ตอนที่ 218 หึง
ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของทะเลสาบโฮ่วไห่ มีผู้คนสัญจรไปมาขวักไขว่
ท่ามกลางผู้คนมากมาย ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เดินเคียงคู่กันเลาะเลียบไปตามริมฝั่งน้ำ สัมผัสกับลมเย็นสบายยามค่ำคืน
ทั้งสองผ่านการแปลงโฉมมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเฉินเฟยเอ๋อร์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากภาพลักษณ์ปกติอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาจึงไม่มีใครจำเธอได้
สำหรับดาราศิลปินคนหนึ่ง การที่ได้มาเดินเล่นเหมือนคนธรรมดาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ริมทะเลสาบมีคู่รักหลายคู่ บ้างก็เดินจูงมือกันกระหนุงกระหนิง บ้างก็นั่งอิงแอบกันอยู่บนพื้นหญ้าหรือม้านั่งยาว บรรยากาศราวกับอบอวลไปด้วยความหวานแหวว
เทียบกันแล้ว ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ที่เว้นระยะห่างเกินกว่าครึ่งฟุต ดูไม่เหมือนคู่อื่นๆ
เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่พูดจาราวกับกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่
ลู่เฉินอยากจะชวนคุย แต่ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรดี
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในร้านอาหาร เขาได้สารภาพรักกับราชินีแห่งวงการเพลงคนนี้ไปแล้ว ตอนนี้จึงรู้สึกเก้อเขิน
ขณะนั้นเอง เฉินเฟยเอ๋อร์ก็หยุดเดิน
เธอยืนอยู่หน้าจอโฆษณาจอหนึ่ง
จอโฆษณาแอลอีดีที่มีความกว้างประมาณสองเมตรเช่นนี้พบเห็นได้ทั่วไปตามสวนสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยว และในย่านการค้า ส่วนใหญ่แล้วฉายข้อมูลทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การจราจร พยากรณ์อากาศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโฆษณาเพื่อการค้าและโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์
จอโฆษณาที่ตั้งอยู่ตรงทางเดินริมน้ำเพิ่งเปลี่ยนฉากใหม่ บนหน้าจอสีสันสดใสปรากฏภาพเด็กสาวหน้าตาสะสวยสามคน พวกเธอสวมชุดนักศึกษาสีขาวยืนกอดคออิงแอบกันอยู่ ทุกคนเผยรอยยิ้มอ่อนหวาน
ตรงกลางภาพนี้มีตัวอักษรวิจิตรที่วาดด้วยพู่กันเขียนไว้ว่า….วงเอมเอสเอ็น ‘ยังไม่ใช่คนรัก’!
นี่คือวงเกิร์ลกรุ๊ปภายใต้สังกัดบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด…คือมิวสิควิดีโอตัวแรกของวงเกิร์ลกรุ๊ปเอ็มเอสเอ็น และเป็นโฆษณาของอัลบั้มแรกด้วย เริ่มนำร่องโปรโมตตามสื่อต่างๆ ในปักกิ่งเป็นที่แรกตั้งแต่เมื่อวานนี้ เป็นกิจกรรมอุ่นเครื่องที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่
เสียงเพลงของพวกเธอดังออกมาจากลำโพงที่ซ่อนอยู่ในเสาโฆษณา เสียงลอยเข้ามาใส่หูของทุกคนที่เดินผ่านไปมา!
‘ทำไมถึงต้องคุยกับเธอทั้งคืน ทำไมเพิ่งบอกลาก็อยากเจออีก ในบรรดาเพื่อน เธอเป็นคนพิเศษที่สุด ทำให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยใกล้ชิด’
‘ทำไมเธอต้องสนใจว่าใครเดินข้างฉัน ทำไมเธอต้องแคร์ว่าใครปิ๊งฉัน เธอบอกว่าเธอทำอะไรให้ฉันมากกว่าคนอื่นนิดหน่อย แต่ไม่บอกว่าอะไรบ้างที่มากมาย’
‘มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ถึงขั้นคนรัก ความอ่อนหวาน ความกังวล ความสุขผสมปนเปกัน ต่อไปพวกเรา จะเป็นอย่างไร…’
‘ฉันรอฟังอยู่อยากรู้คำตอบ’
เอฟเฟกต์เสียงของลำโพงที่ติดมากับจอโฆษณานี้ธรรมดามาก เพียงแค่ทำให้เพลงดังออกมาเท่านั้น
แต่ทำนองที่ไพเราะ เสียงร้องอันอ่อนหวานปนความเศร้านิดๆ และความงดงามของภาพ ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาหลายคนรวมทั้งเฉินเฟยเอ๋อร์หยุดยืนอยู่กับที่ เพื่อฟังและดูมิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’
ในภาพนั้น เด็กสาวทั้งสามเรียนหนังสือ วิ่งเล่น ใช้ชีวิต และหยอกล้อกันอยู่ในมหาวิทยาลัย จากนั้นมู่เสี่ยวชูที่เป็นนางเอกก็ไปชนกับลู่เฉินที่เป็นรุ่นพี่ แล้วความรักอันสวยงามบริสุทธิ์ก็เริ่มก่อตัวขึ้น
ฟางฮุ่ยผู้กำกับมิวสิควิดีโอกำกับงานได้อย่างประณีต ฉากที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงสมัยเรียน เธอถ่ายทอดอารมณ์รักระหว่างพระเอกและนางเอกออกมาได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะนางเอกที่โหยหาและไขว่คว้าความรักอันสวยงาม ทำให้ผู้ชมหัวใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว
ลู่เฉินยังดีหน่อย การเป็นพระเอกครั้งนี้ทำให้เขาได้ดูแล้วหลายรอบ
แต่เฉินเฟยเอ๋อร์กลับยืนดูอย่างงงงัน
ไม่รู้ทำไมลู่เฉินที่ยืนอยู่ข้างเธอราวกับรู้สึกได้ถึงความหวั่นไหวในใจเธอ
ลู่เฉินทนไม่ไหวยื่นมือออกไปกุมมือของเธอไว้
มือของเฉินเฟยเอ๋อร์เย็นเล็กน้อย นิ้วมือเรียวยาวขาวนุ่มเนียนละเอียดเหมือนเนื้อหยก
เมื่อลู่เฉินจับมือเธอ มือของเธอสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ได้สะบัดออก
ทั้งสองยืนดูด้วยกันจนจบ
ภาพจบของมิวสิควิดีโอเป็นภาพของลู่เฉินกับมู่เสี่ยวชูมองมาที่กล้องด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้ง
ความน่ารักสดใสของมู่เสี่ยวชู ความหล่อเหลาสง่างามของลู่เฉิน ถูกถ่ายทอดออกมาทางหน้ากล้องทั้งหมด!
เฉินเฟยเอ๋อร์กะพริบตา บอกว่า “ไปเถอะ…”
ทั้งสองเดินไปข้างหน้า แต่มือยังไม่ปล่อยจากกัน
ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆ เฉินเฟยเอ๋อร์ถามขึ้นมาว่า “มิวสิควิดีโอเพลงนี้ทำได้ไม่เลว นายกับเสี่ยวชูติดต่อกันบ่อยไหม”
เธอหันไปมองลู่เฉิน ดวงตาที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตาเป็นประกายดุจดวงดารา!
ลู่เฉินตอบ “น้อยมากครับ เธอเป็นเหมือนน้องสาวของผม”
เฉินเฟยเอ๋อร์กัดปาก “นายรู้ไหม ความจริงแล้วตอนนี้ฉันเพิ่งอายุยี่สิบแปดเอง ตอนนั้นเพื่อเข้าวงการให้เร็วขึ้น ผู้จัดการให้ฉันเปลี่ยนอายุในทะเบียนให้แก่ขึ้นสองปี”
ลู่เฉิน “เอ่อ…”
“เอ่ออะไร”
เฉินเฟยเอ๋อร์เขินอาย “รู้อย่างนี้ไม่บอกนายดีกว่า เรื่องนี้มีไม่กี่คนที่รู้!”
เธอออกแรงเพื่อดึงมือออกจากมือของลู่เฉิน
“พี่เฟย ผมผิดไปแล้ว!”
ลู่เฉินรีบจับให้แน่นขึ้น เขาหยุดเดินแล้วจ้องตาเธอพูดว่า “ความจริงผมคิดว่าอายุไม่สำคัญ ไม่ว่าพี่จะอายุยี่สิบแปดหรือสามสิบ ผมก็ยังชอบพี่อยู่ดี!”
แววตาของลู่เฉินทั้งอ่อนโยนและจริงใจ
เขารู้ว่าเฉินเฟยเอ๋อร์มีปมในใจเรื่องอายุมาโดยตลอด ทั้งสองคนอายุห่างกันเกินไป
แต่เขาเองไม่เคยรู้สึกว่าอายุจะเป็นปัญหา
ลู่เฉินยังรู้อีกว่า เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่เคยหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงอายุของตัวเอง แต่การที่เธอบอกความลับนี้กับเขา นั่นแปลว่าเธอเชื่อใจ แล้วก็…
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคืบหน้าไปอีกขั้น ลู่เฉินไม่อยากปล่อยมือแล้วปล่อยให้ทุกอย่างย้อนกลับไปเหมือนเมื่อก่อนอีก!
เขาชอบเฉินเฟยเอ๋อร์จริงๆ
เฉินเฟยเอ๋อร์เห็นการดิ้นรนของเธอไม่เป็นผล ดวงหน้าเริ่มแดงเรื่อด้วยความเขินอาย
สายตาอันทรงเสน่ห์ทอดมองเขา ก่อนจะเอ่ยว่า “นายพูดได้นี่ ฉันเป็นผู้หญิงแก่แล้ว ตอนนี้บอกว่าชอบ ไม่แน่ต่อไปอาจจะเสียใจภายหลัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar