อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 39

The Diamond R…พอมาถึงห้างสรรพสินค้า ร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกับกางเกงยีนส์สีซีด รองเท้าหนังสีน้ำตาลเงากับความสูงเกือบร้อยเก้าสิบ และใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายนั้นดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก

ในขณะที่นานาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นกับกระโปรงสีกรมท่าที่มีจีบรอบยาวแค่สามคืบกับสูทเข้ารูปสีเดียวกัน แต่งหน้าบางๆ กับหุ่นที่เรียกว่าไซส์มินิ ก็เรียกสายตาของหนุ่มๆ ที่ผ่านไปมาได้เป็นอย่างมาก

อันโตนีโอ้พยายามเดินตามติดๆ ให้เหมือนคนรัก พร้อมกับหันไปมองหนุ่มๆ ที่มองหญิงสาวด้วยสายตาขวางๆ

“นานา คุณเดินช้าๆ หน่อยได้ไหม ทำอย่างกับกำลังหนีใครอย่างนั้นแหละ” อันโตนีโอ้ต่อว่าสาวเจ้าที่เดินเร็วจนดูเหมือนกับว่าเขาเดินตามเธออยู่ ไม่ได้เดินด้วยกัน

“นี่! ฉันกำลังหาของขวัญให้มิกิอยู่ ถ้าคุณรำคาญก็แยกกันตรงนี้ก็ได้”

“บ้า! แยกเยิกอะไรกัน เดี๋ยวเราต้องไปซื้อของทำกับข้าวตอนเย็นทานด้วยกันอีก” อันโตนีโอ้ดึงมือบางมาจับ ก่อนจะลูบไล้ไปมาอย่างสำรวจ

“คุณจับมือฉันทำไม?” นานาต่อว่าและพยายามดึงมือออก

“นิ้วคุณนี่เล็กจังเลย” อันโตนีโอ้เอ่ยต่ออย่างไม่สนใจกับคำถาม

“เอางี้ดีกว่า คุณไปเดินเล่นที่ไหนก่อนก็ได้ อีกหนึ่งชั่วโมงเรามาเจอกันที่ร้านกาแฟตรงนี้ดีไหม?” นานาเสนอเพราะไม่อยากให้อันโตนีโอ้เดินตามต้อยๆ แบบนี้ เธออายและรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก

“คุณอายใครเหรอ? หรือว่ากลัวใครจะมาเห็นว่าคุณมาเดินกับผม!” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ

“นี่คุณอย่ามางี่เง่านะ! ฉันแค่อยากเดินดูของแบบสบายๆ ไม่อยากให้คุณเดินตามน่ะ!” เธอขึ้นเสียงใส่อีกฝ่ายที่ทำท่าจะหาเรื่องอย่างทนไม่ไหว

“ก็ได้!” อันโตนีโอ้เอ่ยเสร็จก็เดินออกไป ไม่หันกลับมามองอีกเลย นานามองตามพร้อมกับส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะเดินไปดูของต่อ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่ได้ของขวัญเรียบร้อยแล้ว นานาก็เข้ามานั่งสั่งกาแฟดื่มที่ร้านที่นัดกับชายหนุ่มเอาไว้เมื่อชั่วโมงก่อน พลางส่งสายตามองหา แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะมาสักที จนผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ของอันโตนีโอ้ ‘หรือว่าอีตาบ้านั่นจะโกรธหนีกลับไปแล้วนะ แต่ก็ช่างเถอะ เรากลับดีกว่า’ เธอจึงสั่งเช็กบิล และเดินออกจากร้านกาแฟตรงไปยังด้านหน้าของห้างสรรพสินค้า แล้วเรียกแท็กซี่กลับบ้าน

อันโตนีโอ้ที่เพิ่งดูของเสร็จและไม่ทันได้ดูเวลา ก็เข้ามานั่งรอนานาที่ร้านกาแฟ ก่อนจะสั่งกาแฟร้อนนั่งจิบรออย่างสบายอารมณ์ แล้วนึกไปถึงเมนูอาหารเย็นว่าจะทำอะไรดี เพราะดูท่านานาจะชื่นชอบอาหารไทยเป็นพิเศษ อย่างเช่นเมนูอะไรที่เกี่ยวกับยำๆ น้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัด เอ๊...หรือว่าจะทำหมูกระทะดี อันโตนีโอ้ นั่งนึกเมนูไปเรื่อยๆ

เวลา 17:45 น. อันโตนีโอ้ที่ดื่มกาแฟไปสามแก้วตามด้วยชาเขียว ใส่นมอีกสองแก้ว นั่งกดมือถือหานานาจะเป็นร้อยสาย แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีจะรับสายสักที เขาจึงเรียกพนักงานเช็กบิล แต่ก็ยังไม่หยุดกดมือถือ หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ก็เดินออกมาใบหน้าบึ้งตึง สบถด่าสาวเจ้าในใจสารพัด

‘ยัยต๊องนั่นไปหาของขวัญที่ดาวอังคารหรือไง! ตั้งสาม-สี่ชั่วโมงก็ยังไม่กลับมาสักที เอ๊ะ! หรือว่ายัยนั่นแอบชิ่งหนีเขากลับวะ นี่หลอกให้เขามานั่งโง่ รอที่ร้านกาแฟเกือบสี่ชั่วโมง บ้าจริง! อย่าให้เจอนะนานา!’ อันโตนีโอ้คาดโทษสาวเจ้าไปพร้อมกับกดมือถือไปอย่างหงุดหงิดที่ถูกสาวทิ้ง

นานากลับมาถึงบ้านก็เปิดทีวีดูอย่างสบายอารมณ์ และหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า พร้อมกับฝันไปว่าตัวเองนอนเล่นอยู่บนเตียง แต่พลันก็ได้ยินเสียง ติ๊ดๆๆ คล้ายกับเสียงของนาฬิกาดังอยู่ใต้เตียง แล้วเธอก็ก้มดูและเห็นระเบิดเวลาวางอยู่ มันบอกว่าเหลือเวลาเพียงห้าวินาทีก็จะระเบิด

หญิงสาวตกใจ กรีดร้องออกมาจนสุดเสียง ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาเหงื่อชื้นทั่วทั้งตัว

“ให้ตายสิ! ฝันบ้าๆ” นานายกมือขึ้นมาลูบหน้าอกเรียกขวัญ ก่อนจะต้องตกใจอีกครั้งที่ได้ยินเสียงมือถือของตัวเองดังขึ้นจึงหยิบขึ้นมาดู ก็เห็นชื่อ ‘สามี’ เธอแทบจะกรีดร้องขึ้นอีกครั้งที่อันโตนีโอ้บังอาจบันทึกชื่อตัวเองลงในเครื่องของเธอว่า สามี

“มีอะไร!” นานาเอ่ยน้ำเสียงหงุดหงิดใส่อีกฝ่าย

“อยู่ไหน!” อันโตนีโอ้ตะโกนถามใส่มือถือกลับเช่นกัน และเสียงดังมากจนนานารีบดึงมือถือออกจากหูแทบไม่ทัน

“ก็อยู่บ้านน่ะสิ เป็นบ้าหรือไงฮะ! ตะโกนมาได้ หูเกือบหนวกแน่ะ ฮัลโหล! นี่ฟังอยู่ไหม ฮัลโหล...ฮัลโหล! ไอ้บ้านี่ เป็นบ้าหรือไงนะ วางสาย ใส่เฉยเลย ฮึ่ย!” นานาหงุดหงิดที่อีกฝ่ายวางสายไปทั้งๆ ที่เธอยังด่าไม่จบ

หญิงสาวบ่นพึมพำต่ออย่างเดือดๆ แต่แล้วก็ต้องตกใจที่เห็นตรงหน้าจอ มีสายไม่ได้รับจากอันโตนีโอ้หนึ่งร้อยสิบสี่สาย ตั้งแต่บ่ายสองโมงสี่สิบ นานานิ่วหน้าอย่างงงๆ ว่าเขาเป็นบ้าอะไรถึงโทร. หาเธอขนาดนี้ พอโทร. มาเสร็จก็ถามว่าเธออยู่ไหน แล้วก็วางสายใส่ สงสัยจะเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เธอส่ายหัวอย่างเพลียๆ ก่อนจะไปอาบน้ำเพราะเหงื่อชื้นไปทั้งตัว

สิบห้านาทีต่อมา...

เอี๊ยดดดดดด เสียงเบรกรถที่ดังสนั่นหน้าบ้านทำให้นานาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จต้องนิ่วหน้าอย่างแปลกใจ ‘นี่เขามาถ่ายทำหนัง Fast & Furious แถวหน้าบ้านเธอหรือเปล่านะ?’ คิดขำๆ ขณะที่กำลังจะเดินไปใส่เสื้อผ้า

ปึงๆๆๆ

หญิงสาวรู้สึกโมโหกับการเคาะประตูที่ดูจะไร้มารยาทนั้น เธอเดาออกทันทีว่าต้องเป็นอันโตนีโอ้ จากที่จะเปลี่ยนเสื้อก็เปลี่ยนใจเดินตรงไปยังประตูหน้าบ้านอย่างไม่รอช้า

“เคาะขนาดนี้! ไม่พังประตูเข้ามาซะเลยล่ะ...อุ๊บ!” นานาเปิดประตูออกมาด่า แต่กลับถูกอันโตนีโอ้ดึงเข้าไปจูบทันทีอย่างไม่ปล่อยให้ตั้งตัว พร้อมกับผลักให้เธอเข้าไปข้างในบ้านและปิดประตูตาม

นานาดิ้นขัดขืน ทั้งผลักทั้งจิกสารพัด แต่อันโตนีโอ้ก็ไม่ยอมถอนจูบสักที มันเนิ่นนานซะจน...เธอคิดว่ากำลังจะขาดใจตาย เขาจึงยอมถอนจูบออก และทันทีที่เป็นอิสระเธอก็ตวัดฝ่ามือลงบนซีกหน้าของเขาอย่างไม่รอช้า

เพียะ! ชายหนุ่มหน้าหันตามแรงตบ

“ออกไป!” นานาตะโกนไล่เสียงดังอย่างโกรธเคือง

“ออกไปงั้นเหรอ! คุณหลอกให้ผมรอที่ร้านกาแฟมาสี่ชั่วโมง พอโทร. หาก็ไม่ยอมรับสาย คุณคงสนุกมากสินะ ที่ได้เอาคืนผมน่ะนานา” อันโตนีโอ้ต่อว่า และยกมือขึ้นมาเสยผมข้างหน้าอย่างอารมณ์เสีย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ