คนที่เข้ามาฟังเพลงมีส่วนหนึ่งเพราะข่าว และอีกส่วนหนึ่งเพราะเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอดึงดูดเข้ามาฟัง จนเย่ซีดังเป็นพลุแตก
ซูฉิงที่ดูข่าวเกี่ยวกับเย่ซีบนโลกโซเชียลพร้อมกับคอมเมนท์ ก็ยกยิ้มได้ใจ หลังจากที่จัดการอารมณ์แล้วก็พ่นลมหายใจออกมา เตรียมกลับมาทำงานต่อ
บ้านตระกูลฮ่อ
สวีหว่านเอ๋อร์ที่มาถึงบ้านตระกูลฮ่อแล้ว พร้อมกับในมือที่ถือซุปมาด้วย
"มาแล้ว ยังจะเอาของติดไม้ติดมือมาด้วยอีก"
แม่ฮ่อที่รีบออกมาต้อนรับ สวีหว่านเอ๋อร์ก็คล้องแขนแม่ฮ่ออย่างสนิทสนม
"อันนี้เป็นซุปไก่ที่หนูตื่นแต่เช้าเพื่อมาตุ๋นซุปไก่ เห็นคุณป้าบ่นว่าช่วงนี้ไม่อยากอาการ หนูก็เลยทำมาบำรุงให้คุณป้าคะ"
สวีหว่านเอ๋อร์ที่ทำหน้าอ่อนหวานมากเวลาต่อหน้าแม่ฮ่อ ทำให้แม่ฮ่อดีใจมาก
"เด็กคนนี้ช่างรู้จักใส่ใจจริงๆ"
แม่บ้านได้เข้ามารับซุปจากมือของสวีหว่านเอ๋อร์ เอาเข้าไปในห้องครัว
แม่ฮ่อจูงมือสวีหว่านเอ๋อร์ไปนั่งที่โซฟา แล้วก็เริ่มคุยเรื่องทั่วไป
"อ้อ ทำไมไม่เห็นคุณผู้ชายลงมาเลยล่ะ"
พูดได้มาครึ่งหนึ่ง แม่ฮ่อก็เรียกหาคนรับใช้
สวีหว่านเอ๋อร์จะมาที่นี่ทั้งที จำต้องสร้างโอกาสได้อยู่ด้วยกันให้พวกเธอ
"คุณผู้ชายไปบริษัทแล้วค่ะ"
คนรับใช้ตอบ
"เฮ่อ ลูกชายคนนี้ก็เป็นซะอย่างนี้ ใจมีแต่เรื่องงาน"
พอได้ยินอย่างนั้น แม่ฮ่อก็บ่นให้สวีหว่านเอ่อร์ฟัง
"พี่ฮ่อมีความรับผิดชอบอย่างนี้ก็ถือว่าหาได้ยากจริงๆ นะคะ"
สวีหว่านเอ๋อร์พูดชมฮ่อหยุนเฉิงทันที ยิ่งทำให้แม่ฮ่อหัวเราะออกมาอย่างพอใจ
"แต่ว่าพอพูดมาถึงเรื่องนี้ หนูก็เหมือนจะไม่ได้เจอพี่ฮ่อนานแล้ว"
พอพูดมาถึงตอนนี้สวีหว่านเอ่อร์กะพริบตา ทำหน้าเศร้า
แม่ฮ่อเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกสงสาร ตบไหล่สวีหว่านเอ๋อร์เบาๆ" เด็กดี อย่าเศร้าไปเลย เขาก็แค่มีนิสัยดื้อรั้นก็เท่านั้นเอง"
สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้า แล้วก็เช็ดน้ำตาตรงหางตา แล้วทำสีหน้าเข้มแข็ง
"ค่ะ! ไม่เป็นไรค่ะ พี่ฮ่องานยุ่ง ฉันเข้าใจเขา"
แม่ฮ่อที่เห็นท่าทางอย่างนี้ของสวีหว่านเอ๋อร์ก็รู้สึกสงสาร
"คุณป้าคะ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว เดี๋ยวหนูขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ"
สวีหว่านเอ่อร์เห็นแม่ฮ่อเริ่มหวั่นไหว ก็รู้ว่าเป้าหมายของตัวเองใกล้จะมาถึงแล้ว เลยทำเป็นมองดูเวลาบนข้อมือ และทำหน้าเตรียมตัวจะกลับแล้ว
และเป็นอย่างที่คาดไว้ ตอนที่สวีหว่านเอ๋อร์กำลังจะก้าวเดินออกไป แม่ฮ่อก็เดินตามมาเรียกเธอไว้
"เดี๋ยวก่อน ป้ากำลังจะไปที่บริษัทพอดี งั้นพาป้าไปด้วยนะ"
สวีหว่านเอ๋อร์ทำหน้าตกใจ:"ไม่ดีมั้งคะ คนอื่นเห็นจะเข้าใจผิดเอานะคะ"
"เข้าใจผิดอะไรกัน"แม่ฮ่อจับแขนสวีหว่านเอ๋อร์แล้วพูด:"ป้าไปกับเธอด้วย เธอพาป้าไป เธอไม่ต้องไปสนใจว่าคนอื่นเขาจะพูดอะไร"
สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้า พร้อมกับยกยิ้มมุมปากโดยที่แม่ฮ่อไม่เห็น
จากนั้นสวีหว่านเอ๋อร์ก็พาแม่ฮ่อเข้ามาที่บริษัทด้วยกัน เธอที่กำลังคิดว่าจะทำเป็นไปที่ทำงานของเธอ คิดไม่ถึงว่าแม่ฮ่อจะฉุดเธอกลับไป
"มีอะไรหรอคะคุณป้า"
สวีหว่านเอ๋อร์แม่ฮ่อกะพริบตามองด้วยสายตางงงวย วันนี้เธอแต่งหน้าบางๆ ดูแล้วยิ่งสวย
"เธอไม่ใช่บอกว่าไม่ได้เจอฮ่อหยุนเฉิงนานแล้วหรอ งั้นป้าจะพาเธอไปหาเขาไง"
"เอ่อ น่าจะไม่ดีมั้งคะคุณป้า "
สวีหว่านเอ๋อร์ทำเป็นสงวนท่าที ทำเป็นพูดปฏิเสธ แต่ตัวนั้นเดินตามแม่ฮ่อไปแล้ว
"จะมีปัญหาอะไร ป้าพาเธอไป ใครจะกล้าพูดอะไร"
แม่ฮ่อที่จูงสวีหว่านเอ๋อร์มาถึงห้องประธานใหญ่ ไม่เคาะห้องเปิดประตูเข้าไปเลย
หลังจากที่ทั้งสองเข้าไปในห้องทำงานท่ามกลางสายตาที่ให้ความสนใจของทุกคนแล้ว จากนั้นพนักงานก็เริ่มซุบซิบกัน
"เกิดอะไรขึ้น ท่านประธานทะเลาะกับซูฉิงหรอ"
เพื่อนร่วมงานที่ยืนอยู่หน้าประตูซุบซิบนินทากัน ส่วนสวีหว่นเอ๋อร์ที่ถูกแม่ฮ่อจูงมือเข้ามาในห้องทำงานท่านประธานใหญ่โดยพลการก็ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วบริษัทอย่างรวดเร็ว
พนักงานบริษัททั้งหัวหน้าและลูกน้องต่างก็ซุบซฺบนินทากันไม่หยุด ตั้งแรกเรื่องที่สวีหว่านเอ๋อร์เข้ามาเป็นน้องสาวบุญธรรมของฮ่อหยุนเฉิง ตกบ่ายก็เรื่องตอนบ่ายเรื่องก็ไปถึงหูซูฉิงเลิกกับฮ้อหยุนเฉิง และเรื่องที่แม่ฮ่อก็เลือกสวีหว่านเอ๋อร์มาเป็นลูกสะใภ้
พอตกบ่ายเรื่องก็ยังไม่ซาลง และซูฉิงก็ได้มาถึงบริษัทแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น