ตอนที่ 267 ไม่สามารถขัดขวางได้
สถานีโทรทัศน์เซียงหนานเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท้องถิ่นทั้งหมด และความสำเร็จของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ก็ไม่ใช่ความโชคดีที่ได้มาโดยบังเอิญ
ที่นี่เป็นสถานีโทรทัศน์ที่เน้นความสำคัญด้านการโฆษณาและการทำการตลาดมากที่สุดในประเทศจีน ก่อนการออกอากาศไม่ว่าจะเป็นรายการสำคัญหรือละครโทรทัศน์เรื่องไหน จะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างกระแสและทำการโปรโมต ทำให้ดึงดูดสายตาของมวลชนได้อย่างมั่นคง
และสิ่งที่ได้กลับมาจากการลงทุนทางด้านการทำโฆษณาโปรโมตนี้ก็คือ เรตติ้งที่สูงกว่าเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน และรายรับจากโฆษณาที่น่าทึ่ง
การสร้างวัฏจักรที่ดีงามเช่นนี้ ส่งผลให้ตำแหน่งในวงการของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานยากที่จะสั่นคลอน วิธีการทำการตลาดชุดนี้ถูกพวกเขาเล่นอย่างยอดเยี่ยมที่สุด กระทั่งถูกกล่าวขานว่าเป็นต้นแบบของวงการ
ในฐานะละครฟอร์มใหญ่ต้นปี 2016 แน่นอนว่าสถานีโทรทัศน์เซียงหนานจะต้องลงทุนโปรโมตละคร ‘หัวใจฉันโบยบิน’ ด้วยเม็ดเงินจำนวนมากอยู่แล้ว เริ่มสร้างกระแสในอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนออกอากาศ
โดยเฉพาะในบล็อกล่างฉาว นักการตลาดออนไลน์และบัญชีวีไอพีจำนวนไม่น้อยต่างก็ช่วยกันส่งเสริมละคร ‘หัวใจฉันโบยบิน’ กันยกใหญ่ แต่ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็เป็นม้ามืดฆ่าทุกคนจนตายเรียบ ทำให้บางคนเกิดการระมัดระวังตัวขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นในบล็อกจึงมีโพสต์ที่เชียร์ละคร ‘หัวใจฉันโบยบิน’ แต่เสียดสีละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ขึ้นมาอย่างชัดเจน และยังมีที่สิ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นนักวิเคราะห์การตลาดคิดว่า ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่โผล่ขึ้นมากะทันหันเป็นแค่การเอาเปรียบและยึดพื้นที่ของตลาดละครโทรทัศน์ภายในประเทศในช่วงที่ไม่มีละครฟอร์มใหญ่ตอนสิ้นปี 2015 เท่านั้น เหมือนกับแมวไม่อยู่หนูร่าเริงทำตัวเด่นยามที่ไร้คนมีความสามารถ
เมื่อละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ปะทะกับละคร ‘หัวใจฉันโบยบิน’ จะต้องเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาอย่างแน่นอน!
การวิจารณ์อย่างรุนแรงเช่นนี้มักมีคนไม่ชอบ กระทั่งเกิดการโต้เถียงระหว่างแฟนคลับขึ้นมา
แต่ตอนที่การจัดอันดับเรตติ้งรอบล่าสุดออกมา การวิเคราะห์ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ อย่างเสียๆ หายๆ เหล่านั้นกลับกลายเป็นเรื่องตลกทั้งหมด และพวกที่สาบานว่าเรตติ้งละครเรื่องนี้จะต้องตกลงแน่นอน ก็ถูกตบหน้าอย่างแรงจนหน้าบวมฉึ่ง!
คืนวันที่ 3 เดือนมกราคม ปี 2016 ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกอากาศเป็นตอนที่แปด
การอัปเดตการจัดอันดับเรตติ้งในวันถัดมา ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เรตติ้ง 1.21% ยังคงนั่งบัลลังก์แชมป์เรตติ้งละครได้อย่างมั่นคง!
คราวนี้คำวิจารณ์ด้วยความคลางแคลงใจบนอินเทอร์เน็ตก็หายไปเลย ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กลายเป็นละครสุดฮอตไปแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะพุ่งเข้าสู่การเป็นละครระดับปรากฏการณ์
ในวันเดียวกัน เรตติ้งตอนที่สามของละคร ‘หัวในฉันโบยบิน’ คือ 0.54% ลดลงจากตอนก่อนหน้า 0.03%!
ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาดออนไลน์ก็ดี หรือที่เขาเรียกกันว่านักวิเคราะห์ก็ช่าง รวมทั้งสถานีโทรทัศน์เซียงหนานต่างก็เงียบงัน
ตลาดภาพยนตร์โทรทัศน์คือความโหดร้ายตลอดกาล อย่าคิดว่าคุณรวยล้นฟ้า ขาหนาเท่าขาช้าง เชิญดาราดังตัวท็อปด้วยเงินหลายร้อยล้านแล้วจะสามารถถ่ายทำละครหรือภาพยนตร์สุดฮอตขึ้นมาได้ ละครต้นทุนน้อยที่สามารถโต้กลับละครฟอร์มใหญ่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเหลือเชื่ออะไร
แน่นอนว่าในสถานการณ์ส่วนใหญ่ ละครฟอร์มใหญ่ล้วนบดขยี้ละครต้นทุนน้อยอยู่แล้ว
ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ใช้เงินลงทุนและโปรโมตแค่เศษหนึ่งส่วนสิบของละคร ‘หัวใจฉันโบยบิน’ เท่านั้น ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!
ตอนที่เรตติ้งรอบนี้ออกมา เริ่มเกิดวิธีการพูดเกี่ยวกับทฤษฎีจิตนิยมขึ้นมาภายในบล็อก
นั่นก็คือลู่เฉินเป็นดาวปรปักษ์ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายต้องย้อนกลับไปตอนที่ลู่เฉินเพิ่งจะเดบิวต์ รายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ได้กำจัดลู่เฉินออกไป เป็นผลให้ลู่เฉินไปเข้าร่วมรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ และก็ทำให้สถานีโทรทัศน์เซียงหนานหน้าแตกในท้ายที่สุด
เรตติ้งของรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ในตอนนั้นเอาชนะรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ไปได้
ตอนนี้ละครฟอร์มใหญ่แห่งปีของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานก็มาปะทะกับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ลู่เฉินแต่งเองและแสดงเองอีกครั้ง นอกจากจะไม่สามารถทำให้คนหลังหงายหลังได้แล้ว ตรงกันข้ามกลับถูกคนหลังกดทับและต่อยอย่างหนัก ทำเอาขายหน้าจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ
ถึงแม้จะมีวิธีการพูดแบบนี้ปรากฏขึ้นมา ทั้งยังแฝงไปด้วยความหมายที่มีเจตนาร้าย แต่ก็ไม่ได้เบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริงมากนัก
นอกจากนี้ยังมีอีกสนามรบหนึ่งที่เกี่ยวกับเรตติ้งละครเช่นกัน และละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็ชนะขาดลอย
นั่นก็คือเฟยซวิ่นวิดีโอ
ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกอากาศพร้อมกันทางสถานีโทรทัศน์ไห่จินและเว็บไซต์เฟยซวิ่นวิดีโอ
การออกอากาศพร้อมกันทั้งทางโทรทัศน์กับเว็บไซต์ เป็นรูปแบบการทำงานที่คุ้นชินของละครโทรทัศน์หลายเรื่องในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ฝ่ายหลังจะทำให้เรตติ้งของฝ่ายหน้าลดต่ำลงมากก็ตาม แต่ก็คือผลลัพธ์ที่ควรจะเป็น
การปรากฏขึ้นของยุคอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้คนหนุ่มสาวมากมายเริ่มทิ้งทีวี หันมารับข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงผ่านคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตด้วยความเคยชิน ตลาดใหญ่เช่นนี้ยากที่เงินลงทุนใดๆ จะมองข้าม
ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ขายสิทธิ์ในการออกอากาศทางอินเทอร์เน็ตให้แก่เฟยซวิ่นวิดีโอ ด้านหนึ่งเพื่อเรียกต้นทุนกลับโดยเร็ว อีกด้านหนึ่งก็อยากจะจับตลาดส่วนนี้ เพื่อขยายอิทธิพล
ไม่อย่างนั้นหากอาศัยการออกอากาศทางโทรทัศน์อย่างเดียว เป็นไปไม่ได้ที่จะฮิตเหมือนตอนนี้ นอกจากนี้การละเมิดลิขสิทธิ์ละครบนอินเทอร์เน็ตก็ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ด้านภาพยนตร์ค่อยดีหน่อย ช่วงที่กำลังฉายอยู่น้อยมากที่จะเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์
แต่ละครโทรทัศน์คือเขตที่ประสบภัยหนัก ดังนั้นตอนนี้ละครจึงออกอากาศพร้อมกันทั้งสองทางมากขึ้นเรื่อยๆ จุดประสงค์ก็เพื่อลดการสูญเสียและขยายอิทธิพล
คู่แข่งของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในเฟยซวิ่นวิดีโอ คือละคร ‘ท่านประธานที่รัก’ ที่ทางเฟยซวิ่นวิดีโอผลิตเอง
เงินลงทุนของละคร ‘ท่านประธานที่รัก’ นั้นมากกว่าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มาก และในฐานะลูกชายของเฟยซวิ่นวิดีโอ ก็ย่อมต้องได้รับการเอาใจมากกว่าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่พวกเขาซื้อมา ดังนั้นความโน้มเอียงทางด้านทรัพยากรจึงไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนเริ่มต้น ยอดชมออนไลน์ของละคร ‘ท่านประธานที่รัก’ มีความมั่นคง กดทับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จนจมมิด
แต่หลังจากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้รับความนิยมทางหน้าจอทีวี สถานการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ยอดชมออนไลน์ของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไมช้าก็ไล่ตามละคร ‘ท่านประธานที่รัก’ ที่มีแนวโน้มการรับชมลดลงทัน
นี่ทำให้เฟยซวิ่นวิดีโออับอายเป็นอย่างมาก พวกเขาจำเป็นต้องใช้ ‘วิธีการทางเทคนิค’ เพื่อควบคุมการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar