ตอนที่ 166 ขึ้นตำแหน่งได้สำเร็จ
วงการเพลงป็อปของเดือนกันยายน เดิมทีจะเงียบมาก ไม่มีศิลปินดาราดังคนไหนเลือกออกอัลบั้มใหม่หรือซิงเกิ้ลใหม่ในเดือนนี้ เพราะฉะนั้นเว็บไซต์ใหญ่ทั้งสี่แห่งจึงกลายเป็นเวทีการแข่งขันของไอดอลนักร้องรุ่นใหม่
เฟยซวิ่นมิวสิค อี้หว่างมิวสิค ป็อปเรดิโอและวอยซ์ออฟไชน่า มีศิลปินนักร้องออกอัลบั้มแรกไปแล้วในต้นเดือนนี้แต่หนึ่งในนั้นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คือการดวลกันระหว่างนักร้องเดบิวต์ทั้งสี่คนในเว็บไซต์เฟยซวิ่นมิวสิค!
ชุยเจิ้งจื้อ ลู่เฉิน โจวเป้ยและหลิวเสี่ยวเซียว ล้วนเป็นบุคคลหน้าตาดีและโดดเด่นของศิลปินรุ่นใหม่ของวงการในประเทศจีน
ทุกคนต่างคิดว่าชุยเจิ้งจื้อที่เพียบพร้อมไปด้วยจังหวะเวลาและโอกาส จะกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายอย่างแน่นอน
ชุยเจิ้งจื้อก็คิดว่าแบบนั้น ดังนั้นตอนที่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมีเดีย จึงไม่สนใจลู่เฉินเลยสักนิด
แต่ความเป็นจริง กลับตบหน้าเขาอย่างแรง!
วันที่ 9 เดือนกันยายนเวลาหนึ่งทุ่ม ระยะห่างยี่สิบชั่วโมงจากการเปิดตัวอัลบั้มแรกของชุยเจิ้งจื้อกับลู่เฉินยอดขายของอัลบั้ม ‘Pantera’ คือ 67,520 ชุด ยอดขายอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ คือ 65,117 ชุดระยะห่างของทั้งสองคนถูกย่อให้เล็กลงเหลือหนึ่งพันกว่าชุด
แต่ความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นชุยเจิ้งจื้อหรือบริษัทเฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเม้นท์ที่เขาเซ็นสัญญาล้วนรู้ดี ว่ายอดขายที่แท้จริงของอัลบั้ม ‘Pantera’ ต้องหักลบไปอีก 15,000 ชุด ถ้าหากลู่เฉินไม่ได้ซื้อชาร์ต อย่างนั้นก็หมายความว่ายอดขายของเขาทิ้งท้ายไปอยู่ข้างหลัง 13,000 กว่าชุด!
เวลาหนึ่งวันเต็มๆ ชุยเจิ้งจื้อไม่ได้อัพเดทบล็อกของตัวเอง และก็ไม่ให้ชุยซิ่วอินเขียนแทนด้วย
เขากระทั่งเลื่อนการออกรายกายโชว์ออกไป นั่งเฝ้าอยู่หน้าคอมพิวเตอร์จับตามองสถิติการจำหน่ายของเว็บไซต์เฟยซวิ่นมิวสิค
ราวกับปีศาจเข้าสิง!
ชุยซิ่วอินก็ไม่กล้าโน้มน้าวอะไรมาก จึงได้แต่ใช้เหตุผลว่าชุยเจิ้งจื้อป่วยกะทันหันไปอธิบายและขอโทษกับทางบริษัท
ถึงอย่างไรการเลื่อนตารางการออกรายการโชว์ที่จัดไว้แล้วอย่างกะทันหัน เป็นเรื่องที่แย่มากสำหรับศิลปินหน้าใหม่ แม้ว่าชุยเจิ้งจื้อจะได้รับความนิยมจากบริษัทเฉิงเถียนเอนเตอร์เทนเม้นท์เพราะพ่อแม่ของเขา แต่ก็ยังถูกซักถามจากผู้บริหารอยู่ดี
สถานะของชุยเจิ้งจื้อเหมือนกับคนป่วยจริงๆ ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ ว่าตัวเองจะแพ้ให้ลู่เฉิน
ถึงแม้ในใจจะพยายามพูดว่าลู่เฉินก็ซื้อชาร์ตเหมือนกัน แต่ความรู้สึกโดยตรงได้บอกไอดอลคนใหม่ที่มีนิสัยหยิ่งผยองคนนี้ว่า ผลงานของลู่เฉินน่าจะเป็นของจริง
แต่จะเป็นไปได้อย่างไร
ผลงานที่อยู่ในอัลบั้มของลู่เฉินมีเวอร์ชั่นร้องสดมาก่อนหน้านั้น และสามารถค้นหาในอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลาเขาไม่มีเงินทุนในการลงโฆษณา และเพิ่งจะสร้างกระแสชั่วคราว ดังนั้นเขาจะทำผลงานที่โดดเด่นนี้ได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้!
ชุยเจิ้งจื้อคิดไม่ตก ทุบคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะด้วยความเคียดแค้น
ถ้าหากไม่ใช่เพราะบริษัทแอบช่วยซื้อชาร์ตให้เขา อย่างนั้นตอนนี้เขาคงต้องแบกรับความอัปยศอดสูที่ถูกเหยียบอยู่ใต้เท้าของลู่เฉิน!
ลู่เฉินเองก็คิดไม่ตกเหมือนกัน
เขานั่งเฝ้าอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ มองตัวเลขที่ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ บนชาร์ตยอดขายของเว็บไซต์เฟยซวิ่นมิวสิค กับหลี่มู่ไป๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทานข้าวกล่องอาหารจานด่วนอยู่ งงกับพี่จริงๆ เลย โอ้วผิดแล้ว คิดร้อยตลบก็ไม่เข้าใจ!
เป้าหมายที่ลู่เฉินตั้งไว้นานแล้วสำหรับการขายอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ อยู่ที่หนึ่งแสนชุดขึ้นไปต่อมาหลังจากนั้นก็ยอมรับคำท้าของชุยเจิ้งจื้อและเพิ่มต้นทุนการโฆษณาสร้างกระแสเข้าไปอีก และคาดหวังว่าจะเพิ่มได้เป็นหนึ่งแสนห้าหมื่นชุดขึ้นไป เพื่อรับประกันว่าตัวเองสามารถทำกำไรได้อีกก้อนหนึ่ง
แต่กลับคาดไม่ถึงว่า ยอดขายในวันแรกก็ถึงหกหมื่นชุดขึ้นไปแล้ว ถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์ลดต่ำลงอย่างฮวบฮาบ เช่นนั้นยอดขายทั้งหมดคงสามารถทะลุได้ถึงสามแสนชุดขึ้นไปเป็นอย่างน้อย จนถึงมาตรฐานระดับขายดิบขายดี
ลู่เฉินรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ นิดหน่อย รู้สึกเหมือนบุญหล่นทับอย่างไรก็ไม่รู้
สายตาของเขาจับจ้องไปที่ตัวของหลี่มู่ไป๋อย่างช่วยไม่ได้ เผยสีหน้าสงสัยออกมา
หลี่มู่ไป๋กลืนข้าวที่อยู่ในปาก แล้วเอ่ยว่า “พี่อย่ามองผม ตอนนี้ผมจนจะตายอยู่แล้ว สองวันมานี้ช่วยพี่ทำโฆษณาในเฟยซวิ่นมิวสิค ไม่มีเงินซื้อชาร์ตให้พี่หรอก แต่ก่อนผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเรียกว่าการซื้อชาร์ต!”
“ถ้ามีเงินก้อนนี้ผมหาของกินดีๆ ไปนานแล้ว จะมากินไอ้นี่เหรอ แต่…”
คุณชายสามตระกูลหลี่ผู้น่าสงสาร ตอนนี้ตกอับถึงขั้นกินข้าวกล่องแล้ว
แค่หนึ่งประโยคของหลี่มู่หรง ก็สามารถตัดเงินค่าขนมเดือนนี้ของเขาได้ทันที และคนมีเงินอย่างเขา เดิมทีมีเท่าไรก็ใช้เท่านั้นไม่เคยเก็บเงินเลย ดังนั้นจึงรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา
รถสปอร์ตปอร์เช่พานาเมร่าก็ให้หลี่มู่ซือไปแล้ว ลดราคาขูดเลือดขูดเนื้อสี่สิบเปอร์เซ็นต์ และคนหลังก็ยังค้างจ่ายไม่ยอมให้เงินเขาสักที
ดังนั้นตอนนี้หลี่มู่ไป๋จึงได้แต่รอให้เว็บไซต์ระดมทุนรีบดำเนินการได้เร็วๆ
แต่ก่อนเขาเคยกินข้าวกล่องหนึ่งราคาสิบห้าหยวนเสียที่ไหน ตอนนี้กลับทานอย่างเอร็ดอร่อยมาก “ซี่โครงหมูก็ไม่เลวนะ”
ลู่เฉินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ แต่หลี่มู่ไป๋ไม่ได้ช่วยเขาซื้อชาร์ตแน่นอน
ดังนั้นผลงานของยอดขายนี้ก็เป็นของจริง!
แต่ว่าทำไมล่ะ
ถึงแม้จำนวนแฟนคลับในห้องถ่ายทอดสดและบล็อกของเขาจะมีถึงหลักล้านหรือสองสามล้าน แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นแฟนคลับขาจร แฟนคลับตัวยงนั้นมีไม่มาก แม้ว่าจะขายอัลบั้มหนึ่งชุดในราคาแปดหยวนก็ตาม ก็มีคนซื้อไม่เยอะ
เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เขาแค่คนเดียว รวมทั้งศิลปินหน้าใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างชุยเจิ้งจื้อก็เช่นกัน เดี๋ยวนี้แฟนคลับฉลาดมาก แถมยังเบื่อง่ายหน่ายเร็ว มักจะไม่ติดตามศิลปินไอดอลแค่คนเดียวเท่านั้น
ความมั่นคงของความนิยมกับแฟนคลับตัวจริง ต้องอาศัยการสะสมและฟูมฟักเป็นเวลานาน การเริ่มต้นของลู่เฉินมีความรวดเร็วเกินไป รากฐานจึงไม่มั่นคงเท่าไรนัก บวกกับเขามีความถ่อมตัวมากกว่าศิลปินคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นโลกภายนอกหรือตัวเขาเอง ก็ไม่ได้คาดหวังกับยอดขายอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ มากนัก
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเกินความคาดหมาย!
ลู่เฉินส่ายหน้า แล้วพูดกับหลี่มู่ไป๋ว่า “รอดูสถานการณ์อีกที ถ้าหากยอดขายของเว็บไซต์เฟยซวิ่นมิวสิคมีขนาดลดลง งั้นพวกเราก็เปิดตัวเว็บไซต์ระดมทุนอนย่างเป็นทางการ เพื่อระดมทุนในการทำอัลบั้มแผ่นเสียงและชุดเซ็ตของที่ระลึก”
ตามแผนการแล้ว เว็บไซต์ระดมทุนได้ดำเนินการตั้งแต่เมื่อวาน เพราะเว็บไซต์ก็สร้างเสร็จนานแล้ว ตอนนี้มีอยู่โปรเจคเดียวเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar