(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 181

ตอนที่ 181 ขอบคุณและขอโทษ

ระดมทุนมู่เฉิน ชื่อนี้เป็นชื่อที่หลี่มู่ซือเคาะโต๊ะตกลงเลือก

คำว่า ‘มู่’ เป็นตัวแทนของหลี่มู่ซือ คำว่า ‘เฉิน’แน่นอนว่าคือลู่เฉิน ลู่เฉินเป็นประธานบริษัทระดมทุนมู่เฉินออนไลน์ จำกัด พร้อมทั้งเป็นตัวแทนทางกฎหมาย ส่วนหลี่มู่ซือเป็นซีอีโอและ ซีเอฟโอ

แม้ลู่เฉินจะถือหุ้นในบริษัท 51% แต่ตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย หุ้นของเขาจะต้องถูกปรับลดไปในไม่ช้าก็เร็ว บริษัทจะมีการชักนำให้เกิดการลงทุนและใช้หุ้นเป็นแรงกระตุ้น ไม่ตัดความเป็นไปได้ในการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต

ลู่เฉินไม่ตั้งใจจะพัฒนาธุรกิจด้านไอที สายตาของเขาจับจ้องอยู่แต่แสงไฟบนเวทีเท่านั้น

แต่เมื่อระดมทุนออนไลน์ประสบความสำเร็จ เขาก็สำเร็จด้วยเหมือนกัน!

โครงการระดมทุนออนไลน์โครงการแรกบนเว็บไซต์คืออัลบั้มของลู่เฉิน เกี่ยวข้องโดยตรงกับผลประโยชน์ส่วนตัวของลู่เฉิน เว็บไซต์ระดมทุนออนไลน์ยิ่งประสบความสำเร็จสูงเท่าไหร่ มูลค่าหุ้นในมือของเขาก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น!

ด้วยเหตุนี้เพราะหลี่มู่ซือที่เป็นคนก่อตั้งการระดมทุนออนไลน์ขึ้นมากับมือ ลู่เฉินจึงรู้สึกขอบคุณและเคารพเธอมาก

ถ้าไม่ได้คุณหนูหลี่ผู้ซึ่งกลับมาจากต่างประเทศคนนี้ การระดมทุนออนไลน์จะไม่มีทางเข้าสู่ตลาดได้อย่างราบรื่น อนาคตข้างหน้าไม่แน่นอน และเขายังต้องถูกชักจูงให้ใช้ทั้งเวลาและกำลังไปอีกมากมาย

ตอนนี้บอกได้เลยว่าที่สำเร็จได้ทั้งที่เขานั่งอยู่เฉยๆ!

เพิ่งผ่านไปสองชั่วโมง ลู่เฉินนึกย้อนไปยังรู้สึกตื้นตัน

บล็อกล่างฉาวประกาศข้อความตอนสองทุ่มตรง การระดมทุนออนไลน์เริ่มต้นขึ้นเพียงแค่ 190 นาที ยอดเงินระดมทุนออนไลน์เริ่มต้นเพิ่มจาก 0 ไต่ขึ้นไปจนถึงตอนนี้กว่าห้าแสนแล้ว ระหว่างกระบวนการมีเรื่องน่าตื่นเต้นตกใจเล็กน้อย

จนถึงเวลา 22.30น. จำนวนผู้ลงทะเบียนในเว็บไซต์สูงถึง 26,820 คน วิธีสนับสนุนแบบที่1 3 และ4 เต็มจำนวนแล้ว เซ็ตของที่ระลึกสองพันชุดขายหมดเกลี้ยง ยอดขายแผ่นเสียงมีถึง 13,000+!

เป้าหมายการระดมทุนออนไลน์อยู่ที่ห้าแสน เพียงพอจะรับรองว่าลู่เฉินสามารถออกแผ่นเสียงอัลบั้มได้จริงและมีกำไรเล็กน้อย

เดิมทีเขาไม่มีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม แต่ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือเงินห้าแสนนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น ภายหลังยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมาก แสดงว่าได้กำไรล้นเหลือ!

ลู่เฉินเพิ่งรู้ว่า เขาประเมินอิทธิพลของตัวเองต่ำไป และประเมินพลังอันซ่อนเร้นของเหล่าแฟนคลับน้อยเกินไป!

ลู่เฉินมียอดจำนวนแฟนคลับที่แท้จริงกลุ่มใหญ่หรือเรียกอีกอย่างว่าอู่ข้าวอู่น้ำโดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่เขาค้นพบนี้ทำให้เขาดีใจยิ่งกว่าการที่ระดมทุนออนไลน์ประสบผลสำเร็จเสียอีก

ลู่เฉินกำลังใช้ความคิด หลี่มู่ซือก็กำลังมองเขา

หลี่มู่ซือไม่ได้เชื่อมั่นในตัวลู่เฉินตั้งแต่แรก เธอสงสัยในโครงสร้างธุรกิจที่ลู่เฉินนำมาเสนอ

เธอสงสัยว่ามีจุดประสงค์บางอย่างในการใกล้ชิดกับหลี่มู่ไป๋

รอบข้างตระกูลหลี่ ไม่เคยขาดคนที่มีแนวโน้มจะเข้ามาสูบเลือดสูบเนื้อ!

แต่เมื่อกลับมาถึงปักกิ่ง ระหว่างกระบวนการก่อตั้งมู่เฉินระดมทุนออนไลน์ หลี่มู่ซือค่อยๆ ลดอคติในใจลง

นักเรียนดีเด่นที่จบการศึกษาจากโรงเรียนธุรกิจวอร์ตันคนนี้ยังอดยอมรับไม่ได้ว่า ลู่เฉินมีแนวคิดที่เป็นพรสวรรค์ และมิตรภาพระหว่างเขากับหลี่มู่ซือก็แน่นแฟ้นขึ้น ทั้งสองเคยเกือบทะเลาะกันด้วยเรื่องหุ้นส่วน

ตอนแรกลู่เฉินคิดจะยกสิทธิ์ในการควบคุมหุ้นทั้งหมดให้หลี่มู่ไป๋ แต่หลี่มู่ไป๋ปฏิเสธเด็ดขาด

ทำให้หลี่มู่ซือยิ่งรู้สึกดีกับลู่เฉินมากกว่าเก่า เธอถึงกับมองเห็นข้อดีมากมายในตัวเขา

รูปลักษณ์ภายนอกของลู่เฉินไม่ต้องพูดถึง ทั้งสูงใหญ่หล่อเหลาคมคาย มองดูแล้วเป็นสปอร์ตแมน ไม่เหมือนกับพวกผู้ชายเจ้าสำอางค์เลยสักนิด มีภาพลักษณ์ของผู้ชายห้าวหาญ

เขามีความสามารถในด้านดนตรีเป็นที่ประจักษ์ ไม่เพียงแต่เป็นผู้ชนะเลิศในรายการขับร้องให้ก้องจีน แล้วยังออกผลงานอัลบั้มของตัวเอง มีที่ยืนอันมั่นคงอยู่ในวงการบันเทิง

หลี่มู่ซือไม่เคยเห็นเหล่าศิลปินดาราในวงการบันเทิงอยู่ในสายตา แต่ลู่เฉินทำให้เธอรู้สึกถึงความมีวุฒิภาวะ เชื่อถือได้ นิสัยขยันซื่อตรง ไม่มีนิสัยก้าวร้าวเอาแต่ใจเหมือนวัยรุ่นทั่วไป มีเสน่ห์ที่แตกต่างไปอีกแบบ

ถ้าหลี่มู่ซือไม่ใช่…เอ่อ ไม่แน่ว่าเธออาจจะชอบลู่เฉินจริงๆ ก็ได้

สายตาของคุณหนูหลี่หันไปจับจ้องที่ใบหน้าของลู่ซี

ฝ่ายหลังยืนอยู่ข้างลู่เฉิน กำลังตั้งใจใช้มือถืออ่านข้อมูลในบล็อก

ประกายตาของหลี่มู่ซือฉายแววยิ้มบางเบา

ลู่ซีไม่สังเกตเห็นสายตาของหลี่มู่ซือ เธอตั้งใจดูความเปลี่ยนแปลงในออนไลน์

“ลู่เฉิน แฟนคลับหลายคนอยากซื้อของที่ระลึกแต่ซื้อไม่ได้ อยากให้พวกเราเพิ่มยอดสนับสนุนให้มากขึ้น!”

ดวงหน้าของพี่สาวฉายแววตื่นเต้น “พวกเราจะเพิ่มเข้าไปดีไหม?”

ลู่เฉินเริ่มหวั่นไหว หันไปถามหลี่มู่ซือ “ประธานหลี่?”

ตอนนี้ไม่ใช่ยุคปี 80-90 การขายแผ่นเสียงซีดี อย่างเดียว คงต้องขาดทุนเป็นพื้นฐาน

แผ่นเสียงของแท้หนึ่งแผ่นราคาแค่ 15 หยวน คิดแค่ค่าจัดทำและค่าจัดส่ง ต้องใช้ทุนประกันอย่างน้อยสองแสน ถ้าเพิ่มค่าโฆษณาเข้าไปอีก สามแสนยังไม่พอเลย

วันนี้การขายแผ่นเสียงสักแผ่น จะขายให้ได้ยอดสามแสน เป็นเรื่องที่ยากเย็นมาก!

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว กำไรจากทางอื่นได้มากกว่ามาก เช่นเซ็ต 100 หยวน ต้นทุนอย่างมากแค่ 50 หยวน ขาย1,000 ชุดจะได้เงินห้าหมื่นถือเอาไว้ในมือ เซ็ต188 หยวน ได้กำไรเซ็ตละ100 หยวน!

ด้วยสภาพการณ์ตอนนี้ สองเซ็ตจำนวนเซ็ตละ1,000 ชุดดูจะน้อยเกินไป ต้องเพิ่มเป็น 3,000 ชุด หรือ 5,000 ชุดก็ได้