"จริงสิ เธอเช็กน้ำมูกน้ำตาก่อน แล้วออกไปกับฉัน"
ซูฉิงหยิบทิชชูยื่นให้กับเย่ซี และเย่ซีก็ทำตามที่ซูฉิงบอก ผ่านไปสักพักซูฉิงก็เดินนำเย่ซีออกมา
"คุณป้าคะ เรื่องเมื่อกี้ฉันได้ยินหมดแล้ว ฉันจะมาบอกคุณว่าไม่ใช่อย่างนั้น"
ซูฉิงก้มหน้ายิ้มบาง รังสีสีทองแผ่ออกมาตามเงาของเธอ
"อั้ยยะ ไม่กล้าว่าอย่างนั้นหรอก"แม่เย่รีบให้ซูฉิงลุกขึ้น:"คุณเป็นเจ้านาย พวกเราต้องขอบคุณสิถึงจะถูก"
"แม่ แม่ทำอย่างนี้ทำไม"
เย่ซวงรู้สึกไม่พอใจ แล้วฉุดแม่เย่ แต่กลับถูกแม่เย่จ้องตาเขม็งกลับ
"ในเมื่อคุณป้าพูดมาอย่างนี้ งั้นฉันขอพูดอะไรสักหน่อยนะคะ"
ซูฉิงมีสีหน้าจริงจัง และแม่เย่ก็ให้เธอพูด
"ในวงการบันเทิงทุกวันนี้ เย่ซีถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ จะต้องรีบยืนอยู่ให้นิ่ง ส่วนเรื่องเงินถือเป็นกำลังที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์เรา"
ซูฉิงพูดมีเหตุผลมากและแม่เย่ก็เห็นด้วย
"ตอนนี้เหมือนว่าทุกคนล้วนรู้จักที่จะเก็บเงินแล้วด้วย เท่าที่ฉันรู้ เย่ซีทำงานมาได้หลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเงินเก็บเลย และเงินจำนวนนี้ล้วนเอาไปให้พี่ชายของเธอ"
แม่เย่มองไปทางเย่ซวงที่อยู่ข้างๆ และเย่ซวงก็รีบส่านหน้าไปมา
"ถ้าหากพวกคุณต้องการพึ่งพาเซ่ยีจามแก่เฒ่าละก็ก็ต้องดูแลเธอด้วย อย่างนี้เธอถึงจะมีใจที่จะตั้งใจทำงานไม่ใช่ต้องมารับมือกับพี่ชายของเธอที่มาก่อกวนต่างๆ นานาไม่หยุด"
แม่เย่ที่ได้ยินอย่างนี้ก็เงียบไม่พูด
คำพูดของซูฉิงพูดแทงใจดำเธอ เธอหันไปจ้องเย่ซวงตาเขม็ง :"ฉันรู้แล้ว ต่อไปจะสั่งสอนเขาให้ดี คุณไม่ต้องเป็นห่วง"
ซูฉิงเห็นแม่เย่ตอบตกลงก็วางใจ
"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แม่เย่งั้นฉันก็ขอตัวกลับก่อน ถ้ามีเวลาเดี๋ยวฉันจะกลับมาเยี่ยมใหม่นะคะ"
หลังจากที่ซูฉิงกลับไป แม่เย่ก็หันไปตำหนิเย่ซวง
ทำให้เย่ซวงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก อยากจะซื้อที่สิ่งอยากได้แต่ไม่ได้ แถมยังถูกต่อว่าฟรีอีก
เขามองแผ่นหลังซูฉิงที่เดินออกไป โดยที่ไม่มีใครมองเห็นสายตาร้ายจ้องไปทางเธอ
เย่ซีที่เห็นว่าเย่ซวงไม่ไม่มายุ่งกับตนอีกก็รู้สึกดีใจ
เย่ซีถือโอกาสที่แม่เย่ตำหนิเย่ซวงก็เดินออกไปกับซูฉิง
"พี่เสี่ยวฉิง!"
เย่ซีที่เดินตามก็เรียกซูฉิงไว้ เดินว่างมาด้วยใบหน้าที่ยังแดงเล็กน้อยเพราะพึ่งร้องไห้เสร็จ :"ต้องขอบคุณพี่จริงๆ นะคะ ทุกครั้งมีพี่คอยช่วยแก้ไขปัญหาตลอดเลย"
เย่ซีพูดขอบคุณซูฉิง และซูฉิงก็โบกมือให้
"ไม่เป็นไร เรื่องพวกนี้จัดการเสร็จแล้ว เธอก็จะได้ทำงานออกมาได้ดี และก็มีส่วนช่วยต่อฉันและบริษัทด้วย"
เย่ซีได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มให้ซูฉิงเล็กน้อย
กวนจิ่งสิงที่มองภาพเหตุการณ์นี้อยู่ไม่ไกล
เขาทนความคิดถึงไม่ได้ เลยมาหาเย่ซีที่บ้าน ระหว่างทางก็ได้ยินคนนินทาเรื่องเย่ซี
กวนจิ่งสิงเลยเดินเข้าไปถามก็ถึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเย่ซี
นึกถึงภาพเย่ซีที่ไม่มีความกล้า กวนจิ่งสิงก็ไม่วางใจเลยรีบมาเพื่อดูว่าเย่ซีเป็นยังไงบ้าง
คิดไม่ถึงว่าจะเห็นแววตาแดงก่ำของเย่ซีอยู่ไกลๆ ก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ ตอนที่คิดจะเดินเข้าไปหาก็เห็นว่าเย่ซีกำลังคุยกับใครอยู่
กวนจิ่งสิงหรี่ตามอง ก็เห็นว่าซูฉิงยืนอยู่ตรงนั้น ทำให้เขาหยุดเท้าไม่เดินเข้าไปหา
น้ำเสียงเอ่ยเตือนของซูฉิงยังติดตาเขาอยู่ ถ้าหากเขาเข้าไปให้ซูฉิงเห็น เธอที่เป็นคนเด็ดขาด ถ้าหากเธอรู้เข้า ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น