ตอนที่ 337 ปล่อยระเบิดนิวเคลียร์
การพูดคุยกับพวกแฟนคลับบนอินเทอร์เน็ต สำหรับลู่เฉินแล้วไม่ใช่งานหรือภาระ แต่เป็นการผ่อนคลายอารมณ์อย่างหนึ่ง
ทั้งๆ ที่ตอบคำถามเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับการสัมภาษณ์ของสื่อ ไม่มีไมโครโฟนหรือปากกาบันทึกเสียงยัดเข้ามาติดปากของเขาขณะที่อยู่ตรงหน้าจอ รอบๆ ไม่มีเลนส์กล้องที่คอยจ้องตาเป็นมัน
ลู่เฉินสามารถเลือกคำถามที่ตัวเองอยากจะตอบ มองข้ามคอมเมนต์สดที่แฝงด้วยเจตนาร้าย ไม่จำเป็นต้องจงใจเลือกคำพูดอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ ไร้ซึ่งแรงกดดันใดๆ
เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าพอคุยไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องหยิบกีตาร์ขึ้นมาร้องเพลงสักสองสามเพลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ลู่เฉินในคืนนี้พูดง่ายมาก เขาให้แฟนคลับของเขาเลือกเพลงไหนก็ได้ ขอแค่เป็นผลงานของตัวเขาเองเท่านั้น ขอเพลงไหนก็ร้องเพลงนั้น ได้ใจสุดๆ!
พวกแฟนคลับพอใจเป็นอย่างมาก ไม่ทราบว่าลูกบอลปลาระเบิดจำนวนขึ้นมาอีกเท่าไร ลำพังแค่เรือบรรทุกเครื่องบินซึ่งเป็นเงินรางวัลสูงสุดก็เกินร้อยลำแล้ว บรรยากาศในห้องถ่ายทอดสดงดงามอลังการมาก
ร้องไปเล่นไป ลู่เฉินรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในช่วงที่ดิ้นรนต่อสู้ใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ อีกครั้ง
อดทอดถอนใจไม่ได้
“กาลเวลานี้ สั่นไหวเอย กาลเวลานี้ หมุนผ่านเอย!”
บางทีเพลง ‘บทเพลงแห่งกาลเวลา’ สามารถแสดงอารมณ์และความรู้สึกของลู่เฉินในตอนนี้ได้ดีที่สุด
เวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งปี หลายอย่างเปลี่ยนไปมากมาย
เขาอดถามตัวเองไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งหมดใช่ไหม
คำตอบคือใช่แล้ว!
ได้ร้องเพลงและดีดกีตาร์แบบนี้ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งถ้วยกาแฟถ้วยหนึ่งวางบนโต๊ะเขาถึงได้สติกลับมา
ลู่เฉินอดหันหน้าไปมองไม่ได้ พบว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะคอมพิวเตอร์
เธออ้าปากพูดกับลู่เฉินโดยไม่มีเสียง “ดื่มตอนร้อนๆ…”
ตอนแรกในห้องนอน เฉินเฟยเอ๋อร์อ่านบทละครเกือบสองชั่วโมง อ่านจนเพลิน
จนกระทั่งความเคลื่อนไหวดังมาจากข้างนอกห้องเธอจึงสะดุ้งตกใจตื่น
จากนั้นก็สวมเสื้อผ้า วิ่งไปที่ห้องหนังสือซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนหลักแล้วชงกาแฟให้ลู่เฉิน
ลู่เฉินพยักหน้า ยกกาแฟขึ้นมาดื่ม…อืม อร่อยมาก
ฉากนี้ ถูกแฟนคลับนับล้านมองเห็นเข้าแล้ว!
เนื่องจากการมองเห็นของกล้องมีขีดจำกัด ทุกคนไม่สามารถเห็นหน้าตาทั้งหมดของเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ แต่มือของคนหลังที่ยื่นกาแฟเข้ามารวมทั้งเงาเล็กๆ ครึ่งหนึ่งยังมองเห็นได้ชัดเจน เกิดความฮือฮาในห้องถ่ายทอดสดทันที
“เอ๊ะ เป็นใครที่เอากาแฟมาให้พี่ลู่เฉินนะ”
“ด้วยประสบการณ์ชีวิตยี่สิบห้าปีของฉัน ขอตัดสินว่าเป็นผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์ และเป็นผู้หญิงสวยด้วย!”
“ขอความจริงหน่อย!”
“ข่าวใหญ่ ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว พี่ลู่เฉินของพวกเรามีสาวลึกลับอยู่ข้างกาย…”
“เหอะๆ ฉันเดาว่าเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์ พวกเธอคิดว่าไง”
“ฉันเดาว่าเป็นพี่สาวของลู่เฉิน!”
“เฉินเฟยเอ๋อร์!”
ไม่ถามคำถามแล้ว เพลงก็ไม่อยากฟังต่อแล้ว ความสนใจของทุกคนล้วนพุ่งไปที่ ‘สาวลึกลับ’ ที่ปรากฏตัวข้างกายของลู่เฉินในทันทีทันใด จำนวนคอมเมนต์สดเด้งขึ้นมาจนน่ากลัวอย่างฉับพลัน
ลู่เฉินทำตัวไม่ถูก จึงพูดกับเฉินเฟยเอ๋อร์ว่า “มาทักทายทุกคนหน่อยเถอะครับ”
ความรักของทั้งสองคนถูกเปิดเผยนานแล้ว การอวดความรักโชว์หวานก็ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง ไม่จำเป็นต้องหลบๆ ซ่อนๆ
แน่นอนว่าการปรากฏตัวในห้องถ่ายทอดสดพร้อมกัน แถมยังอยู่ในบ้าน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ไม่ว่าเรื่องอะไรล้วนต้องมีครั้งแรกเสมอใช่ไหมล่ะ
เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มปากยิ้ม โน้มตัวโบกมือและพูดกับกล้อง “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันคือเฉินเฟยเอ๋อร์”
ก่อนเธอจะออกมาก็คิดว่าอาจจะถูกกล้องสดจับภาพได้ ดังนั้นจึงตั้งใจเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงยาว
ลู่เฉินให้เธอทักทายพวกแฟนคลับ ในใจของเธอจริงๆ แล้วรู้สึกดีใจมาก
ดังนั้นรอยยิ้มของเฉินเฟยเอ๋อร์จึงอ่อนหวานเป็นพิเศษ
ปัง!
คราวนี้ห้องถ่ายทอดสดระเบิดแล้ว เป็นระดับรุนแรงราวกับถูกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์หนักหนึ่งล้านตัน!
ใช่เฉินเฟยเอ๋อร์จริงๆ ด้วย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar