(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 218

สรุปบท ตอนที่ 218 หึง: (นิยายแปล) Perfect Superstar

ตอนที่ 218 หึง – ตอนที่ต้องอ่านของ (นิยายแปล) Perfect Superstar

ตอนนี้ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายSlice of Lifeทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 218 หึง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 218 หึง

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของทะเลสาบโฮ่วไห่ มีผู้คนสัญจรไปมาขวักไขว่

ท่ามกลางผู้คนมากมาย ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เดินเคียงคู่กันเลาะเลียบไปตามริมฝั่งน้ำ สัมผัสกับลมเย็นสบายยามค่ำคืน

ทั้งสองผ่านการแปลงโฉมมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเฉินเฟยเอ๋อร์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากภาพลักษณ์ปกติอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาจึงไม่มีใครจำเธอได้

สำหรับดาราศิลปินคนหนึ่ง การที่ได้มาเดินเล่นเหมือนคนธรรมดาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ริมทะเลสาบมีคู่รักหลายคู่ บ้างก็เดินจูงมือกันกระหนุงกระหนิง บ้างก็นั่งอิงแอบกันอยู่บนพื้นหญ้าหรือม้านั่งยาว บรรยากาศราวกับอบอวลไปด้วยความหวานแหวว

เทียบกันแล้ว ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ที่เว้นระยะห่างเกินกว่าครึ่งฟุต ดูไม่เหมือนคู่อื่นๆ

เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่พูดจาราวกับกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่

ลู่เฉินอยากจะชวนคุย แต่ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรดี

ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในร้านอาหาร เขาได้สารภาพรักกับราชินีแห่งวงการเพลงคนนี้ไปแล้ว ตอนนี้จึงรู้สึกเก้อเขิน

ขณะนั้นเอง เฉินเฟยเอ๋อร์ก็หยุดเดิน

เธอยืนอยู่หน้าจอโฆษณาจอหนึ่ง

จอโฆษณาแอลอีดีที่มีความกว้างประมาณสองเมตรเช่นนี้พบเห็นได้ทั่วไปตามสวนสาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยว และในย่านการค้า ส่วนใหญ่แล้วฉายข้อมูลทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การจราจร พยากรณ์อากาศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโฆษณาเพื่อการค้าและโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์

จอโฆษณาที่ตั้งอยู่ตรงทางเดินริมน้ำเพิ่งเปลี่ยนฉากใหม่ บนหน้าจอสีสันสดใสปรากฏภาพเด็กสาวหน้าตาสะสวยสามคน พวกเธอสวมชุดนักศึกษาสีขาวยืนกอดคออิงแอบกันอยู่ ทุกคนเผยรอยยิ้มอ่อนหวาน

ตรงกลางภาพนี้มีตัวอักษรวิจิตรที่วาดด้วยพู่กันเขียนไว้ว่า….วงเอมเอสเอ็น ‘ยังไม่ใช่คนรัก’!

นี่คือวงเกิร์ลกรุ๊ปภายใต้สังกัดบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด…คือมิวสิควิดีโอตัวแรกของวงเกิร์ลกรุ๊ปเอ็มเอสเอ็น และเป็นโฆษณาของอัลบั้มแรกด้วย เริ่มนำร่องโปรโมตตามสื่อต่างๆ ในปักกิ่งเป็นที่แรกตั้งแต่เมื่อวานนี้ เป็นกิจกรรมอุ่นเครื่องที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่

เสียงเพลงของพวกเธอดังออกมาจากลำโพงที่ซ่อนอยู่ในเสาโฆษณา เสียงลอยเข้ามาใส่หูของทุกคนที่เดินผ่านไปมา!

‘ทำไมถึงต้องคุยกับเธอทั้งคืน ทำไมเพิ่งบอกลาก็อยากเจออีก ในบรรดาเพื่อน เธอเป็นคนพิเศษที่สุด ทำให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยใกล้ชิด’

‘ทำไมเธอต้องสนใจว่าใครเดินข้างฉัน ทำไมเธอต้องแคร์ว่าใครปิ๊งฉัน เธอบอกว่าเธอทำอะไรให้ฉันมากกว่าคนอื่นนิดหน่อย แต่ไม่บอกว่าอะไรบ้างที่มากมาย’

‘มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ถึงขั้นคนรัก ความอ่อนหวาน ความกังวล ความสุขผสมปนเปกัน ต่อไปพวกเรา จะเป็นอย่างไร…’

‘ฉันรอฟังอยู่อยากรู้คำตอบ’

เอฟเฟกต์เสียงของลำโพงที่ติดมากับจอโฆษณานี้ธรรมดามาก เพียงแค่ทำให้เพลงดังออกมาเท่านั้น

แต่ทำนองที่ไพเราะ เสียงร้องอันอ่อนหวานปนความเศร้านิดๆ และความงดงามของภาพ ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาหลายคนรวมทั้งเฉินเฟยเอ๋อร์หยุดยืนอยู่กับที่ เพื่อฟังและดูมิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’

ในภาพนั้น เด็กสาวทั้งสามเรียนหนังสือ วิ่งเล่น ใช้ชีวิต และหยอกล้อกันอยู่ในมหาวิทยาลัย จากนั้นมู่เสี่ยวชูที่เป็นนางเอกก็ไปชนกับลู่เฉินที่เป็นรุ่นพี่ แล้วความรักอันสวยงามบริสุทธิ์ก็เริ่มก่อตัวขึ้น

ฟางฮุ่ยผู้กำกับมิวสิควิดีโอกำกับงานได้อย่างประณีต ฉากที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงสมัยเรียน เธอถ่ายทอดอารมณ์รักระหว่างพระเอกและนางเอกออกมาได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะนางเอกที่โหยหาและไขว่คว้าความรักอันสวยงาม ทำให้ผู้ชมหัวใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว

ลู่เฉินยังดีหน่อย การเป็นพระเอกครั้งนี้ทำให้เขาได้ดูแล้วหลายรอบ

แต่เฉินเฟยเอ๋อร์กลับยืนดูอย่างงงงัน

ไม่รู้ทำไมลู่เฉินที่ยืนอยู่ข้างเธอราวกับรู้สึกได้ถึงความหวั่นไหวในใจเธอ

ลู่เฉินทนไม่ไหวยื่นมือออกไปกุมมือของเธอไว้

มือของเฉินเฟยเอ๋อร์เย็นเล็กน้อย นิ้วมือเรียวยาวขาวนุ่มเนียนละเอียดเหมือนเนื้อหยก

เมื่อลู่เฉินจับมือเธอ มือของเธอสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ได้สะบัดออก

ทั้งสองยืนดูด้วยกันจนจบ

ภาพจบของมิวสิควิดีโอเป็นภาพของลู่เฉินกับมู่เสี่ยวชูมองมาที่กล้องด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้ง

ความน่ารักสดใสของมู่เสี่ยวชู ความหล่อเหลาสง่างามของลู่เฉิน ถูกถ่ายทอดออกมาทางหน้ากล้องทั้งหมด!

เฉินเฟยเอ๋อร์กะพริบตา บอกว่า “ไปเถอะ…”

ทั้งสองเดินไปข้างหน้า แต่มือยังไม่ปล่อยจากกัน

ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆ เฉินเฟยเอ๋อร์ถามขึ้นมาว่า “มิวสิควิดีโอเพลงนี้ทำได้ไม่เลว นายกับเสี่ยวชูติดต่อกันบ่อยไหม”

เธอหันไปมองลู่เฉิน ดวงตาที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตาเป็นประกายดุจดวงดารา!

ลู่เฉินตอบ “น้อยมากครับ เธอเป็นเหมือนน้องสาวของผม”

เฉินเฟยเอ๋อร์กัดปาก “นายรู้ไหม ความจริงแล้วตอนนี้ฉันเพิ่งอายุยี่สิบแปดเอง ตอนนั้นเพื่อเข้าวงการให้เร็วขึ้น ผู้จัดการให้ฉันเปลี่ยนอายุในทะเบียนให้แก่ขึ้นสองปี”

ลู่เฉิน “เอ่อ…”

“เอ่ออะไร”

เฉินเฟยเอ๋อร์เขินอาย “รู้อย่างนี้ไม่บอกนายดีกว่า เรื่องนี้มีไม่กี่คนที่รู้!”

เธอออกแรงเพื่อดึงมือออกจากมือของลู่เฉิน

“พี่เฟย ผมผิดไปแล้ว!”

ลู่เฉินรีบจับให้แน่นขึ้น เขาหยุดเดินแล้วจ้องตาเธอพูดว่า “ความจริงผมคิดว่าอายุไม่สำคัญ ไม่ว่าพี่จะอายุยี่สิบแปดหรือสามสิบ ผมก็ยังชอบพี่อยู่ดี!”

แววตาของลู่เฉินทั้งอ่อนโยนและจริงใจ

เขารู้ว่าเฉินเฟยเอ๋อร์มีปมในใจเรื่องอายุมาโดยตลอด ทั้งสองคนอายุห่างกันเกินไป

แต่เขาเองไม่เคยรู้สึกว่าอายุจะเป็นปัญหา

ลู่เฉินยังรู้อีกว่า เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่เคยหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงอายุของตัวเอง แต่การที่เธอบอกความลับนี้กับเขา นั่นแปลว่าเธอเชื่อใจ แล้วก็…

ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคืบหน้าไปอีกขั้น ลู่เฉินไม่อยากปล่อยมือแล้วปล่อยให้ทุกอย่างย้อนกลับไปเหมือนเมื่อก่อนอีก!

เขาชอบเฉินเฟยเอ๋อร์จริงๆ

เฉินเฟยเอ๋อร์เห็นการดิ้นรนของเธอไม่เป็นผล ดวงหน้าเริ่มแดงเรื่อด้วยความเขินอาย

สายตาอันทรงเสน่ห์ทอดมองเขา ก่อนจะเอ่ยว่า “นายพูดได้นี่ ฉันเป็นผู้หญิงแก่แล้ว ตอนนี้บอกว่าชอบ ไม่แน่ต่อไปอาจจะเสียใจภายหลัง”

หนุ่มลูกครึ่งหัวเราะเสียงดัง แล้วตะโกนบอกกับลูกค้าในร้านว่า “ขอบอกข่าวดีกับทุกคนว่า เถ้าแก่เสี่ยวลู่ของเรามาแล้ว ทุกคนต้อนรับหน่อย!”

ลู่เฉินมีหุ้น 5% ในบาร์เดย์ลิลลี่ นี่เป็นสายใยสุดท้ายที่ผูกเขาไว้กับบาร์แห่งนี้

ลู่เฉินไม่ได้มาที่นี่ได้พักใหญ่แล้ว

“ลู่เฉิน?”

ได้ยินเสียงตะโกนของเดวิด ลูกค้าในร้านทั้งเก่าทั้งใหม่ต่างยิ้มอย่างดีใจ พากันลุกขึ้นยืน

“ไม่ได้มาตั้งนานเลยนะ!”

“วันนี้วันอะไร ลมอะไรหอบนายมาถึงที่นี่”

“ลู่เฉิน พวกเราคิดถึงนายมากเลย!”

“ร้องสักเพลงสิ เพลงใหม่นะ!”

ลู่เฉินรีบลุกขึ้นยืน แล้วโบกมือทักทาย “สวัสดีครับทุกคน ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”

ลูกค้าของบาร์เดย์ลิลลี่มีอารยธรรมสูงส่งทั้งนั้น ไม่ว่าลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ต่างทักทายลู่เฉินอย่างอบอุ่นเป็นมิตร ไม่ค่อยมุงเข้ามา มีไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้ามาขอถ่ายรูปและขอลายเซ็น

เขาให้ตามที่ลูกค้าต้องการ

ลู่เฉินในตอนนี้กลายเป็นตำนานของบาร์เดย์ลิลลี่และย่านทะเลสาบโฮ่วไห่ไปแล้ว

แต่ใครจะรู้ว่า หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวที่มากับลู่เฉินต่างหาก ถึงจะเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ที่แท้จริง!

เมื่อเดวิดสังเกตเห็นเฉินเฟยเอ๋อร์ ก็ออกปากถามอย่างระมัดระวังว่า “ลู่เฉิน สาวสวยคนนี้คงไม่ใช่พี่สาวของนายอีกหรอกนะ”

คราวก่อนลู่เฉินพาลู่ซีมาที่บาร์เดย์ลิลลี่เป็นครั้งแรก ถูกเดวิดคิดว่าเป็นแฟนสาวของลู่เฉิน

เขายังจำบทเรียนนั้นได้ดี

ลู่เฉินยิ้ม “คนนี้ก็เป็นพี่สาวของผมเหมือนกัน!”

เดวิดกลอกตามองบน “ถามหน่อยคุณลู่เฉิน คุณมีพี่สาวกี่คนกันแน่”

เขาหยอกล้อลู่เฉิน พร้อมกับชงเครื่องดื่มอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็ยื่นเครื่องดื่มที่ชงเสร็จแล้วให้เฉินเฟยเอ๋อร์

“คุณคนสวยครับ เชิญคุณลิ้มลองเบิร์นนิงแก้วนี้ที่ผมชงขึ้นมาเองกับมือ!”

เขาพูดพลางยกมือซ้ายขึ้นมาทาบอก แล้วโค้งตัวให้เธอเยี่ยงสุภาพบุรุษผู้สง่างาม

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มตอบว่า “ขอบคุณค่ะ”

เธอยกแก้วขึ้นมาจรดที่ริมฝีปาก แล้วเหลือบมองลู่เฉินพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย

ราวกับกำลังบอกว่า…เขาอ้อนผู้หญิงเก่งกว่านายอีก!

ลู่เฉินยิ้มแหย

…………………………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar