ตอนที่ 156 ระดมทุน
อาจารย์กู่ฉินคนนี้สวยมาก สวมชุดกี่เพ้าสีขาวลายดอกไม้สีฟ้าเล็กๆ ขับดุนให้เรือนร่างมีเสน่ห์เย้ายวนชวนมอง ผิวขาวสวยราวหิมะเยือกเย็นเค้าโครงหน้าสวยงามดั่งภาพวาด ประดุจเหมือนกระเบื้องลายครามที่ผ่านการกลั่นจากเตาเผา แสงนวลระยิบระยับยากที่คนจะมองข้าม สุภาพอ่อนโยนละมุนละไมสะอาดไร้ราคี
บุคคลที่โดดเด่นเช่นนี้ ลู่เฉินมองปราดเดียวก็จำได้…ซูไต้หว่าน!
ซูไต้หว่านเป็นชาวไทเปมาจากไต้หวัน ตอนนั้นเธอโด่งดังที่ไต้หวันอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นแชมป์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดของไต้หวัน และด้วยเสียงที่ไพเราะราวกับเสียงสวรรค์และรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เธอจึงกลายเป็นดาวรุ่งจรัสแสงอีกดวงหนึ่ง
ตอนอายุยี่สิบเอ็ดปี ซูไต้ไหว่านออกอัลบั้มแรก ‘เสี่ยวเสวี่ยชูฉิง’ ของเธอ ในขณะเดียวกันก็ผลักดันอาชีพการร้องเพลงของเธอจนถึงจุดสูงสุด และถูกคนมองว่าจะได้เป็นราชินีนักร้องแห่งวงการในอนาคต
ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ หลังจากเปิดตัวได้เพียงสองปี เส้นทางของดวงดาวที่กำลังเฉิดฉายแวววับ ซูไต้หว่านกลับออกจากวงการเพลงป็อปอย่างกะทันหัน และหายไปจากสายตาของสาธารณะชนนับตั้งแต่บัดนั้น
ยกเว้นคนที่รู้เรื่องนี้มีจำนวนน้อยมาก ก็ไม่มีใครรู้ว่าทำไม ซูไต้หว่านถึงล้มเลิกอาชีพของตัวเอง มีข่าวลือมากมายในตอนนั้น บางคนก็บอกว่าซูไต้หว่านแต่งงานกับมหาเศรษฐี บางคนก็บอกว่าเธอเป็นโรคที่รักษาไม่หาย และก็มีบางคนบอกว่าเธอหนีทางโลกบวชชีไปแล้ว
แต่ไม่ว่าข่าวลือจากโลกภายนอกจะเป็นอย่างไร ซูไต้หว่านก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ จนเวลาผ่านไปห้าหกปีกระทั่งตอนนี้ก็ยังมีคนจำเธอได้ และเกรงว่าจะมีเพียงแฟนคลับตัวยงจำนวนน้อยเท่านั้น
ในบล็อกล่างฉาว ก็ยังมีกลุ่มแฟนคลับวีไอพีของซูไต้หว่านอยู่ มีผู้ติดตามนับหมื่นคน
ลู่เฉินไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่า ซูไต้หว่านจะเป็นพี่สะใภ้สามของหลี่มู่ไป๋!
สาเหตุที่ลู่เฉินรู้จักซูไต้หว่านดีขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะแฟนคนรักครั้งแรกของของเขาซึ่งเป็นแฟนคลับตัวยงของซูไต้หว่าน นอกจากนี้ภายในห้องของเธอยังแขวนโปสเตอร์โปรโมทของซูไต้หว่านอีกด้วย และในลิ้นชักก็เต็มไปด้วยแผ่นเสียงเวอร์ชั่นต่างๆ ของอัลบั้ม ‘เสี่ยวเสวี่ยชูฉิง’
ลู่เฉินยังคงจำได้ ถึงภาพตอนที่แฟนคนรักครั้งแรกซบอยู่ในอ้อมอกของเขา ร้องเพลง ‘เลิฟสโนว์’ ข้างหูของเขาเบาๆ ความรู้สึกเจ็บปวดผุดขึ้นมาในหัวใจอย่างช่วยไม่ได้ และรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ
เพลง ‘เลิฟสโนว์’ เป็นเพลงหลักของอัลบั้ม ‘เสี่ยวเสวี่ยชูฉิง’ เป็นเพลงรักที่น่าประทับใจที่สุดในอัลบั้มชุดนี้
เสียงกู่ฉินดังอ้อยอิ่งลอยวนขึ้นไป เพลงจบคนแยกย้าย แต่เพื่อนเก่ายังคงอยู่ เวลาผ่านไปไม่อาจย้อนกลับ!
“มู่ไป๋ คนนี้คือเพื่อนของเธอเหรอ”
เสียงที่อ่อนโยนของคนคนหนึ่ง ปลุกลู่เฉินให้ได้สติกลับมา
ลู่เฉินจึงหันไปมอง สายตาของเขาสบตากับพี่ชายของหลี่มู่ไป๋พอดี
พี่ชายของหลี่มู่ไป๋น่าจะมีอายุสามสิบปี โครงหน้าคมเข้มชัดเจน ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มให้ความรู้สึกของบุคคลที่มีความรู้ลุ่มลึกและบุคลิกงามสง่าอย่างบอกไม่ถูก เสื้อคลุมยาวชิ้นเดียวสีขาวสไตล์จีนโบราณบนตัวของเขามีความเข้ากันเป็นอย่างมาก ราวกับบุคคลที่อยู่ในหนังสือ
สายตาสงบนิ่งของเขา มีความสงสัยเล็กน้อย ทำให้คนเกิดความรู้สึกที่ดี
สุภาพบุรุษเหมือนดั่งหยก!
ในหัวของลู่เฉินเกิดคำบรรยายที่เหมาะสมกับอีกฝ่ายขึ้นมาทันที
บุคคลแบบนี้ เหมาะสมกับซูไต้หว่านมากจริงๆ!
แต่…
ลู่เฉินอดมองหลี่มู่ไป๋อีกครั้งไม่ได้ และอยากจะถามเขามากว่า…คนนี้เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเขาจริงๆ ใช่ไหม
หลี่มู่ไป๋ยื่นมือโอบไหล่ของลู่เฉิน แล้วเอ่ยว่า “ใช่ครับ เขาคือลู่เฉิน เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมครับ!”
เพื่อนที่ดีที่สุดเหรอ
ลู่เฉินฟังแล้วอดตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้ แต่สีหน้าของเขายังคงนิ่งเหมือนเดิม โน้มตัวเล็กน้อยและกล่าวว่า “สวัสดีพี่หลี่ครับ มาเยี่ยมยามดึก หากล่วงเกินตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะครับ”
พี่ชายของหลี่มู่ไป๋ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “นายเป็นเพื่อนของมู่ไป๋ อย่างนั้นก็เป็นแขกของบ้านนี้ ไม่ต้องพิธีรีตรองอะไรมาก ฉันหลี่มู่หรงพี่ชายของหลี่มู่ไป๋ พวกนายมานั่งด้วยกันสิ”
หลี่มู่ไป๋ดึงลู่เฉิน ทั้งสองคนเดินไปนั่งข้างๆ โต๊ะน้ำชา
เวลานี้ซูไต้หว่านก็เดินเข้ามา ยกกาน้ำชาแล้วชงน้ำชาให้หลี่มู่ไป๋ก่อน การเคลื่อนไหวของเธอเป็นธรรมชาติประดุจเมฆที่ล่องลอยและสายน้ำที่ไหลริน มีความสง่างามและชำนาญเกิดความสุขทั้งในด้านสายตาและด้านจิตใจ
หลี่มู่ไป๋ยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดม แล้วทำสีหน้าโอเวอร์ “พี่สะใภ้สาม ชาที่พี่ชงหอมมาก แต่พี่ทำกับข้าวอร่อยยิ่งกว่า ผมอยากอยู่ที่บ้านของพี่ทุกวันเลย น่าเสียดายที่พี่ชายไม่ยอม!”
ซูไต้หว่านเม้มปากหัวเราะและเอ่ยว่า “พูดน่าฟัง ถ้านายอยากจะอยู่ พี่ชายของนายจะไม่ให้นายอยู่เหรอ”
หลี่มู่ไป๋หัวเราะคิกคัก แล้วพูดว่า “เขาเหรอ ผมอยู่แค่ครึ่งวันก็ถูกเขาไล่ออกไปแล้ว!”
เขาจึงถามหลี่มู่หรงอีกที “พี่ใหญ่คิดว่าใช่หรือไม่ใช่ครับ”
หลี่มู่หรงส่ายหน้าหมดคำพูด เห็นได้ชัดว่าเขาจนปัญญากับนิสัยหน้าด้านของน้องชายตัวเอง
ซูไต้หว่านก็ชงน้ำชาให้ลู่เฉินอีกหนึ่งถ้วย
ลู่เฉินรีบพูดว่า “ขอบคุณ ซู…คุณซู”
ซูไต้หว่านยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ไม่ต้องเกรงใจ นายเรียกฉันว่าพี่สะใภ้สามเหมือนมู่ไป๋ก็ได้แล้ว”
รอยยิ้มของเธออ่อนโยนน่าสนิทนสม ทำให้ความตึงเครียดในใจของลู่เฉินผ่อนคลายลง แล้วเอ่ยว่า “พี่สะใภ้สาม แฟนเก่าของผมชอบคุณมากครับ หลังจากคุณออกจากวงการแล้วเธอก็เสียใจอยู่นาน”
เมื่อเห็นซูไต้หว่าน ลู่เฉินจึงนึกถึงเรื่องในอดีต แล้วอดพูดขึ้นมาไม่ได้
ซูไต้หว่านวางกาน้ำชาแล้วเดินไปข้างๆ หลี่มู่หรง พลางยิ้มพูดว่า “ถ้าหากนายเจอเธออีก ก็ขอโทษแทนฉันด้วย”
ลู่เฉินยิ้มเจื่อน
ซูไต้หว่านหมุนตัวมองสามีของตัวเอง แล้วพูดว่า “ความจริงนายต้องโทษเขาถึงจะถูก เป็นความผิดของเขาล้วนๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar