังของเฟรย่า เพราะแม้แต่เพื่อนร่วมคณะฯที่กำลังมองมาต่างก็อมยิ้มในความน่ารักของเธอเหมือนกัน
"ใครทาแป้งให้คนสวยของแม่คะเนี่ย เลอะเทอะหมดเลย ทาแบบนี้หนุ่มที่ไหนจะมองล่ะเนี่ย" เธออุ้มลูกสาวตัวน้อยไว้ด้วยท่อนแขนเพียงข้างเดียว พร้อมกับเกลี่ยแป้งบนพวงแก้มนวลและปลายจมูกของลูกสาวให้สม่ำเสมอ จากนั้นจึงเดินไปหาคาเรนที่ยืนวางมาดอยู่ข้างรถยุโรปคู่ใจของเขา
"มารอนานแล้วเหรอ" ใบหน้าหวานเลื่อนเข้าไปจูบหนักๆบนริมฝีปากหยักได้รูป ซึ่งคาเรนก็ไม่รอช้าที่จะดูดดุนมันไว้เพื่อไม่ให้เธอผละใบหน้าออก เฟรย่าที่เห็นอย่างนั้นรีบยกมือขึ้นมาปิดตาข้างหนึ่ง ทว่าอีกข้างหนึ่งยังคงจ้องมองการแสดงความรักอย่างโจ๋งครึ่มของพ่อและแม่
"คืนนี้ขอแบบนี้นะ" มาเฟียหนุ่มถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง พร้อมตวัดปลายลิ้นหยอกเย้ากลีบปากอวบอิ่มของหญิงสาว มันเป็นแบบนี้เสมอ ความรู้สึกของเขาที่มีต่ออิงดาวมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย นับตั้งแต่วันแรกที่อยู่ด้วยกันจนถึงวันนี้ เธอยังเป็นคนเดียวที่เขาปรารถนา
"จะจัดให้มากกว่านี้อีก" หญิงสาวยิ้มกริ่ม แล้วจูบเบาๆตรงสันกรามคม รอยยิ้มและสีหน้ายั่วยวนของเธอมันสร้างความตื่นเต้นให้เขาได้ดีจริงๆ
"กลับกันเถอะ ตัวแสบมารอแม่นานแล้วนะ"
"คิดถึงแม่เหรอคะตัวเล็ก" อิงดาวถามเสียงอ่อนโยน ทำให้เฟรย่าค่อยๆวางมือลง
"เป๊าะขาก็คิดเถิงค่ะ" เธอตอบด้วยรอยยิ้มหวาน มันทำให้คนเป็นแม่อย่างอิงดาวอดใจไม่ไหวที่จะให้รางวัลในความน่ารักของลูกสาวตัวน้อย
ฟอดดดดดดดดด~
"คุณพ่อคิดถึงคนเดียวเหรอ แล้วตัวเล็กไม่คิดถึงแม่เลยเหรอคะ ไม่เจอกันหลายชั่วโมงเลยนะ" ปลายจมูกเชิดรั้นกดลงแนบชิดพวงแก้มป่องของเด็กน้อยฟอดใหญ่อย่างนึกมันเขี้ยว
"คิดเถิงค่ะ คิดเถิงมั่กมากเยย~" ว่าจบก็ซบหน้าลงบนบ่าของแม่อย่างออดอ้อน ริมฝีปากน้อยๆคลี่ยิ้มหวานประจบประแจง ทำเอาอิงดาวส่ายหน้าเอือมระอากับนิสัยช่างอ้อนของลูกสาว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเฟรย่าทำให้เธอมีความสุข
"กลับบ้านดีกว่าโนะ อยากกลับไปนอนฟัดพุงเด็กขี้อ้อนแล้ว"
"หนูอยากจินนมแย้ว"
"ไหนหอมแก้มแม่ให้ชื่นใจหน่อยได้ไหมคะ" เฟรย่าผละใบหน้าออกจากบ่า พร้อมใช้ฝ่ามือน้อยๆสัมผัสแก้มนวลของผู้เป็นแม่เบาๆ
"เป๊าะขาหอมแจ้ม จงนี้" คาเรนหลุดยิ้มกับท่าทางเร่งเร้าของลูกสาวที่พยายามจะให้เขาหอมแก้มอิงดาวแทนเธอ ไม่ต่างจากอิงดาวที่มองความน่ารักของลูกสาวด้วยสีหน้าชื่นชม
ฟอดดดดดดดด~
"หอมแก้มคุณแม่แล้ว ไปเที่ยวกันต่อได้รึยัง หืม?" เขาเลื่อนใบหน้าเข้าไปหอมแก้มคนรักฟอดใหญ่ แต่เหมือนว่านั้นจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับเฟรย่า เธอยู่ปากพลางส่ายหน้าไปมา ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มเบาๆบนริมฝีปากของอิงดาว
"เป๊าะขาหอมจงนี้ด้วย~" ว่าจบก็เอามือออก
"เป็นงานนะเนี่ย" คาเรนเย้าหยอกลูกสาว จากนั้นจึงกดจูบหนักๆบนริมฝีปากอวบอิ่มของอิงดาว ภาพความน่ารักของเขาและเธอกับเด็กน้อยอีกคนหนึ่ง สร้างรอยยิ้มแก่ผู้คนที่ได้จ้องมอง
"กลับกันเถอะ จะค่ำแล้ว" ทันทีที่คาเรนถอนจูบออก อิงดาวก็เดินอ้อมไปเปิดประตูรถอีกฝั่งทันที เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครมากกว่านี้ คาเรนเองก็รีบก้าวขึ้นรถเหมือนกัน
"แม่ขาจินนม~" เด็กน้อยแหงนคอมองหน้าแม่อย่างออดอ้อน ซึ่งอิงดาวก็รีบปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออก แต่ยังไม่ทันจะได้ดันบราเซียร์ลง เฟรย่าก็จัดการทุกอย่างเองเสร็จสรรพ
"มือไวเหมือนพ่อเลยนะเรา"
"แต่ขี้อ้อนเหมือนแม่" คาเรนแย้ง แล้วขับรถออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัย
"ก็เพราะอิงขี้อ้อนไม่ใช่เหรอ พี่คาเรนถึงหลง"
"ไม่อ้อนก็หลง เพราะเมียพี่น่ารัก" อิงดาวอมยิ้มจนแก้มปริ เธอยื่นมือเข้าไปประสานมือกับคาเรนแน่น ขณะที่อีกมือหนึ่งจับประคองแผ่นหลังของเฟรย่าไว้ เด็กน้อยอมยิ้มตามจนน้ำนมไหลออกมาเปรอะเปื้อนขอบปาก เธอกอดรัดคนเป็นแม่ไว้แน่นราวกับอยากมีส่วนร่วมกับความรักของพ่อและแม่
"ที่ไหนเนี่ย" หญิงสาวขมวดคิ้วถามเมื่อคาเรนพามาสถานที่ๆไม่คุ้นเคย ซึ่งเป็นที่ๆถูกโอบล้อมด้วยผืนหญ้าเขียวขจีและป่าไม้พอประปราย แต่กลับให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด ทว่าบรรยากาศยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลับลาขอบฟ้าก็ให้ความรู้สึกเงียบเหงาในเวลาเดียวกัน
"พี่ซื้อที่นี่ไว้นานแล้ว เพราะชอบบรรยากาศของมัน ตอนนี้พี่กำลังจะปลูกบ้านสักหลัง เอาไว้อยู่ด้วยกันสองตายายในบั้นปลายชีวิต" อิงดาวพยายามกลั้นยิ้ม ตอนนี้สมองมันกำลังจินตนาการถึงบั้นปลายชีวิตของเขาและเธอ มันคงเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก หากได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
"อยากลงไปเดินเล่นไหม" เขาหอมมือเธอเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูลงไปก่อน ซึ่งอิงดาวก็ไม่รอช้าที่จะเดินตามลงไป โดยมีลูกสาวตัวน้อยที่กำลังยิ้มชอบใจอยู่ในอ้อมแขน
"ไม่คิดว่าจะมีที่แบบนี้อยู่ใกล้ๆตัวเมืองด้วยนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน