ตอนที่ 353 ในเสียงเพลงของฉัน
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู…”
เสียงเพลงดังขึ้นท่ามกลางความมืด เสียงร้องเดี่ยวของชายหนุ่มดังขึ้นก่อน จากนั้นก็ร้องพร้อมกันทั้งหมด!
นับตั้งแต่ที่เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ถือกำเนิดขึ้น ไม่รู้ว่าถูกคนนำไปร้องกี่รอบแล้ว ถ้าหากทุกครั้งที่ร้องเพลงนี้แล้วผู้แต่งอย่างมิลเดร็ดกับแพตตี้สามารถได้เงินหนึ่งเซ็นต์ละก็ เกรงว่าสองพี่น้องคู่นี้คงจะกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกไปนานแล้ว
ทุกครั้งที่ร้องเพลงนี้มักจะอบอวลไปด้วยคำอวยพรที่อบอุ่นเสมอ
บนเวทีรูปตัวที ลู่เฉินเข็นเค้กสามชั้นเดินไปหาเฉินเฟยเอ๋อร์อย่างช้าๆ เทียนแต่ละเล่มที่ปักอยู่บนครีมส่องแสงสีส้มสั่นไหว ตกกระทบใบหน้า ส่องสะท้อนใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา
เฉินเฟยเอ๋อร์ยืนอยู่ตรงกลางเวที กัดริมฝีปากแน่น สายตาของเธอประสานกับลู่เฉินยากที่จะแยกจาก
ณ ตอนนี้ ความสงสัยและความเศร้าที่อยู่ในใจของเธอพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย มีแต่ความอบอุ่น หวานชื่น ดีใจ ซาบซึ้ง และความรักที่เข้มข้น
ในช่วงชีวิตตอนอายุยี่สิบเก้าปีของเธอ วันเกิดวันนี้เป็นวันพิเศษมากอย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่เฉินเข็นเค้กไปอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเฉินเฟยเอ๋อร์ ขอให้คุณอธิษฐานด้วยครับ!”
บนที่นั่งผู้ชม แฟนคลับทุกคนเปี่ยมไปด้วยการรอคอย
เฉินเฟยเอ๋อร์พยักหน้า จากนั้นจึงหลับตา สองมือประสานกันวางตรงหน้าอก เริ่มอธิษฐาน
ผ่านไปสักพัก เธอจึงลืมตาอีกครั้ง
ลู่เฉินยิ้มพลางพูดว่า “คุณเป่าเทียนได้แล้วครับ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยื่นมือไปหาเขา และยื่นมือไปทางเถียนเถียน พลางเอ่ยว่า “พวกคุณมาเป่ากับฉันด้วยกันค่ะ”
ลู่เฉินกับเถียนเถียนไม่ปฏิเสธคำเชิญของเธออยู่แล้ว ดังนั้นทั้งสามคนจึงจับมือกัน แล้วเป่าเทียนให้ดับพร้อมกัน!
“สุขสันต์วันเกิด!”
เสียงโห่ร้องพลันระเบิดขึ้นมาท่ามกลางเหมยข่าตี้เซ็นเตอร์ แฟนคลับทุกคนเปิดแท่งไฟและป้ายไฟอีกครั้ง
แสงไฟในฮอลล์ก็สว่างขึ้นทันที
เวลานี้ทีมงานก็นำมีดพลาสติกขึ้นมาส่ง โดยให้เฉินเฟยเอ๋อร์ตัดเค้กพอเป็นสัญลักษณ์
ถึงแม้เค้กสามชั้นจะใหญ่มาก แต่ไม่ว่าจะแบ่งอย่างไรก็คงไม่พอแบ่งให้แฟนคลับหนึ่งพันห้าร้อยคน ทว่าฝ่ายจัดงานแฟนมีตติ้งได้เตรียมการไว้นานแล้ว ทีมงานจำนวนมากรีบนำเค้กก้อนเล็กที่เตรียมไว้แล้วแบ่งให้ผู้ชมทันที
หนึ่งคนต่อหนึ่งชุด ได้รับกันทุกคน
หลังจากกินเค้กกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขแล้ว เถียนเถียนจึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า “วันนี้ยากมากจริงๆ ที่ลู่เฉินหนุ่มอัจฉริยะทางดนตรีของพวกเราจะมาที่นี่เช่นกัน พวกเราเชิญเขาร้องเพลงสักหน่อยดีไหมคะ”
“ดี!”
พวกแฟนคลับเห็นด้วยอยู่แล้ว ปรบมือดังสนั่นท้องฟ้า ทุกคนอยากให้โลกทั้งใบวุ่นวาย
เปียโนตัวหนึ่งถูกเข็นไปอยู่ตรงกลางเวทีอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียบไมค์ตัวหนึ่งไว้
ลู่เฉินเตรียมตัวมาพร้อม เขานั่งลงตรงหน้าเปียโนอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วพูดกับไมค์ว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของคุณเฉินเฟยเอ๋อร์ ขอมอบเพลงนี้ให้เธอ ขออวยพรให้เธอมีความสุขตลอดไปครับ!”
ขณะที่พูด ลู่เฉินมองเฉินเฟยเอ๋อร์อย่างอ่อนโยน
“เพลงนี้มีชื่อว่า ‘ในเสียงเพลงของฉัน[1]’!”
เฉินเฟยเอ๋อร์พิงอยู่ข้างเปียโนฟังเขาร้องและบรรเลงเพลง ทั้งสองคนสบตากัน อ่อนโยนไร้ที่สิ้นสุด
แค่นี้ไม่รู้ว่าบาดหัวใจคนโสดไปกี่คน!
ลู่เฉินสูดลมหายใจลึกๆ นิ้วมือกดลงบนแป้นเปียโนที่เย็นและเรียบอย่างแผ่วเบา
วินาทีต่อมา เขาก็บรรเลงเพลงขึ้น
“ไม่ทันระวังตัวแม้แต่น้อย
และไม่ทันหวั่นระแวงแม้เศษเสี้ยว
เธอพลันปรากฏตัวขึ้น
ในโลกของฉัน
นำความตื่นเต้นยินดีมาให้จนจิตใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
แต่เธอก็มักเป็นเช่นนี้
หายไปเงียบๆ
โดยที่ฉันไม่ทันรู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar