นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 233

ทั้งสองกอดกันและไม่พูดอะไรอีก

แม้ว่าสุดท้ายฮ่อฉวนสือจะอยู่ในห้องของเธอ สือฮว่าก็ไม่ได้พูดอะไร

กลางวันก็เรื่องเยอะแล้ว เธอก็นอนอยู่ข้างหนึ่งเงียบๆก่อนหลับไป

ฮ่อฉวนสือโอบกอดเธอ เห็นเธองอขาเพื่อปกป้องตำแหน่งการนอนตัวเองก็รู้สึกเสียใจ

คนแบบนี้ส่วนใหญ่ขาดความรู้สึกปลอดภัย แต่นิสัยสือฮว่าดื้อรั้นขนาดนี้ ผู้หญิงคนอื่นคงรับความรู้สึกปลอดภัยจากอีกฝ่ายอย่างตะกละตะกลาม แต่ความรู้สึกปลอดภัยของเธอคือการปิดตัวเอง ไม่พึ่งพาใคร

เขากอดอีกคนไว้แน่น กดจูบเธอที่ไรผมแล้วหลับตา

คืนนี้ทั้งคู่เงียบมาก

เมื่อสือฮว่าตื่น ฮ่อฉวนสือก็ไม่อยู่แล้ว เธอจัดข้าวของแล้วไปหาหนานจิ่งผิงทันที

แม้ว่าหนานจิ่นผิงจะยังซีดเซียว แต่พอเห็นเธอมา ใบหน้ากูดูมีสีสันขึ้นมาหน่อย

ร่างกายของเธออ่อนแอจนเดินไม่ได้ตามปกติ โจวกุยช่านเตรียมรถเข็นไว้ให้เธอ ทุกวันหนานจิ่นผิงจะคอยเข็นรถด้วยตัวเองเพื่อไปรับแสงแดดข้างนอก

โจวกุยช่านไม่มีหน้าไปเจอเธอ ได้แต่มองอยู่ไกลๆ ไม่เข้าไปใกล้

ตอนนี้หนานจิ่นผิงอาศัยอยู่ที่ชั้นหนึ่งซึ่งสะดวกสำหรับเธอที่จะไปไหนมาไหนแถมยังมีสาวใช้พิเศษคอยดูแลเธอด้วย

สือฮว่าเห็นผู้หญิงที่ผอมเพรียวขนาดนี้ ก็รู้สึกแค่ว่าหัวใจมันติดขัด

เธอนั่งยองๆ จับมือหนานจิ่นผิง เปิดปากแต่กลับไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหน

แต่เป็นหนานจิ่นผิงที่ลูบหัวเธอ "เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ ไม่ต้องห่วง ฉันจะร่วมมือกับหมออย่างดี"

เธอยังคงเป็นหนี้อีกคนอยู่มาก และหากเธอจากไปจริงๆ ความเจ็บปวดที่ที่มีให้สือฮว่าคงจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ไม่ไกลจากพวกเธอ โจวกุยช่านยืนปากคาบบุหรี่ ยืนอย่างเหงาๆ

เขาเอนตัวพิงโคนต้นไม้ สูบบุหรี่ รู้สึกแค่ว่ากลิ่นควันทำให้คอของเขาเจ็บมาก

หลังจากสูบมวลสุดท้ายเสร็จ แล้วเขาก็ก้าวเท้าออกจากที่นี่

หลังจากเดินออกไปไม่นาน เขาก็เห็นสวี่ฉางอันที่เหี่ยวแห้งเช่นกัน

สวี่ฉางอันสวมเสื้อกันลมสีเบจและหมวก ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว

เขาผอมไปมาก มือล้วงกระเป๋า พอเห็นโจวกุยช่านออกมาเขาก็หัวเราะ "ไปดื่มไหม?"

ดวงตาโจวกุยช่านแดงในทันที ผู้ชายไม่ได้มีคำปลอบใจเยอะนัก แค่ "ดื่มกันไหม" ก็เพียงพอแล้ว

ทั้งสองมาถึงเวินเซ่อและนั่งเงียบๆในห้อง

ผู้จัดการรีบหยิบไวน์ดีๆมาก่อนโน้มตัวอย่างระมัดระวัง "นายน้อยครับ ให้เรียกคนเข้ามาไหมครับ?"

โจวกุยช่านเอนหลังและส่ายหัว

ผู้จัดการก็รีบออกไปอย่างรวดเร็วและปิดประตูอย่างใส่ใจ

เมื่อผู้จัดการจากไป สวี่ฉางอันก็หยิบไวน์มาหนึ่งแก้วและตรวจดูอย่างละเอียด

โจวกุยช่านยังคงจุดบุหรี่และพ่นควันออกมาอย่างเชี่ยวชาญ "ช่วงนี้นายดูสนิทกับฮ่อฉวนสือนะ?"

"แค่ขอให้เขาช่วยเท่านั้น"

สวี่ฉางอันจิบไวน์ จนฝาดลำคอ

โจวกุยช่านเคาะขี้บุหรี่และยิ้มเยาะเย้ยมุมปาก "ครั้งที่แล้วไม่ได้บอกว่าสือฮว่าจะไปจากที่นี่แล้วจะไม่กลับมาอีกไม่ใช่เหรอ"

มือที่จับแก้วของสวี่ฉางอันบีบแน่นและกัดฟัน "กุยช่าน นายคิดว่าเสี่ยวฮว่าเอ๋อร์กับฮ่อฉวนสือจะไปด้วยกันได้จริงเหรอ?"

เขาไม่ชอบที่ฮ่อซือหนานพูด ฮ่อซือหนานบอกว่าสือฮว่าควรจะคบกับฮ่อฉวนสือตั้งแต่แรก และเขาคือคนนอก

ทำไม? เขารู้จักสือฮว่าก่อนชัดๆ...

โจวกุยช่านหรี่ตาและหัวเราะเบาๆ "ใช่ ฉันก็คิดว่าพวกเขาไปกันได้ พวกเขาดูสูงส่งและโดดเดี่ยว แต่ตราบใดที่มองไปข้างหลัง พวกเขาก็จะเห็นว่ามีความมืดมิดกว้างๆอยู่ด้านหลัง ฉางอัน นายคือคนที่อยู่ในที่แสงสว่าง"

สวี่ฉางอันตาตก ตอนเขาคบกับสือฮว่า เขาเองก็รู้สึกระแวงในนิสัยของสือฮว่า

แต่เขารักเธอ ดังนั้นไม่ว่าจะหวาดระแวงหรือมืดมน เขาก็ยอมทุกอย่าง

เขาขยี้ตา แต่ก็ยังไม่ปล่อยวาง ไม่ปล่อยวางที่คืนนั้นสือฮว่าผลักเขาแล้ววิ่งไปหาฮ่อฉวนสือ

ปล่อยเธอไม่ได้กระทั่งรู้ว่าคือการหลอกลวง แต่ก็ยังกระโดดเข้าไปอย่างไม่ลังเล

มือของเขาขยับไปอย่างรวดเร็ว กระดกเข้าปาก และเขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไร ทำได้เพียงเทไวน์ลงปาก

โจวกุยช่านกลัวว่าเขาจะเมา แต่เขาก็รู้ว่าสวี่ฉางอันตอนนี้คงไม่ฟังใคร

ทันทีที่เขาทิ้งก้นบุหรี่ลงในถังขยะ โทรศัพท์ที่อยู่ด้านข้างก็ดังขึ้น เป็นสือฮว่าโทรมา

"โจวกุยช่าน หนานจิ่นผิงหมดสติไป! ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล!"

โจวกุยช่านรู้สึกมือเท้าเย็น แล้วให้ผู้จัดการดูแลสวี่ฉางอันดีๆและออกจากที่นี่ทันที

สวี่ฉางอันคอไม่แข็ง ไม่กี่ขวดก็ฟุบกับโต๊ะ

เมื่อผู้จัดการเห็นเขาอยู่เงียบๆ ก็จึงปิดประตูและไม่ได้มองอีก

สวี่ฉางอันเงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างๆเขา เธอเรียกชื่อเขาอย่างเสน่หา น้ำเสียงของเธอก็อ่อนโยนกว่าสายลมฤดูใบไม้ผลิเสียอีก

เขาเอนตัวพิงโซฟาด้วยใบหน้าแดงก่ำและยื่นมือมาปิดตา เหลือเพียงปาก

ท่าทางที่ดูเด็กของเขาช่างตลก ผิวขาวๆของเขาก็ดูแวววาวเมื่อโดนแสง

โจวกุยช่านรู้สึกว่าตัวเองฝันอย่างยาวนาน ฝันว่าเขานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในมหาวิทยาลัยกับสือฮว่าและเป็นครั้งแรกที่จูบกัน

เขาไม่กล้ายื่นมือไปรอบๆ และไม่กล้าลืมตาขึ้นมามองสีหน้าของเธอ แม้ริมฝีปากก็แตะเบาๆแล้วผละออก

ทั้งคู่จูบกันครั้งแรก ต่างคนต่างหน้าแดง

ตอนนี้นึกย้อนกลับไป ชิ้นส่วนเหล่านั้นยังคงทำให้มึนเมา

สวี่ฉางอันตัวร้อน อาจเป็นเพราะนึกถึงเรื่องพวกนี้ หูก็เปลี่ยนเป็นแดง

เขารู้สึกเหมือนมีคนกำลังปลดกระดุมเขา กระทั่งจูบที่มุมปากของเขา

เขาพยายามลืมตา แต่ความสับสนวุ่นวายในหัวทำให้เขาทำไม่ได้

เหมือนเขาจะถูกผลักลงไปในน้ำ หายใจไม่ออก

"ออกไป!!"

เขาตะโกนด้วยความโกรธ จนจะทุบคอของอีกคนอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าของมู่หวั่นโจวซีดและไม่กล้าเข้าใกล้

เธอเหลือบมองรูปถ่ายในมือ ถ่ายได้ชัดเจนมาก

เธอกระตุกมุมปาก เปิดประตูห้องอย่างเงียบๆและจากไป

เธอมาอีกห้อง เห็นถางจิงหรานอยู่ในนั้นก็ชะงักฝีเท้า แล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างหน้าเธอ "แค่นี้พอไหม?"

ถางจิงหรานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พลิกดู พยายามระงับความหึงในใจ "อืม"

มู่หวั่นโจวนั่งลงตรงข้ามกับเธอ สับสนเล็กน้อยว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไร? ไม่ใช่ว่าชอบสวี่ฉางอันมากเหรอ? ทำไมให้ผู้หญิงคนอื่นใช้ประโยชน์จากสวี่ฉางอัน แถมยังใช้โอกาสตอนเมาอีก

ถางจิงหรานหรี่ตาราวกับว่าเห็นความคิดของเธอ

"แม้ว่าสือฮว่าจะเลิกกับสวี่ฉางอันไปแล้ว แต่ในใจเธอสวี่ฉางอันยังคงเป็นแสงจันทร์สีขาว หากเกิดอะไรกับสวี่ฉางอัน เธอคงไม่รู้สึกสบายใจ ตราบใดที่เป็นเรื่องที่ทำให้เธอไม่สบายใจ ฉันก็มีความสุขที่ได้ทำมัน และนี่เป็นเพียงนิดเดียว รอฉันเตรียมการพร้อม เธอต้องชดใช้เรื่องในตอนแรกแน่!"

มู่หวั่นโจวร่วมมือกับถางจิงหราน รู้ว่าคนๆนี้มีความแค้นต่อสือฮว่ามาก

มุมปากของเธอยกยิ้ม หากพวกเขาจับมือกัน ก็ไม่เชื่อว่าสือฮว่าจะยังไม่พ่ายแพ้!

แต่สือฮว่ากลับไม่รู้อะไร ตอนนี้เธอยุ่งมาก จับมือหนานจิ่นผิงไม่หยุดแล้วเรียกชื่อเธอ

หลังจากหมอฉีดยาให้ ในที่สุดหนานจิ่นผิงก็ตื่นขึ้น

หมอเลิกเปลือกตาแล้วถอนหายใจ "ท่าทางแบบนี้กล้าดียังไงถึงผ่าตัด ต้องรีบดูแลตัวเองไม่งั้นจะไม่ไหว อายุยังน้อย หน้าตาก็สวย ไม่รู้ทำไมถึงคิดไม่ได้"

หนานจิ่นผิงงดงามมาตลอด ถึงตอนนี้จะซีดเซียวก็ยังน่าสนใจ

เธอลืมตาขึ้น เห็นเพดานสีขาวราวกับหิมะถึงรู้ว่าตัวเองมาที่โรงพยาบาล

สือฮว่าเข้าใจว่าหมอหมายถึงอะไร หนานจิ่นผิงไม่ยอมกินข้าว!

"ขอโทษค่ะ กินไม่ลงจริงๆ"

เสียงของเธอเบามาก ราวกับว่าอาจหายไปได้ทุกเมื่อ

ตอนนี้สือฮว่าจะตำหนิเธอได้ยังไง ได้แต่เสียใจ

"เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ คนมักพูดว่าต้องใช้ความพยายามมากในการจะได้เป็นที่รัก แต่ฉันไม่เคยคิดอยากเป็นแบบนั้น แต่ความทุกข์ก็ยังไม่ปล่อยฉันไป"

หลังจากที่เธอพูดดวงตาก็แดงและไอไม่หยุด

สือฮว่ารีบเอากระดาษเช็ดข้างๆมาเช็ดปาก แต่กลับเห็นว่ามุมปากของเธอเต็มไปด้วยเลือด

"จิ่นผิง! หนานจิ่นผิง?!"

สือฮว่ารีบเรียกหมอ เฝ้ามองอีกคนถูกพาไปห้องฉุกเฉิน

"อาการของผู้ป่วยแย่มาก ต้องรีบดำเนินการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด ความเสี่ยงทางกายภาพของเธอสูงมาก แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกแล้ว ใครคือคนในครอบครัวครับ มาเซ็นชื่อได้เลย"

สือฮว่าอยากไปเซ็นชื่อ กลับนึกได้ว่าตัวเองไม่ใช่คนในครอบครัว

หลังจากนั้นไม่นาน สวี่ฉางอันก็มา เขาก็ไม่มีสิทธิ์เซ็นชื่อ

ตอนนี้สือฮว่าก็รู้ว่าหนานจิ่นผิงน่าสงสารเหมือนเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้