เธอทั้งโกรธและเสียใจ รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต่ำแบบนี้ ตอนนั้นเธอไม่น่าทำแบนั้นเลย!
แต่ไม่ว่าจะเสียใจอีกมากแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์ เพราะฉวนสือมีความรู้สึกดีๆให้กับผู้หญิงคนนี้ ยิ่งตอนนี้เขยิบไปอีกขั้นแล้ว แกรงว่าวันหลังมีแต่จะอคติต่อเธอมากขึ้น!
เธอโกรธจนพูดไม่ออก คนข้างๆก็รีบเข้ามาดูแลและลูบหลังเธอ
"ฉวนสือ หลานเห็นหรือยัง? นี่แหละธาตุแท้ของสือฮว่า การกระทำไม่เหมาะสม แล้วยังไม่มีมารยาทอีก"
เธอยังอยากจะพูดเรื่องสือฮว่าต่อ แต่กลับเห็นฮ่อฉวนสือขมวดคิ้ว "ไม่ใช่ต้องพาน้องเขาไปงานแต่งเหรอครับ? อย่าให้คนอื่นเขารอนานสิครับ"
พูดจริงๆ ฮ่อฉวนสือคือลูกพี่ลูกน้องของสวี่ฉางอัน แต่พอสวี่ฉางอันได้ยินกลับเหมือนรู้สึกประชดประชัน
หลิวจิงซูอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย เธอก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ ยังไงทางโบสถ์ก็ยังมีคนรออีกมากมาย
"ฉางอัน ไปกันเถอะ วันนี้เป็นวันแต่งงานของหลาน"
น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนเป็นใจดี กดความไม่ชอบสือฮว่าเอาไว้ กลัวว่าถ้าพูดอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เยอะๆเดี๋ยวจะเป็นลมไปอีก
อยากจัดการสือฮว่าแต่ตอนนี้สิ่งสำคัญคืองานแต่งของสวี่ฉางอัน ซึ่งเกี่ยวกับหน้าตาของบ้านตระกูลฮ่อ
ฮ่อเจิงก็ยังยืนอยู่ข้างๆสวี่ฉางอันและคอยพูดชักชวน "ฉางอัน รีบไปกันเถอะ รถมาแล้ว หรือลูกอยากให้ตระกูลฮ่อกับตระกูลถางเป็นที่หัวเราะเหรอ"
สวี่ฉางอันจ้องถังขยะที่อยู่ไม่ไกลอย่างเหม่อลอย มีเหรียญที่ฮ่อฉวนสือโยนทิ้งไป เขารู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองว่างเปล่า ร้องไม่ออก เสียใจกว่าที่เคยผ่านมา
โดนกักบริเวณอยู่ต่างประเทศ เขาบอกตัวเองอยู่เสมอว่าสือฮว่ายังรอเขาอยู่ จะยอมแพ้ไม่ได้ เขาจะต้องกลับมาให้ได้
ต่อมาได้ยินว่าสือฮว่าแต่งงานแล้ว เขาก็เริ่มโทษเธอทุกวันว่าเธอยอมแพ้ความรักครั้งนี้เร็วเกินไป
เวลาช่างโหดร้าย ทำเขาสูญเสียไปมากมาย แต่กลับบอกเขาว่านี่คือการเติบโต
เขาหลุบสายตาลง ไม่กล้ามองสือฮว่าแล้วเดินไปทางถังขยะ หยิบเหรียญขึ้นมาก่อนจะเช็กมันจนสะอาดแล้วเก็บเข้ากระเป๋า
ฮ่อเจิงกับหลิวจิงซูเห็นเขาหยิบเหรียญไร้ค่าขึ้นมา ใบหน้าก็ตกตะลึง
"ฉางอัน ถ้าชอบเหรียญเดี๋ยววันหลังแม่เอามาให้ก็ได้ ตอนนี้จะมาเสียเวลาไม่ได้แล้วนะ"
"หลาน ไปเถอะ อย่าทำให้ทุกคนกังวลเลย"
สวี่ฉางอันไม่เคยหมดหวังเท่าตอนนี้ เขารู้ ตั้งแต่จำความได้ ก็มักจะคิดถึงความรู้สึกของผู้ใหญ่เสมอจนติดเป็นนิสัย
พอเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ใช้ความรู้สึกของเขาเป็นสำคัญ
ก่อนที่จะเจอกับสือฮว่า เขารู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากตลอด มีครอบครัวที่มีความสุข และมีพ่อแม่ที่เข้าใจ
แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าคนรอบตัวเขาเย็นชาและน่ากลัว ราวกับว่าโลกที่ใช้ชีวิตอยู่มากว่ายี่สิบกว่าปีเป็นเพียงภาพลวงตา
การปรากฏตัวของสือฮว่าทำให้ภาพลวงตานี้แตกออกและเผยให้เห็นด้านที่แท้จริง
"ฉางอัน ลูกพูดจารู้เรื่องมาตลอด อย่าทำตัวแบบนี้สิ ที่แม่ทำทั้งหมดก็เพื่อลูกนะ"
ฮ่อเจิงกังวลมาก เขาคิดอะไรทำไมยังไม่ขึ้นรถ เหรียณมันมีดีอะไรกัน!
ฉางอันยกยิ้ม ได้ยินคำคุ้นเคยก็รู้สึกกลัว
ครอบครัวนี้ยืนอยู่บนที่สูง ใช้คำพูดที่ไม่เข้าใจมาลงโทษเขา ก็เหมือนยืนบนภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้แสงอาทิตย์ มองขึ้นไปก็ความร้อนระอุ ใต้เท้าก็มีแต่ความหนาวเหน็บ
"ผมรู้แล้ว"
เขาพูดเสียงนิ่ง เอื้อมมือไปตบกระเป๋าแล้วขึ้นรถ
เขากับถางจิงหรานยังไม่จบสิ้น เพราะงั้นงานแต่งครั้งนี้เลยต้องไป
เขาอยากให้เธอได้ลิ้มรส การโดนคนที่รักทรมาน
เขาต้องการให้เธอรู้ว่าของบางอย่างที่ได้มา จะต้องเจ็บปวดไปตลอดชีวิต!
หลังจากที่รถยนต์หลายคันหายไป ฮ่อฉวนสือถึงขึ้นรถ
สือฮว่าที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ได้พูดอะไร หลับตานิ่งๆ ไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
ฮ่อฉวนสือทนไม่ได้ที่สุดคือท่าทีของเธอที่ซ่อนทุกอย่างไว้ในใจ อยู่ข้างๆเขาแต่เขากลับรู้สึกเธออยู่ไกลออกไป
"เสียใจขนาดนั้นเลย?"
เห็นคนรักเก่าแต่งงานเลยรู้สึกไม่ดีงั้นสินะ?
สือฮว่าลืมตาขึ้นมองชายคนนั้นด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนจะเม้มริมฝีปาก
"ฮ่อฉวนสือ คุณนี่เอาแต่ใจจริงๆ ต้องบอกคุณทุกอย่างที่ฉันคิดเลยหรือไง?"
ฮ่อฉวนสือยกยิ้มแล้วส่งสัญญาณให้หนานสือออกรถ
หนานสือรู้สึกงงงวย เขาไม่อยู่ไม่กี่วัน มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมบรรยากาศระหว่างทั้งสองถึงผิดปกติไป
ถึงจะกลับมาคุยกันเหมือนเดิม ทำไมเขาถึงดูเจ้าชู้อีก?
สิ่งที่อยู่บนคอของคุณสือ เป็นท่านประธานทำจริงๆเหรอ?
ใบหน้าเขาแดงขึ้นเล็กน้อย ตอนแรกท่านประธานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเข้ากับคุณสือได้ยังไง ยังต้องอ่านหนังสืออยู่เลย สุดท้ายกลับทำเรื่องงี้อย่างคล่องมือ ผู้ชายนี่มีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ
รถมาหยุดที่โบสถ์ เขาก็รีบลงจากรถไปเปิดประตู
สือฮว่าขมวดคิ้วเมื่อเธอเห็นโบสถ์ เธอไม่ได้คิดจะมาที่นี่
"ลงรถเถอะ เราเป็นลูกพี่ลูกน้องและพี่สะใภ้ ยังไงเราก็ต้องเข้างาน"
ฮ่อฉวนสือแกล้งอีกคนจนสือฮว่าตามไม่ทัน
สือฮว่าลงรถและควบคุมอารมณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้