นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 364

แต่ฮ่อสือหนานกลับมีความสามารถดังกล่าว เขาอยู่ในกลุ่มผู้หญิงจนชำนาญไปแล้ว การจูบที่พัวพันกันและคำสัญญาที่ว่างเปล่านั้นสามารถทำให้เธอละทิ้งชีวิตปัจจุบันของเธอและชนกำแพงด้านใต้ที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะดีหรือร้าย

"เหยียนเหยียน ฉันมาที่จิงตูแล้ว ฉันจะหาเวลาไปเจอเธอนะ"

เสียงของชายคนนี้อ่อนโยนมาก จู่ๆถงเหยียนก็จำจูบในคืนนั้นได้ ผ่านตั้งนานแล้ว แต่เธอกลับยังก็จำได้อย่างชัดเจน

ดวงตาของเธอแดงก่ำในทันที และเธอมองดูตัวเองจมดิ่งลงไปอย่างมีสติ

"โอเค สือหนาน"

หลังจากวางสาย เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และไปหยิบโทรศัพท์มือถือให้สือฮว่า

สือฮว่ากำลังอาบแดดบนเก้าอี้เอนกาย ซึ่งไม่ได้รีบร้อนที่จะเปิดเครื่อง

แสงอาทิตย์ในต้นฤดูร้อนนั้นไม่มีพิษร้ายแรงนัก และมันก็อบอุ่นบนร่างกายของเธอ ทันทีที่เธอผล็อยหลับไป เก็ได้กลิ่นหมึกที่คุ้นเคยที่ปลายจมูก

เธอลืมตาขึ้นและพบว่าซือรั่วเฉินนั่งอยู่บนม้านั่งหินข้างๆ โดยไม่รู้ว่าเขามาเมื่อไหร่

สือฮว่ารีบลุกขึ้นนั่ง "ฉันไม่ได้ตั้งใจเลยเผลอหลับไป นี่คุณมาเมื่อไหร่"

ซือรั่วเฉินเห็นหน้าแดงๆของเธอ จึงละสายตาออก "เพิ่งมาไม่นาน"

สือฮว่านอน ผมจึงยุ่งเล็กน้อย แต่ตัวเองนั้นกลับไม่ได้สังเกต

เธอกำลังคิดว่าจะว่าคุยกับบุคคลนี้อย่างไร และปลายนิ้วขาวก็ยื่นออกมาตรงหน้าเธอ ปักผมที่ไม่เชื่อฟังสองสามเส้นไปคล้องไว้ที่ข้างหู

สือฮว่าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และอีกเว้นระยะห่างจากเขาอย่างรวดเร็ว "วันนี้คุณตั้งใจมาหาฉันเหรอ?"

"โทรศัพท์ของคุณปิดเครื่อง ผมก็เลยต้องมาด้วยตัวเอง เอาภาพวาดอักษรไม่กี่ภาพมาให้คุณ"

บนโต๊ะหินนั้น มีภาพวาดอักษรอยู่สองสามชิ้นจริง

ซือรั่วเฉินไม่เพียงแต่วาดภาพได้ดี แต่ยังมีทักษะการเขียนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

เขาน่าจะมาได้สักพักแล้ว บนโต๊ะหินนั้นมีปากกา หมึกและกระดาษวางอยู่

เมื่อสือฮว่าเห็นงานเขียนพวกนั้น จึงยากที่จะปฏิเสธและพูดได้เพียงว่า "งานเขียนของคุณซือดีมาก"

"ถ้าคุณชอบ ผมสอนคุณได้นะ"

คำพูดธรรมดานั้น ทำให้ขนตาของสือฮว่านั้นสั่น

เธอแต่งงานแล้ว และซือรั่วเฉินก็เป็นเพื่อนของฮ่อฉวนสือ พูดแบบนี้กับเธอมันไม่สมควรไม่ใช่หรือ?

หรือว่าซือรั่วเฉินไม่เคยมีความความรัก ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าควรรักษาระยะห่างกับผู้หญิง?

เธอก็ได้มองดูไปที่แหวนระหว่างนิ้วของเขาอีกครั้ง ได้ยินว่าหย่ากับภรรยาแล้ว แต่แหวนแต่งงานนี้กลับไม่ยอมถอดออก แสดงว่าในใจเขายังคิดถึงภรรยาตัวเองมาตลอด ต้องไม่ใช่ผู้ชายที่เปลี่ยนใจง่ายแบบนั้นถึงจะถูก

หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สือฮว่าก็โล่งใจ "จริงๆแล้ว สมัยที่ฉันเรียนมหาลัยก็เคยเขียนพู่กันจีน "

เธอหยิบพู่กัน ใช้นิ้วแตะปลายพู่กัน แล้วหวีมันให้เรียบ จากนั้นถึงป้ายหมึกและเขียนคำสองสามคำลงไปอย่างนุ่มนวล

—— ฮ่อฉวนสือ

ลำดับขีดของสามตัวนี้มีหลายขีดมาก แต่เธอเขียนได้อย่างชำนาญมาก ราวกับว่าเธอฝึกฝนมันมาหลายหมื่นครั้งในใจ

ซือรั่วเฉินมองดูคำสามคำบนกระดาษขาว ดวงตานั้นเป็นประกายพลางจิบชาในมือ

หลังจากที่สือฮว่าเขียนชื่อฮ่อฉวนสือ ดวงตานั้นก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย "ไม่สวยเลย"

ลายมือของเธอสวยและสง่างาม แต่ขาดประสิทธิภาพไปเล็กน้อย

ซือรั่วเฉินจับมือเธอ และอีกมือหนึ่งก็จับไหล่ของเธออย่างเป็นธรรมชาติ "ผมสอนคุณ"

คิ้วของสือฮว่ากระตุกขึ้นอย่างรุงแรง และมือนั้นก็สั่น

ซือรั่วเฉินดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ จับมือเธอแล้วเขียนฮ่อฉวนสือคำสามคำนี้ใหม่

อารมณ์ของสือฮว่านั้นไม่คงที่ แม้แต่การหายใจของเธอก็รีบร้อน ซึ่งแบบนี้นั้นจะเขียนได้ไม่ดี

เธอต้องการที่จะปล่อยมือตัวเองออก แต่ซือรั่วเฉินกลับจับมันไว้แน่น

ชื่อของฮ่อฉวนสือปรากฏบนกระดาษขาวอีกครั้ง โดยปราศจากความอ่อนโยนแบบของสือฮว่าเพียงอย่างเดียว ครั้งนี้นั้นคมชัดขึ้นมาก

ในขีดสุดท้ายจบลง ซือรั่วเฉินก็ปล่อยเธอเบาๆ "ดีขึ้นกว่าไหม?"

สือฮว่าอ้าปากเล็กน้อย ด้วยความรู้สึกผสมในใจและทำได้เพียงยิ้มเยาะ "ดีขึ้นมาก"

ซือรั่วเฉินไม่ได้นั่งอยู่ที่นี่นาน ก่อนจากไปเขาบอกว่าปากกา หมึก กระดาษและหินลองหมึกนั้นมอบให้เธอ

แม้ว่าสือฮว่านั้นไม่เคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็รู้ว่าหมึกและหินลองหมึกเป็นสิ่งล้ำค่าทั้งสองชนิด เธอไม่รับไว้ แต่ท่าทางของซือรั่วเฉินนั้นกลับไม่สามารถปฏิเสธได้

ผู้ชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆในแต่ละครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะเหลือสิ่งที่ใหม่ที่ทำให้เธอต้องตกใจ

เธอมองดูสิ่งของบนโต๊ะ จู่ๆก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยในใจ

ต่อหน้าผู้ชายอย่างซือรั่วเฉิน ไม่มีความคิดอื่นใดทั้งสิ้น หากเอาความรักไว้กับเขา ก็มีแต่จะทำให้เขาขายหน้า อารมณ์ของเขาสะอาดและสูงส่งเกินไป ราวกับว่าเกิดมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของก้อนเมฆ

นอกจากนี้เขาเป็นนักวิชาการแล้ว เมื่อเทียบกับมารยาทเหล่านี้นั้นก็ควรจะเข้าใจดีกว่าคนอื่นๆ

ดังนั้นเมื่อกี้เขาคงแค่อยากจะสอนเธอจริงๆใช่ไหม?

เวลาสองทุ่ม ฮ่อฉวนสือกลับมาแล้ว แต่ตาของสือฮว่ากลับเห็นบาดแผลที่คอของเขา เหมือนกับร่องรอยขีดข่วนอย่างรุนแรงจากบางสิ่งบางอย่าง

เธอตกใจ รีบไปหยิบแอลกอฮอล์ออกมาฆ่าเชื้อ "คุณเป็นอะไร?ทำไมถึงบาดเจ็บ?"

ฮ่อฉวนสือจับที่คอตัวเองและเงยหน้าขึ้นมามองเธอ

สือฮว่ารู้สึกว่าดวงตาของเขาดูซับซ้อน ความรักนั้นเข้าไปพัวพันกับอารมณ์อื่นๆ

"ไม่เป็นไร ขอผมกอดหน่อย"

เขากางมือและกอดเธอไว้ในอ้อมแขน พลางลูบมันด้วยความคิดถึง "เป็นแค่แผลเล็กๆเอง อย่าตกใจขนาดนั้นสิ"

รอยแผลนั้นยังมีเลือดออกแล้วจะเป็นแผลเล็กๆได้ยังไง

สือฮว่าจะผลักออก แต่มือของเขากลับกอดเธอไว้แน่น

"ฮว่า จู่ๆผมก็อยากได้"

น้ำเสียงของเขานั้นมีเสน่ห์และแหบ ราวกับเสียงอู้อี้จากศีรษะ

ในหัวของสือฮว่านั้นว่างเปล่า หลังจากที่เขาพูดแบบนี้แล้ว มือเท้านั้นก็ไม่อยู่นิ่งอีกต่อไป

คืนนี้เขากระตือรือร้นเกินไป ถามเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเธอรักเขาหรือเปล่า

เสียงของสือฮว่าถูกความหิวโหยนั้นจนเสียงเปลี่ยน แต่เหตุผลที่เหลืออยู่ก็ยังคงเป็นห่วงบาดแผลของเขา

"ทำไมถึงบาดเจ็บ แผลคุณมาจากไหน?"

ฮ่อฉวนสือนั้นไม่ตอบ เพียงแต่เพิ่มความแรงต่อความต้องการเธอ

สือฮว่ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เมื่อเผชิญกับความอ่อนโยนของเขา เธอก็ไม่สามารถถามอะไรได้เลย

ความพัวพันนี้กินเวลาจนถึงตีสี่ในตอนเช้า เธอนั้นเหนื่อยมากจนหลับไปอย่างแผ่วเบา

ฮ่อฉวนสือจับคอของตัวเอง บาดแผลนั้นเป็นรอยฟกช้ำ และตอนนี้ก็ไม่มีเลือดออกแล้ว

แต่เขาไม่กล้านึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืน ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งหวาดหวั่นในใจ

เขากอดเธอไว้แน่นและคิ้วนั้นก็ย่นเข้าหากัน

เมื่อสือฮว่าลุกขึ้น ด้านนอกนั้นแดดแรงแล้ว เธอสวมเสื้อผ้าเดินลงมาด้านล่างและพบว่าฮ่อฉวนสือกำลังจ้องมองภาพเขียนเหล่านั้นอย่างเหม่อลอย

"ซือรั่วเฉินมาเหรอ?"

เสียงของเขานั้นแผ่วเบา ซึ่งฟังอารมณ์ใดๆไม่ออก

สือฮว่ารู้สึกผิดเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก จิตใต้สำนึกอาจรู้สึกว่าการสนิทสนมกับซือรั่วเฉินนั้นผิด

"อืม ทั้งหมดนี้เขาเป็นคนเขียน"

สิ่งที่ซือรั่วเฉิน เธอก็ไม่สามารถทิ้งได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่ให้คนใช้เอาไปเก็บไว้

แต่สิ่งที่ฉันเขียนเมื่อวานนั้นหินลองหมึกยังไม่แห้ง และคนใช้ก็ทิ้งมันไว้ที่นี่เพื่อให้มันแห้งทั้งคืน สุดท้ายฮ่อฉวนสือนั้นก็มาเห็น

ฮ่อฉวนสือดึงกระดาษที่เขียนชื่อของเขาไว้ออกมา มุมปากนั้นโค้งงอ "สิ่งที่เขาให้ก็ให้คนเอาไปเก็บเถอะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้