นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 231

สือฮว่า ที่ฉันต้องการไม่ใช่แสงสว่าง ฉันต้องการแค่เธอ

ในหัวสือฮว่ามีแต่เสียงนี้ เธอนึกว่าตัวเองผ่านวัยที่ได้ยินความรักหวานซึ้งมาแล้ว แต่พอคำพูดนี้ออกมาจากปากของเขา ก็ราวกับว่าความอ่อนโยนของโลกทั้งโลกได้ตกอยู่ในสายตาเธอ

อาการบาดเจ็บ การปกปิดของเขา ดูเหมือนจะไม่สำคัญอีก

เธอเจ็บมุมปากนิดๆ หากเธอรักฮ่อฉวนสือ ความรักระหว่างพวกเขาก็คือความรักระหว่างคนเลือดเย็นและมองโลกในแง่ร้าย เป็นความรักระหว่างคนเลวกับคนเลว

พวกเขาเข้าใจความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายและความมืดกันและกัน

เพราะงั้นโชคดีที่เธอยังไม่รักเขา

ทั้งสองกอดกันโดยไม่มีใครพูดอะไร ฮ่อฉวนสือเริ่มลูบไล้แก้มของเธอและกดจูบอย่างอ่อนโยน

สือฮว่าเงยหน้าเพื่อตอบกลับ นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอเริ่มตอบสนองเขา

ครั้งแรกตอนเธอเมา เลยจำสถานการณ์ไม่ได้

ครั้งที่สองคือตอนนี้ เธอมีสติดี รู้ว่าตัวเองกำลังจูบเขา

ทั้งสองเหมือนจะถอยการต่อสู้ทั้งหมดไปในทันที ทั้งหมดกลายเป็นความนุ่มนวล

เธอพลิกตัวและกดเขาลง

ฮ่อฉวนสือหัวเราะและประคองเอวเธอด้วยมือทั้งสองข้าง ให้เธอใช้แรงน้อยลงหน่อย

พวกเขาคล้ายคลึงกันแค่ไหน คนนอกมองว่าฮ่อฉวนสือโดดเดี่ยวและสูงส่ง แต่ฮ่อฉวนสือที่สือฮว่าเห็นนั้นร้อนแรงเหมือนลูกพลัมสีแดง

คนนอกเห็นสือฮว่าพูดจาทิ่มแทงและสูงส่ง แต่ในขณะนี้ความอบอุ่นทั้งหมดของเธอก็เบ่งบานให้กับเขา

สิ่งที่พวกเขาแสดงให้กันและกันคือด้านที่ไม่รู้จัก แต่กลับเหมาะสมมาก

ฮ่อฉวนสือหรี่ตาลงเล็กน้อย เห็นใบหน้าเธอแดงก็ยกมือทัดผมให้เธอ

เขารู้นานแล้วว่าฮว่าเอ๋อร์ของเขานั้นอบอุ่นจริงๆ

ทั้งสองอยู่ในห้องนอนจนถึงทุ่ม สองทุ่ม และไม่มีใครมาขัดจังหวะกลางคัน หนานสือเองก็คุ้นเคยกับการถอยไปชั้นล่าง

ในที่สุดประตูห้องชั้นบนที่ปิดอยู่ก็เปิดออก เขาเงยหน้าอย่างดีใจ และเห็นท่านประธานของเขาออกมาจากข้างในด้วยใบหน้าอิ่มเอม

"ท่านประธานครับ มีการประชุมตอนกลางคืน อีกสิบนาทีจะเริ่มครับ ผู้บริหารระดับสูงอยู่ที่นี่ครับ"

"เปลี่ยนเป็นการประชุมทางวิดีโอ"

หนานสือพยักหน้าและรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบ

ฮ่อฉวนสือหันหลังเดินไปทางห้องหนังสือ เขายังคงดูสง่างามและเย็นชา ไม่เหมือนเมื่อกี้ที่งดงาม

สิบนาทีต่อมา กล้องเปิดตามเวลา เขาหลุบสายตาลงเล็กน้อยและรับฟังรายงานต่างๆจากผู้บริหารระดับสูง

ในตอนท้าย มีคนพูดว่าช่วงนี้ให้พวกเขาคอยระวังเรื่องต่างๆ

"ท่านประธานครับ ผู้อำนวยการยวี๋กำลังลาป่วย และไม่ได้มาที่บริษัทนานแล้วครับ"

ดวงตาฮ่อฉวนสือสั่นและเขาไม่ได้พูด

"ผู้อำนวยการยวี๋ยังมีโปรเจ็กต์สำคัญหลายอย่าง หากเขายังคงลง เกรงว่า..."

จริงๆแล้วผู้บริหารระดับสูงก็เป็นคนเห็นแก่ ถ้าท่านประธานมอบโครงการพวกนี้ให้พวกเขา พวกเขาต้องทำได้ดีกว่าผู้อำนวยการยวี๋แน่

"เอาให้คนอื่นแล้วกัน ผอ.ยวี๋สุขภาพไม่ดี ตำแหน่งนี้ก็ควรเปลี่ยนคนได้แล้ว"

หลังจากลาป่วยไปหลายวันก็ไม่กลับมา แม้แต่เนื้อหางานก็ยังจัดการได้ไม่ดี ทุกคนก็ไม่พอใจมาตั้งนานแล้ว พอได้ยินฮ่อฉวนสือพูดแบบนี้ ก็ยิ้มตาปิดทันที

"พวกเราทราบแล้วครับ"

หลังจากวางสานวิดีโอ ฮ่อฉวนสือก็มองไปทางหนานสือ "การผ่าตัดของหนานจิ่นผิงยังไม่เริ่มเหรอ?"

"ว่ากันว่าใกล้แล้วครับ สถานการณ์ของเธอล่าช้าไม่ได้แล้วครับ"

ฮ่อฉวนสือพยักหน้า เหลือบมองเวลา ก็เห็นว่าการประชุมดำเนินไปเป็นเวลาสองชั่วโมงเต็ม สือฮว่ายังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย

เขาลุกขึ้นดึงเน็คไทที่คออย่างลวกๆ จิบกาแฟแล้วเดินไปที่ห้องนอน

สือฮว่าตื่นแล้ว นั่งอยู่บนขอบหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

ลมกลางคืนแรงมากจนผมของเธอปลิวไสว

ฮ่อฉวนสือกอดเธอจากด้านหลังและลูบไล้คอของเธอ "ที่นี่หนาวนะ"

"ไม่ค่อยเท่าไรหรอก"

เสียงของสือฮว่านั้นแหบแห้ง เท้าเปลือยเปล่า ลมหนาวได้แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเธอ

ฮ่อฉวนสืออุ้มเธอมาวางที่เตียงแล้วเอาผ้ามาห่มให้เธออย่างระมัดระวัง "หลังจากเรื่องนั้นเธอเสียใจเหรอ? ไม่อยากยอมรับแล้วเหรอ?"

เห็นได้ชัดว่าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาพวกเขายังคงพัวพันกันอยู่ แต่ตอนนี้เขาแค่ไปประชุมไม่นาน เธอกลับดูเย็นชาอีกครั้ง

ร่างกายสือฮว่าแข็งทื่อ ผิดธรรมชาติไปเล็กน้อย "พูดอะไรไร้สาระจัง"

ฮ่อฉวนสือนั่งข้างเตียง จ้องมองตรงไปที่เธอ จ้องจนสือฮว่าเริ่มขนลุก

"ในเมื่ออยู่จิงตู งั้นก็อยู่ที่ตี้เซิ่งเถอะ คืนสถานะงานให้ในอีกสองวันดีไหม?"

สือฮว่าพยักหน้าและทันทีที่เธอกำลังจะหดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ฮ่อฉวนสือก็รีบจับเธอออกมา "ยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ"

"ฉันไม่หิวนี่"

"แต่ฉันหิว เธอกินเป็นเพื่อนฉันแล้วกัน"

สือฮว่ากัดฟัน เลิกผ้านวมด้วยความโกรธ "ฮ่อฉวนสือ คุณ!"

รู้ทั้งรู้ว่าตอนนี้เธอยังไม่ผ่อนคลาย ไม่อยากเผชิญหน้าเขา เขาหลับใช้ประโยชน์จากความตื่นตกใจของเธอและบังคับเข้ามาในโลกของเธอ

สือฮว่าอ่อนแรง เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ เธอก็ไม่มีทางต้านทานได้

"สือฮว่า ฉันจะไม่ให้โอกาสให้เธอเปลี่ยนใจ ถ้าฉันทิ้งเธอไว้ในห้องนอน เธอก็จะคิดมากอีก บางทีอาจจบลงด้วยการกระโดดออกจากหน้าต่างแล้วหนีไป อันที่จริงเธอไม่เคยคิดไปกับฉัน แม้แต่ความอ่อนโยนที่เธอเผยออกมาบางครับ ก็เป็นเพรราะหลงใหล แม้ว่าเราจะสนิทสนมกันอยู่แล้ว เธอก็ไม่มีวันพูดคำนั้นกับฉัน ใจเธอมีเส้นกั้นอยู่ คอยวัดความสัมพันธ์ระหว่างเรา"

ฮ่อฉวนสือพาเธอออกมา แล้วหยิบเสื้อโค้ทจากด้านข้างมาสวมให้เธอ

ท่าทางของเขาไม่ชำนาญมากนัก แต่ก็อ่อนโยนมาก

สือฮว่าโดนเขาลากลงไปชั้นล่างและมีชามโจ๊กวางไว้ตรงหน้าเธอ

"ร่างกายเธออ่อนเพลีย เธอต้องกินอะไรหน่อย"

พอพูดถึงอ่อนแรง ใบหน้าสือฮว่าก็แดงปรี๊ด มือที่ถือช้อนนั้นดูผิดธรรมชาติไปเล็กน้อย

เธอแอบได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของคนรับใช้ที่อยู่รอบๆ เธอก็รู้สึกเพียงแค่ว่าใบหน้าร้อน

แต่เธอแย้งไม่ได้ ได้แต่แกล้งก้มหน้ากิน

หลังจากกินโจ๊กเสร็จ กริ่งประตูในห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้น ทั้งถางหรงและฮ่อฉินๆก็มา

ไม่เหมือนในอดีต ฮ่อฉินฉินมองไปที่สือฮว่าด้วยสายตาที่ทิ่มแทงและอยากจะเข้ามาคว้าคอเพื่อถาม

สือฮว่าวางช้อนลงช้าๆ หลังจากคุณหญิงถางได้ยินที่โรงพยาบาล เธอก็รู้ว่าคนๆนี้จะมาไม่ช้าก็เร็ว

ฮ่อฉินฉินรู้สึกเหมือนเลือดคั่งที่หัว เธอเพิ่งรู้ข่าวเมื่อกี้ เมื่อคิดถึงพี่ชายที่เคารพของเธอใกล้ตาย แถมคนที่วางยาพิษก็คือพี่สะใภ้ของเธอ เธอก็เดือดจัด

"สือฮว่า ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบพี่ฉัน แต่เธอไม่เห็นจำเป็นต้องวางยาเลยนี่ โชคดีที่พี่ฉันไม่เป็นอะไร ไม่งั้นวันนี้เธอตายแน่"

สือฮว่าหลุบสายตาลง ความจริงแล้วเธอเองก็กลัวเรื่องนี้มาก ยานั่นฮ่อซือหนานเอามา ถ้าฮ่อซือหนานคิดจะฮ่อฉวนสือจริง แล้วฮ่อฉวนสือก็กินยานั่นไปจริงๆ ถึงจะเทพเจ้าต้าหลัวก็ช่วยเธอไม่ได้

เมื่อเธอได้รับข่าวจากหนานสือในคืนนั้น ปฏิกิริยาแรกของเธอคือกลัว เธอกลัวว่าที่หนานสือพูดจะเป็นจริง

จนกระทั่งหนานสือส่งข้อความให้เธอเป็นครั้งที่สองเธอยืนยัน ฮ่อฉวนสือคงจะไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นหนานสือคงไม่มีเวลาส่งข้อความถึงเธอ

ในขณะนั้นเธอก็เข้าใจ บางทีอาจเป็นโอกาสสำหรับทั้งสองคน ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอก็มีความผิดจริงๆ

สีหน้าของถางหรงไม่สู้ดีนัก เม้มริมฝีปากเล็กน้อย และก็ยังคงจ้องมองทั้งสองที่กำลังทานข้าวอย่างเย็นชา

ท่าทางของฮ่อฉวนสือยังคงสงบ แถมยังคีบอาหารให้สือฮว่าด้วย

สือฮว่าไม่มีสมาธิดีขนาดนั้น ได้แต่นั่งกระสับกระส่ายเท่านั้น

ถางหรงก็เห็นฉากนี้ด้วยเช่นกัน ลุกขึ้นจากโซฟาด้วยความโกรธ "ฉวนสือ ลูก!!"

เธอจะไม่รู้ได้ไง นี่เป็นท่าทีของลูกชายของเธอ

จู่ๆเธอก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ควรให้สือฮว่าเข้ามาตั้งแต่ทีแรก เหมือนเธอจะหมดเรี่ยวแรงแล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา

"ลูกรู้ไหมว่าลูกกำลังทำอะไรอยู่ ฉวนสือ แม่ไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมปู่ลูกถึงเลือกสือฮว่าตั้งแต่แรก แม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าตัวตนที่แท้จริงของสือฮว่าจะช่วยลูกได้ แต่แม่ให้คนไปตรวจสอบตั้งเยอะแยะ ผู้หญิงคนนี้ก็แค่คนธรรมดาเท่านั้น แม่ยอมรับว่าเธอยอดเยี่ยม นิสัยของเธอก็น่ารัก สำหรับความละบากใจของแม่ เผชิญหน้าความอันตรายได้ แต่เธอก็เป็นแค่ลูกของคนธรรมดา ลูกต้องเจออะไรโหดร้ายอีกมากในวันข้างหน้า ต้องต่อสู้ฝ่าฟัน ลูกคิดว่าเธอจะจับมือลูกไปตลอดงั้นเหรอ? ฉวนสือ"

ฮ่อฉินฉินที่นั่งอยู่ข้างๆถางหรงเอียงศีรษะด้วยความสับสน ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจสิ่งที่แม่ของเธอพูด?

พี่จะต้องเจออะไรโหดร้าย? ตี้เซิ่งตอนนี้ก็เป็นบริษัทที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศแล้วและเขาเป็นทายาทของตระกูลฮ่อ ใครไม่กลัวตายแล้วมายั่วโมโหเขาบ้าง?

ถางหรงถอนหายใจ มือที่วางบนเข่าบีบแน่น

"แม่กลัวจริงๆว่าลูกจะหลงระเริงจนลืมสิ่งที่ลูกต้องทำ ฉวนสือ ถ้าลูกชอบสือฮว่าจริง ก็ไม่ควรให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้อง"

"แม่ แม่กำลังพูดเรื่องอะไรคะ?"

ในที่สุดฮ่อฉินฉินก็อดไม่ได้จนพูดออกมา ทั้งยังมองถางหรงอย่างสงสัย จากนั้นก็มองฮ่อฉวนสือ ทำไมถึงรู้สึกทั้งสองกำลังเล่นปริศนาคำใบ้กัน

ถางหรงกลับไม่ตอบเธอ แต่มองตรงไปที่ฮ่อฉวนสือ

ฮ่อฉวนสือวางชามและตะเกียบลง "แม่ ผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ครับ"

พอได้ยินเขาพูดว่าแม่ แววตาของถังหรงก็หวั่นไหว เสียงของเธอก็แหบแห้ง "ลูกจะเป็นลูกชายของแม่ตลอดไป แม่รู้ว่าลูกมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่แม่ก็แค่เป็นห่วง"

ใบหน้าฮ่อฉินฉินที่อยู่ด้านข้างซีดลงแล้วคว้าแขนของถางหรง "แม่คะ หมายความว่ายังไงกันคะ?"

ถางหรงหลับตาลง ใบหน้าฉายถึงความเหนื่อยล้า "ฉินฉิน ลูกไม่ต้องรู้หรอก ลูกรู้แค่ว่านี่คือพี่ของลูกก็พอ"

ฮ่อฉินฉินลุกขึ้นยืน พูดด้วยเสียงที่สั่น "อะไรคือรูกแค่เขาคือพี่ของหนูก็พอคะ แม่ อันที่จริงหนูสงสัยมาตั้งนานแล้ว หนูไม่ใช่คนโง่นะคะ ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน มีเรื่องอะไรที่บอกหนูไม่ได้ แม่พดถูก เขาคือพี่หนู ตราบใดที่หนูจำได้ เขาจะเป็นพี่ชายของหนูตลอดไป!"

สือฮว่าได้ยินคำพูดของเธอ มุมปากก็ยกยิ้ม ความรักและความเกลียดชังของฮ่อฉวนสือก็ทำให้คนชอยอยู่

ถางหรงลูกศีรษะของเธอและถอนหายใจ "ตอนที่พี่ชายแท้ๆของลูกเพิ่งเกิด ก็โดนคนขโมยตัวไป ตอนเราออกตามหา ที่นั่นก็มีแค่กองเลือดและรองเท้าของพี่ลูก ตอนนั้นแม่เป็นลมและป่วยหนักจนกำลังจะตาย ต่อมาปู่ของลูกก็พาเด็กคนหนึ่งกลับมาและบอกว่านั่นคือลูกชายแม่ที่หายไป เดิมทีแม่ป่วยหนักติดเตียงและไม่มีความหวังอะไร แต่เพราะการมีอยู่ของเด็กคนนี้ ทำให้ร่างกายของแม่ดีขึ้น ต่อมาก็มีลูก ร่างกายแม่ก็ดีอย่างสมบูรณ์ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ฉินฉิน อย่าไปบอกคนอื่นล่ะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้