ตอนที่ 279 ทนลำบากในความลำบาก
ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนมีห้องฝึกซ้อมมากมาย แต่ละห้องถูกกั้นด้วยกระจกนิรภัยใส เดินตามทางเดินทอดยาวสามารถมองเห็นคนที่ฝึกเต้นและฝึกบุคลิกภาพอยู่ด้านในได้ ทั้งยังได้ยินเสียงแว่วของดนตรีประกอบดังออกมา
ใกล้ปีใหม่แล้ว หลายคนเตรียมเดินทางหรือกำลังเดินทางออกจากปักกิ่งเพื่อกลับบ้านเกิดของตัวเอง แต่เห็นชัดว่าผู้ที่ฝึกอยู่เหล่านี้ไม่รวมอยู่ในนั้นด้วย พวกเขาและพวกเธอกำลังรีบฝึกซ้อม พยายามเพื่อโอกาสในการเดบิวต์ ไม่อาจย่อหย่อนเกียจคร้านแม้แต่น้อย
การแก่งแย่งชิงดีในวงการบันเทิงรุนแรงตลอดมา ในยุคปัจจุบัน ศิลปินใหม่รุ่นแล้วรุ่นเล่าถูกผลัดเปลี่ยนแทนที่อย่างรวดเร็ว เดบิวต์ได้สองสามปีแต่ไม่ดัง ก็จะต้องถูกคัดออกไป
วันนี้ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนมีเด็กฝึกหลายร้อยคน ในอนาคตมีเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่จะโด่งดัง คนทั่วไปมองว่าเป็นดาราศิลปินนั้นดูดีสวยงาม แต่กลับไม่รู้ว่าเท้าของพวกเขาและพวกเธอเหยียบข้ามคู่แข่งมามากมายเท่าไร
โชคชะตามักไม่ยุติธรรม ทั้งที่เป็นเด็กฝึกเหมือนกัน บางคนแค่เริ่มต้นก็เหนือกว่าคนอื่นแล้ว
เช่นวงบอยแบนด์วงใหม่ที่เพิ่งตั้งขึ้นไม่นานอย่างวง ‘เสียวหู่ถวน’ จางจวิ้นจื้อกับเด็กหนุ่มอีกสองคนไม่เพียงแต่มีห้องฝึกซ้อมเดี่ยวที่หรูหรา แค่ครูสอนเต้นอย่างเดียวก็มีถึงสองคน
ตอนที่ลู่เฉินกับพี่หลีเข้ามาถึง เด็กหนุ่มทั้งสามเพิ่งเต้นจบเพลง บนหน้าผากมีเม็ดเหงื่อผุดพราว หายใจหอบเหนื่อยอย่างอ่อนแรง
แต่หนึ่งในครูสอนเต้นไม่พอใจมาก ใช้น้ำเสียงดุดันตำหนิพวกเขา ชี้ถึงท่าเต้นที่มีปัญหาและจุดที่พลาด ใช้กระทั่งไม้บรรทัดไม้ไผ่ตีแขนกับต้นขาของพวกเขา รวมทั้งจางจวิ้นจื้อด้วย
จากสำเนียงการพูดภาษาจีนของครูสอนเต้นคนนี้ฟังออกว่าเป็นครูที่เชิญมาจากต่างประเทศของศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวน
ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนเชิญครูมาจากต่างประเทศสิบกว่าคน ว่ากันว่ามาจากเกาหลีและญี่ปุ่น เป็นครูที่มีความถนัดเฉพาะด้านและมีประสบการณ์การฝึกสอนโชกโชน ครูคนนี้เป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่เฉินกับพี่หลีไม่ได้ถือวิสาสะเข้าไปรบกวน พี่หลีแน่นอนว่าสงสารลูกชาย แต่เธอก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ได้แต่ยืนมองอยู่ตรงประตูไม่ไหวติง แม้ขอบตาแดงเรื่อก็ยังไม่พูดอะไร
เพราะพี่หลีรู้ดีถึงเหตุผลที่ว่า คนที่อดทนกับความยากลำบากได้มากกว่าจะเป็นคนเหนือคน เธอสามารถบังลมบังฝนให้จางจวิ้นจื้อได้ แต่ในเมื่อจางจวิ้นจื้อก้าวเข้าสู่วงการ ทางข้างหน้าเขาก็ต้องเดินด้วยตัวเอง
เช่นเดียวกับอินทรีหนุ่มออกจากรัง ถ้าไม่เผชิญหน้ากับลมพายุ จะมีปีกอันแกร่งกล้าเหินเวหาได้อย่างไร
การถูกตีถูกดุด่าตอนนี้จะนับเป็นอะไรได้
เด็กฝึกคนไหนบ้างที่ไม่โดนแบบนี้ ยิ่งปกป้องทะนุถนอมกลับจะเป็นการทำร้ายกันมากที่สุด!
หลังจากรับคำตำหนิของครูแล้ว เด็กหนุ่มทั้งสามสงบสติอารมณ์สักพัก ก่อนจะลากเอาสังขารอันเหนื่อยล้าขยับตามจังหวะดนตรีที่ดังขึ้นอีกครั้ง เริ่มเต้นเพลงเมื่อครู่ใหม่อีกหนึ่งรอบ
ครั้งนี้ครูทั้งสองพอใจสักที หลังจากให้กำลังใจแล้วก็อนุญาตให้พวกเขาพักได้ไม่กี่นาที
เด็กหนุ่มทั้งสามทรุดตัวนั่งลงบนพื้น
พี่หลีถึงจะผลักประตูเข้าไป เธอทักทายครูสอนเต้นทั้งสองคน “ครูจินสวัสดีค่ะ ครูหมิ่นสวัสดีค่ะ”
พี่หลีอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี เริ่มสร้างเกมกระดานนี้ขึ้นมาจากมือเปล่า ตำแหน่งของเธอในวงการ ครูสอนเต้นทั้งสองคนเทียบไม่ได้เลย จึงมีท่าทีเกรงอกเกรงใจยิ่งขึ้น
ครูสอนเต้นทั้งสองคนไม่ใช่คนหยิ่งยโสไม่เห็นใครในสายตา รีบลุกขึ้นโค้งตัวให้ “คุณหลี สวัสดีครับ”
พี่หลียิ้มตอบ “ฉันขอแนะนำให้พวกคุณรู้จักนะคะ คนนี้คืออาจารย์ลู่เฉิน!”
เธอแนะนำทั้งสองฝ่าย “ลู่เฉิน นี่คือครูจินอันกั๋ว มาจากบริษัทเอเจนซี่ CAN ประเทศเกาหลี…”
อีกคนคือครูหมิ่น มาจากฮ่องกง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar