ตอนที่ 220 ถูกใจ
บาร์เดย์ลิลลี่ในย่านทะเลสาบโฮ่วไห่ ไม่ใช่บาร์ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุด
แต่กิจการนั้นดีไม่มีตก มีลูกค้าประจำเป็นกลุ่มที่แน่นอน
ก่อนที่เถ้าแก่เฉินเจี้ยนหาวจะเปิดร้าน เขาเป็นคนในวงการบันเทิงคนหนึ่ง มีเส้นสายและชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย ดังนั้นจึงมักเชิญศิลปินนักร้องมาขึ้นเวทีในร้านอยู่เรื่อย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงยกระดับบาร์เดย์ลิลลี่ให้สูงขึ้น
แต่คนที่เขาเชิญมา ส่วนใหญ่เป็นนักร้องระดับสองระดับสาม แต่สำหรับลูกค้าถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์แปลกใหม่ เพราะเฉินเจี้ยนหาวไม่เคยเอาชื่อของคนในวงการที่เชิญมาที่ร้านมาทำโฆษณาเรียกแขก แน่นอนว่าไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือคิดค่าผ่านประตูเพิ่ม
ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับร้านอื่นที่เห็นดาราศิลปินเป็นตัวเรียกทรัพย์
ดังนั้นบาร์เดย์ลิลลี่จึงไม่ค่อยมีนักร้องที่มีชื่อเสียงมาแสดง นอกจากคืนนี้ที่ไม่เหมือนทุกที!
เพราะบนเวทีคือเฉินเฟยเอ๋อร์ ราชินีนักร้องที่มีตำแหน่งในวงการสูงสุดๆ!
ในสภาวะปกติ เธอไม่มีทางมาปรากฏตัวที่บาร์เดย์ลิลลี่เล็กๆ แห่งนี้ แม้แต่ทั้งย่านทะเลสาบโฮ่วไห่ก็อาจจะมีแค่บาร์บลูโลตัสเท่านั้นที่มีสิทธิ์เชิญตัวเธอมาได้ แต่นั่นก็ยังต้องอาศัยเส้นสายและโชคช่วยด้วย
ตอนนี้เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่เพียงแต่ถูกลู่เฉินเชิญมาได้ ยังร้องเพลงที่ทำให้คนใจละลายอีกต่างหาก
ร้องเสียไพเราะจับใจ!
“แต่นี้ไปสายธารจะกลายเป็นเรื่องเล่า ฟ้าดินดวงดาวกลืนกินหายไป!”
เมื่อเฉินเฟยเอ๋อร์ร้องเพลงสองประโยคสุดท้ายจบ เสียงเปียโนของลู่เฉินก็เหลือแต่ทำนองอ้อยอิ่ง ลูกค้าทั้งบาร์เกือบสองร้อยคนแทบจะสะกดความตื่นเต้นดีใจไม่ไหว พร้อมใจกันลุกขึ้นปรบมือตะโกนชื่นชม!
ความชื่นชมยินดีของพวกเขาฮึกเหิมจนเพดานแทบจะพังลงมา เสียงปรบมือดังทะลุกระจกออกมานอกร้านไปถึงถนนคนเดิน
คนบนถนนหยุดเดิน หันมามองด้วยด้วยความฉงน
ภาพความคึกคักแบบนี้ หาได้น้อยมากในย่านทะเลสาบโฮ่วไห่
ลู่เฉินลุกขึ้นยืน สบตาและยิ้มให้กับเฉินเฟยเอ๋อร์
แม้จะไม่ได้พูดออกไป แต่ทั้งหมดไม่จำเป็นต้องสื่อสารด้วยคำพูดเลย
เฉินเฟยเอ๋อร์ค้อมตัวเล็กน้อยแสดงความขอบคุณพร้อมกับพูดเบาๆ ว่า “ขอบคุณค่ะ…”
“ร้องอีกเพลง!”
มีลูกค้าร้องขอ ถึงขั้นขอร้อง “เพราะมากจริงๆ!”
โอกาสแบบนี้หาได้ยากมาก!
คำพูดของเขาทำให้หลายคนขอตาม เสียงปรบมือยังดังไม่หยุด
แต่เฉินเฟยเอ๋อร์หมดความสนใจแล้ว เธอยิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหัว ก่อนจะหันไปโบกมือให้ลู่เฉิน
ลู่เฉินรู้ทันทีว่าเธอจะไปแล้ว กำลังบอกลาเขาอยู่
เขาพยักหน้า
เฉินเฟยเอ๋อร์ขยิบตา ยิ้มในหน้าอย่างอบอุ่น จากนั้นหันหลังก้าวลงจากเวที หายไปจากครรลองสายตาของทุกคนราวกับเป็นภาพความฝัน เหลือไว้เพียงท่วงท่าอันงดงามตรึงใจ
ลู่เฉินไม่ได้ไปส่งเฉินเฟยเอ๋อร์ และไม่ได้จากไปพร้อมกับเธอ
เพราะเมื่อสถานะของเธอถูกเปิดเผย หากอยู่ที่นี่ต่อไปจะไม่เหมาะ มาพร้อมกันแต่ไม่ได้กลับพร้อมกัน เพื่อป้องกันข่าวเสียหายไม่ให้เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อครู่มีหลายคนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเอาไว้ได้
ความมีมารยาทของลูกค้าในบาร์เดย์ลิลลี่ถือว่าดีมากแล้ว ถึงกระนั้นพอตื่นเต้นเข้าหน่อยก็ฝ่าฝืนกฎของร้านอยู่ดี
ที่นี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปและคลิปวิดีโอ แต่พวกบริกรไม่สามารถดูแลคนที่ฝ่าฝืนกฎได้ทั่วถึง
เสน่ห์ของเฉินเฟยเอ๋อร์เกินต้านทานจริงๆ!
ลู่เฉินไม่กังวลเรื่องการจากไปของเธอ เพราะเธอมีทั้งผู้ช่วยและบอดี้การ์ดอยู่ครบ อีกทั้งหลังเวทีก็มีประตูเล็กให้ออกจากบาร์ได้
แม้จะน่าเสียดาย แต่วันนี้สำหรับเขา สวยงามสมบูรณ์ที่สุดแล้ว
ลู่เฉินหันกลับมาเผชิญหน้ากับความผิดหวังของลูกค้า “พี่เฟยไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมขอร้องชดเชยให้สองสามเพลงแล้วกันครับ”
อารมณ์ที่ผิดหวังของทุกคนถูกกระชากขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
เกิดเป็นคนไม่ควรโลภเกินไป ได้ยินว่าเพลงที่เฉินเฟยเอ๋อร์ร้องเมื่อครู่เป็นเพลงใหม่ ช่างโชคดีเป็นไหนๆ แล้ว ไม่ควรจะโลภมากไปกว่านี้
ลู่เฉินยังอยู่ ยังร้องเพลงที่นี่ต่อ แค่นี้ก็เพียงพอกับการฟังเพลงจนเต็มอิ่มแล้ว!
ดังนั้นความเคลื่อนไหวในบาร์จึงสงบลงอย่างรวดเร็ว พวกลูกค้ากลับไปนั่งประจำที่อีกครั้ง
บางคนแอบเดาว่า ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์สนิทกันอะไรปานนี้…
หรือข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นเรื่องจริง
…
“นี่มันไม่จริง?”
ขณะเดียวกัน ณ อาคารจินฮุยซึ่งอยู่ห่างจากบาร์เดย์ลิลลี่ที่ตั้งอยู่ในย่านทะเลสาบโฮ่วไห่ไปสิบกว่ากิโลเมตร ในออฟฟิศของบริษัทผลิตภาพยนตร์ละครโทรทัศน์เอ้าช่วง เหยียนเฉิงอี้จ้องอยู่ที่คลิปวิดีโอหน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
เอ้าช่วงฟิล์มเป็นบริษัทผลิตละครและภาพยนตร์ขนาดกลางแห่งหนึ่ง ก่อตั้งมาสิบห้าปีแล้ว พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้างในวงการ ละครโทรทัศน์หลายเรื่องที่ผลิตได้ยอดเรตติ้งดีอยู่ไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar