ตอนที่ 159 มาไทเปดูฝนตกในฤดูหนาว
แต่ก่อนลู่เฉินเคยเรียนเปียโน แต่ไม่ได้เรียนลึกมาก มากสุดก็เป็นแค่มือสมัครเล่นระดับสี่ระดับห้า
ตอนหลังเขามาฝึกกีตาร์ จึงทิ้งเปียโนไปโดยปริยาย จนกระทั่งช่วงนี้เขากลับมาเล่นใหม่อีกครั้ง
การเล่นเปียโนเป็นสิ่งที่เพิ่มระดับของตัวเองอย่างหนึ่ง และยังเป็นดนตรีประกอบที่ดีอีกด้วย โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงรักโรแมนติก ประสิทธิผลจากเสียงบรรเลงของเปียโนใช่ว่าดนตรีชนิดอื่นจะเทียบได้ เพราะฉะนั้นลู่เฉินจึงยอมลำบากและฝึกฝนอีกครั้ง
ไม่ต้องถึงระดับมืออาชีพ แค่สามารถหลอกคนที่ไม่มีประสบการณ์ได้ก็พอ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าหากคุณละทิ้งผลประโยชน์ แล้วฝึกเล่นเปียโนจริงๆ จะเป็นเรื่องที่มีความสุขมากอย่างหนึ่ง การได้ฟังเสียงเพลงที่แสนวิเศษเพียงปลายนิ้วสัมผัส สามารถพัฒนาจิตวิญญาณให้สูงขึ้นได้
ลู่เฉินก็ไม่เคยเล่นเปียโนราคาแพงและมียี่ห้อแบบนี้มาก่อน
เสียงของเปียโนสไตน์เวย์แอนด์ซันตัวนี้ดีมากๆ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักฟังมืออาชีพ แต่ก็ยังฟังออกถึงความแตกต่างมากระหว่างเปียโนธรรมดาได้ เสียงต่ำทุ้มหนาไร้ที่เปรียบเทียบ เสียงกลางนุ่มนวลและกว้าง เสียงสูงสดใสดังกังวาน
โดยเฉพาะเสียงกลางนั้นโดดเด่นที่สุด มีพลังในการดึงดูดและแสดงออก ไม่เสียแรงที่เป็นราชาเปียโนที่มีชื่อเสียง!
ได้เล่นเปียโนสไตน์เวย์แอนด์ซัน ลู่เฉินรู้สึกถึงแรงกดดันมาก
เขากลัวว่าฝีมือที่แย่ของตัวเอง จะแปดเปื้อนเครื่องดนตรีศักดิ์สิทธิ์ราคาสองสามล้านตัวนี้ให้มีมลทิน
แต่เขายังคงมีความมั่นใจ ตอนที่นิ้วมือกดลงบนลิ่มคีย์บอร์ด จิตใจของเขาก็กลับคืนสู่ความสงบในไม่ช้า
จากนั้นเสียงบรรเลงโหมโรงก็ดังขึ้น
ผ่อนคลายสบาย นุ่มนวล ไม่มีโครงสร้างที่ซับซ้อน เสียงเปียโนที่ไพเราะเสนาะหูดังสะท้อนไปมาอยู่ในห้องเปียโน
ชื่อของเพลงนี้ เรียกว่า ‘มาไทเปดูฝนตกในฤดูหนาว’
“มาไทเปดูฝนตกในฤดูหนาว
อย่าร้องไห้ในที่ต่างถิ่น
มาไทเปดูฝนตกในฤดูหนาว
ความฝันคือสัมภาระเพียงหนึ่งเดียว
กลับมาเงียบๆ ไม่รื้อฟื้นเรื่องเก่าในอดีต
ถือเสียว่าฉันไม่เคยจากไปไหน~
ถ้าหากได้พบเจอก็เก็บคำพูดไว้ในสุดลึกของหัวใจ
ไม่มีใครเข้าใจคุณมากกว่าฉัน!
ฟ้าก็ยังเป็นฟ้า
ฝนก็ยังเป็นฝน
ร่มของฉันไม่มีคุณอีกต่อไปแล้ว
แต่ฉันก็ยังเป็นฉัน
คุณก็ยังเป็นคุณ
เพียงแค่มีฤดูหนาวเพิ่มเข้ามา!
…”
ตอนที่ลู่เฉินเริ่มร้องเพลงและเล่นดนตรี ซูไต้หว่านซบไปที่ตัวของหลี่มู่หรง มองเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ทว่าตอนที่เธอได้ยินเนื้อเพลงประโยคแรก ร่างเล็กอรชรก็อดสั่นสะท้านไม่ได้
นัยน์ตาของเธอเผยแววตาที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก
เพลง ‘มาไทเปดูฝนตกในฤดูหนาว’ เป็นเพลงรักที่นึกถึงการสูญเสียความรักไป ความหมายที่แสดงออกมาจากเนื้อเพลงถึงแม้จะมีความรู้สึกหดหู่ เผยความเศร้าระทมทุกข์ที่อยู่ในใจของนักร้อง แต่ก็ยังสามารถเผชิญหน้ากับความจริงในแง่ดีได้มากพอ
เพลงนี้เป็นเพลงรักที่ราบเรียบ มีเสน่ห์สวยงามบางอย่าง เหมาะสมกับเสียงร้องของผู้หญิงเป็นอย่างมาก
ลู่เฉินร้องเพลงนี้ ลดความเศร้าสร้อยของเพลงให้อ่อนลง เพิ่มความรู้สึกของการมีวุฒิภาวะและความลุ่มลึก ใช้น้ำเสียงที่ชัดเจนรื่นหูแฝงความขมขื่นเล็กน้อย แสดงความรู้สึกอ้างว้างในใจ ฉะนั้นเขาจึงเพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์แตกต่างออกไป
เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ขยายเสียง เขาจึงจงใจลดเสียงเปียโนลงมา ลดพลังดึงดูดของผลงานไปไม่น้อย
แต่ก็ยังคงสะกิดน้ำตาของซูไต้หว่านได้อยู่ดี
ซูไต้หว่านเกิดและเติบโตที่ไทเป ฐานะครอบครัวของเธอไม่ดี เรียนไม่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นก็ออกมาทำงานแล้ว หลังจากนั้นเธอก็ถูกแมวมองค้นพบถึงได้เข้าวงการ เธออาศัยรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นและเสียงเพลงอันไพเราะดั่งสรวงสรรค์ กลายเป็นดวงดาวจรัสแสงไร้ที่สิ้นสุด
แต่มีเพียงตัวเธอเท่านั้นที่รู้ดีถึงความยากลำบากในวันเวลาเหล่านั้น ความผิวเผินจากภาพที่สวยงามหาที่เปรียบมิได้แฝงไปด้วยกลิ่นอันตราย พ่อบ้าการพนัน ผู้จัดการเจตนามิดีมิร้ายยากจะรู้ได้ บริษัทเซ็นสัญญาที่โหดเหี้ยมไร้ความปราณี คู่ต่อสู้อิจฉาตาร้อน…ดูเหมือนมีภูเขาลูกใหญ่กดทับตัวของเธอไว้ จนทำให้เธอหายใจไม่ออก
นึกย้อนถึงช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้ว ซูไต้หว่านรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจริงๆ ตอนที่เธอลำบากที่สุด ได้พบกับหลี่มู่หรง ฉะนั้นเธอจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับเขา
เธอกับเขา พบเจอกันในวันที่ฝนตก
หลี่มู่หรงพาเธอกับน้องสาวกลับมาตั้งรกรากที่ประเทศจีน และหลังจากที่เธอออกจากวงการแล้วก็ไม่ได้กลับไปที่ไทเปอีกเลย
มีเพียงในความฝันเท่านั้น ซูไต้หว่านถึงจะฝันเห็นฝนตกที่ไทเป ฝันเห็นคนที่เคยรู้จักพวกนั้น
อาลัยอาวรณ์บ้านเกิดเมืองนอน
หลี่มู่หรงก็ไม่ใช่รักครั้งแรกของเธอ
“…
มาไทเปดูฝนตกในฤดูหนาว
อย่าร้องไห้ในที่ต่างถิ่น
มาไทเปดูฝนตกในฤดูหนาว
บางทีอาจจะได้พบคุณ
ถนนเงียบสงบแต่เรื่องในใจกลับแออัดคับคั่ง
ทุกมุมล้วนมีความทรงจำ
ถ้าหากได้พบก็ไม่จำเป็นต้องหลบหนี
ฉันจะเดินเฉียดไหล่ในที่สุด
ฟ้าก็ยังเป็นฟ้านะ
ฝนก็ยังเป็นฝน
เมืองแห่งนี้ฉันไม่คุ้นเคยอีกต่อไป!
แต่ฉันก็ยังเป็นฉัน
คุณก็ยังเป็นคุณ
เพียงแค่มีฤดูหนาวเพิ่มเข้ามา!”
เผลอแป๊บเดียว น้ำตาเป็นประกายก็ไหลลงมาจากหางตาของซูไต้หว่าน เธอซบไปที่อ้อมอกของหลี่มู่หรงอย่างไร้เรี่ยวแรง
หลี่มู่หรงโอบกอดภรรยา จ้องมองลู่เฉินด้วยสายที่ไม่เป็นมิตร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar