ฮ่อสือหนานมีเครื่องดื่มอยู่ในมือและขมวดคิ้วขึ้น" มู่หวั่นโจว คุณเป็นบ้าอะไร?
ให้เขาแต่งงาน? และยังเพราะเหตุผลไร้สาระนี้อีก?
ตระกูลฮ่ออยู่ในสายตาเขาเลย เขาไม่เคยคิดว่าว่าต้องการในตระกูลฮ่อ จุดประสงค์ของเขาคือฮ่อฉวนสือมาโดยตลอด สำหรับเหตุผลนั้นคนนอกเหล่านี้ไม่สามารถเดาได้
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่หวั่นโจว กงมู่ป๋ายก็หัวเราะและจ้องมองเธออย่างประชดประชัน"เมื่อก่อนคุณยังเคยรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้แม้แต่หน้าตาก็ไม่เอาด้วยซ้ำ"
มู่หวั่นโจวรู้สึกเพียงทนไม่ได้ กัดริมพลางสบตาเขา "ฉันจะทำยังไงได้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณที่จะตีตระกูลมู่อยู่เรื่อยๆ ฉันจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายนี้ วันนี้ฉันเจอกับฮ่อสือหนานในโรงพยาบาล เขาถูกวางยา ทั้งๆที่รู้ว่าคนวางยาคือสือฮว่า เขากลับยังเลือกที่จะให้อภัย หลังจากออกจากโรงพยาบาลฉันก็ได้รู้ว่า อยากให้ฮ่อฉวนสือชอบ นั่นมันเป็นไปไม่ได้ "
ใช่นะสิ ก่อนเข้าห้องวอร์ด เธอยังเหน็บแนมสือฮว่าว่าคืนนี้เธอเข้าคุกแน่
แต่เมื่อเข้าไปในวอร์ดแล้ว เธอเห็นสายตาที่ฮ่อฉวนสือมองไปที่สือฮว่า ราวกับว่าในสายตามีแต่สือฮว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามมันก็สมควรได้รับการให้อภัย
เธอแพ้แล้ว เดิมทีเธออยากแกล้งทำเป็นน่าสงสารและทำให้ผู้ชายสังเกตเห็นเธอ แต่เขากลับไล่เธอไปทันทีที่อ้าปาก เหมือนกับว่ามองมันมากไปก็จะรังเกียจ
ครั้งสุดท้ายที่เธอและฮ่อฉวนสือได้ใกล้กันที่สุดก็คือตอนที่ผู้ชายคนนั้นโดยวางยา
หากเธอเต็มใจที่จะอุทิศร่างของเธอ หากตอนนั้นเธอเปิดประตูนั่น ทุกอย่างอาจจะแตกต่างออกไป แต่ถึงอย่างไรเธอก็พลาดมันไปแล้ว
ดังนั้นหลังจากออกจากโรงพยาบาล เธอจึงรีบมาเวินเซ่อ เพียงเพื่อที่จะดูว่าจะคว้าโอกาสสักครั้งไหมที่จะพาเธอออกจากสถานการณ์ที่น่าอับอายนี้ได้
ในร่างของฮ่อฉวนสือนั้นเธอมองไม่เห็นความหวังเลย
ไม่ว่าจะเป็นฮ่อสือหนานหรือกงมู่ป๋ายที่เคยทำให้เธออับอายอย่างถึงที่สุดมาก่อน ตราบใดที่มีคนเต็มใจที่จะร่วมมือกับเธอ เธอก็จะไม่ต้องลำบากต่อไป
ตอนนี้คุณปู่ไม่ชอบเธอและคนอื่นๆก็เยาะเย้ยเธอในทุกทาง เป็นเธอเองที่กำลังผลักดันตัวเองเข้าสู่สถานการณ์นี้ทีละก้าว
อย่างไรก็ตามชายสองคนที่อยู่ตรงหน้าเธอเพียงแค่มองเธอเบาๆ ราวกับว่าเธอเป็นขยะที่สะดุดตา
กงมู่ป๋ายถึงกับขมวดคิ้วโดยตรงและพ่นคำออกมาอย่างไม่แยแส"ไปให้พ้น"
มู่หวั่นโจวตัวแข็งและอับอายอย่างสุดขีด
หัวใจก็ดูเหมือนจะถูกคนบีบจนแหลกเป็นชิ้นๆ และเศษเนื้อก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นทีละเล็กทีละน้อย
ฮ่อสือหนานจิบไวน์ไปคำหนึ่งและมองไปที่มู่หวั่นโจว
"มู่หวั่นโจว ไม่ใช่ว่าฉันโจมตีเธอ ถ้าต้องการแต่งงานกับฉัน คุณก็ไม่ไปสอบถามเกี่ยวกับความชอบของฉันหน่อย สิ่งที่ทำให้ฉันรำคาญที่สุดคือผู้หญิงที่ออกมาจากตระกูลใหญ่ประเภทนี้ ทำเป็นเสแสร้ง ทั้งๆที่ในใจสกปรกเหมือนกองขยะ แต่กลับแสร้งทำเป็นสูงส่ง เธออยากจะสู้กับสือฮว่า เธอเอาอะไรมาสู้?สลับเปลี่ยนภูมิหลังของคุณกับสือฮว่า เธอจะต้องทำได้ดีกว่าคุณ และคุณจะไม่มีวันประสบความสำเร็จเหมือนเธอในตอนนี้ คงลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่มัธยมต้นไปขายเนื้อแล้ว"
นี่เป็นความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย และมันยิ่งกว่าความอัปยศทางร่างกายที่ทำให้เธอรู้สึกว่ายากที่จะอดกลั้น
มู่หวั่นโจวมือสั่นเทา เปิดประตูห้องและเดินโทงเทงออกไปจากที่นี่
ไม่นานหลังจากที่กอดร่างที่อ่อนแอวิ่งออกมา ก็เจอกับถางจิงหรานซึ่งก็ออกมาจากในอีกห้องเช่นกัน
ถางจิงหรานสวมชุดสูทสตรีที่สั่งทำพิเศษ และถือกระเป๋าของชาแนลไว้ในมือ ซึ่งเต็มไปด้วยรสนิยม
มู่หวั่นโจวตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อก่อนเธอเคยเห็นถางจิงหรานมาก่อน ซึ่งไม่ได้เป็นอย่างตอนนี้แน่นอน
ถางจิงหรานดูเหมือนจะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่น่าสมเพชคนนี้จะเป็นมู่หวั่นโจว จนกระทั่งเธอเข้ามาใกล้ถึงนั่งยองลงช้าๆ "มู่หวั่นโจว?"
เธอและมู่หวั่นโจวไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ทั้งคู่นั้นไม่ใช่มิตรหรือศัตรู
เมื่อมู่หวั่นโจวเห็นถางจิงหราน ดวงตาก็สว่างขึ้น เธอเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับถางจิงหรานและสวี่ฉางอัน คนๆนี้และสือฮว่านั่นเป็นศัตรูกันอย่างแน่นอน!
ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร!
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ฮ่อสือหนานพูดเมื่อกี้นี้ ความไม่พอใจที่ฝังอยู่ในใจของเขาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เธอกัดฟันพลางยืนขึ้นช้าๆ "ถางจิงหราน ฉันคิดว่าเราสามารถคุยกันได้"
เมื่อเธอยืนขึ้นก็พบรอยวงกลมบนคอของถางจิงหราน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่ผู้ชายทิ้งไว้ แต่เท่าที่เธอรู้ หลังจากที่ถางจิงหรานและสวี่ฉางอันแต่งงานกัน กับอยู่คนเดียวมาตลอด
ในขณะที่เธอสงสัยอยู่ ก็มีชายคนหนึ่งที่เพิ่งออกมาจากห้อง คว้าถางจิงหรานแล้วจูบอย่างดูดดื่ม"ไม่ใช่บอกออกมาสูดอกาศเหรอ?ทำไมนานจัง?"
ชายคนนี้อายุประมาณ 30 ปี และดูเหมือนจะเป็นคนตำแหน่งสูงในบริษัทตระกูลถาง นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่านิสัยไม่ดี และยังสนิทสนมเป็นการส่วนตัวได้ยากด้วย ไม่คาดคิดว่าถางจิงหรานนั้นจะยอมสละตัวเองไป
"ออกมาสุดอากาศจริงๆ คุณมู่คนนี้คุณก็น่าจะรู้จัก ที่รัก เข้าไปรอฉันนะ ฉันคุยกับคุณมู่แป๊บหนึ่งนะคะ "
แม้ว่าชายคนนั้นจะไม่พอใจ แต่ก็พยักหน้า "โอเค ผมจะรอคุณอยู่ข้างในนะ"
ไม่น่าแปลกใจที่ถางจิงหรานจะมาที่นี่ในตอนกลางดึกแบบนี้ ที่แท้ก็เพราะขโมยกินกับผู้ชายนี่เอง
อารมณ์ของมู่หวั่นโจวนั้นคงที่หมดแล้วพลางขมวดคิ้วและมองดูเธอ "คุณไม่ใช่ชอบ วี่ฉางอันมากเหรอ? คุณเป็นแบบนี้ ไม่กลัวว่าสวี่ฉางอันจะมาเห็นเหรอ?"
ปากของ ถางจิงหรานเต็มไปด้วยความประชดพลางหยิบบุหรี่หอมของผู้หญิงออกมาจากกระเป๋า จุดไฟแล้วสูบไป" ฉันรักสวี่ฉางอันมาก แต่ฉันนั้นเกลียดสือฮว่ายิ่งกว่า เพียงแค่ให้ของหวานเล็กๆน้อยๆกับผู้ชายเหล่านี้เท่านั้น ฉันก็ไม่เสียหายอะไร"
เมื่อก่อนถางจิงหรานไม่เคยสูบบุหรี่เลย นี่เป็นสิ่งที่เธอเพิ่งเรียนรู้เมื่อไม่นานมานี้ "เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับการร่วมมือได้ คุณจัดการตัวเองดีๆและพรุ่งนี้มาพบฉันที่บริษัทตระกูลถาง"
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็โยนก้นบุหรี่ทิ้ง เปิดประตูห้องแล้วเดินเข้าไป
ผ่านช่องว่างที่เปิด มู่หวั่นโจวมองเห็นฉากข้างในอย่างชัดเจน มันไม่เพียงมีแค่ผู้ชายคนเดียวที่อยู่ข้างใน
ถางจิงหรานพูดทั้งหัวเราะขณะที่เธอเดินเข้าไป เกือบจะในเวลาเดียวกันและสายตาของผู้ชายที่มองเธอนั้นไม่มีการอำพรางใดๆ ทุกคนล้วนเลือกสิ่งที่ต้องการ
ประตูค่อยๆปิดลง มู่หวั่นโจวตบหน้าตัวเอง ก้มหน้าและรีบจากไป
สือฮว่านั้นไม่รู้เลยเพราะผู้หญิงสองคนที่เกลียดเธอจะร่วมมือกัน เพราะเรื่องในคืนนี้และมันจะสร้างความเสียหายให้กับเธอในอนาคต
ในตอนเก้าโมงเช้า เธอตื่นตรงเวลา
มือของชายคนนั้นยังคงโอบรอบเอวของเธอ และลมหายใจก็พ่นรอบคอของเธอ
ในหัวของเธอก็นึกถึงความพัวพันระหว่างทั้งสองในเมื่อคืนที่ผ่านมาทันที และยังมีตอนที่เธอยอมแพ้จะหนีแล้วรีบวิ่งกลับมาในฉากนี้
เธอมองไปที่เพดาน ครุ่นคิดมากมายในหัวและสุดท้ายก็ค่อยๆหลับตาลงแล้วหัวเราะตัวเอง
"ก๊อกก๊อกก๊อก"
มีคนมาเคาะประตูวอร์ด เธอเงยหน้าขึ้นมองและรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูคุ้นเคยเล็กน้อย หลังจากคิดสักพักก็ถึงรู้ว่านี่คือแพทย์หญิงที่เธอพบในบ้านใหญ่ที่ตรวจดูรอยแผลเป็นของเธอ
ฉินหยู่ไม่คิดว่าสือฮว่าจะอยู่ที่นี่ และยังเห็นเธอนอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับท่านประธาน ใบหน้าของเธอก็เย็นชาในทันที แต่เพียงครู่เดียว เธอก็กลับมาเป็นปกติ
"คุณสือ"
หลังจากฉินหยู่แล้วยังมีหนานสือ
หนานสือต้องการห้ามไม่ให้ฉินหยู่เปิดประตูนี้ เพราะเขารู้ว่าสือฮว่าอยู่ข้างใน แต่การเคลื่อนไหวของฉินหยู่นั้นเร็วเกินไป และเขาก็ห้ามไว้ไม่ทัน
สือฮว่าลุกลงจากเตียงแล้วเอาผ้านวมไปสอดไว้บนร่างของฮ่อฉวนสือ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเขาตื่นแล้ว
ฉินหยู่รีบก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับเล็กน้อย "ท่านประธาน ฉินหยู่จะปฏิบัติตามภารกิจค่ะ"
เมื่อรู้ว่าชวีหยิงทรยศ ฮ่อฉวนสือก็ได้ไปจัดการกับอำนาจในที่มืดของตัวเองทั้งคืน และตอนนี้อำนาจทั้งหมดจากฝั่งนี้ได้ถูกส่งมอบให้กับฉินหยู่แล้ว
"อืม"
ฮ่อฉวนสือลุกขึ้นนั่งช้าๆ ใบหน้านั้นยังคงซีด แต่มีชีวิตชีวามากขึ้นแล้ว
สายตาของสือฮว่าหยุดอยู่ที่ร่างกายของฉินหยู่ ร่างกายของฉินหยู่มีกลิ่นของยาฆ่าเชื้อ เธอนั้นเป็นหมออย่างไม่ต้องสงสัย
เธอเป็นคนของฮ่อฉวนสือ ดูเหมือนว่าฮ่อฉวนสือนั้นยังเชื่อใจเธอมาก?
หนานสือดูเหมือนจะเห็นความสงสัยของเธอ และอธิบายอย่างรวดเร็ว: "คุณสือครับ ฉินหยู่เป็นหมอระหว่งางเทศที่เก่งที่สุด ซึ่งประสบความสำเร็จมากมายในหลายๆ ด้านการผ่าตัดของเธอไม่เพียงช่วยชีวิตผู้คนเท่านั้น แต่ยังสามารถฆ่าคนได้อีกด้วย"
สือฮว่าไม่ได้พูด ตอนที่อยู่ในบ้านใหญ่ เธอนั้นรู้สึกแปลกกับแพทย์หญิงคนนี้
ในเวลานั้นบรรยากาศของบ้านใหญ่นั้นตึงเครียดมาก แต่แพทย์หญิงนั้นกำลังเผชิญกับวิกฤตและดูไม่เหมือนคนธรรมดาเลย
ในเวลานั้นเธอเคยสงสัย แต่ไม่ได้คิดว่านี่คือคนของฮ่อฉวนสือ
แล้วแผลเป็นที่ท้องนั้นเกิดจากการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบหรือเพราะผ่าคลอดกันแน่?
หนานสือบอกว่าคนๆนี้ได้ศึกษาในหลายสาขาและเป็นอัจฉริยะทางการแพทย์ที่อายุน้อย สำหรับแผลเป็นของเธอนั้นก็สามารถให้คำอธิบายที่น่าเชื่อถือได้สิ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้