(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 371

ตอนที่ 371 การบอกรักที่โรแมนติกที่สุด

วันที่ 20 พฤษภาคม กองละคร ‘ฟูลเฮ้าส์’ กลับมาจากเกาหลีถึงเมืองหลวงในเย็นวันนั้น เหล่าแฟนคลับเห็นเฉินเฟยเอ๋อร์อัปเดตโพสต์ใหม่ในบล็อกล่างฉาว

ข้อความที่อยู่ในโพสต์แสนเรียบง่าย มีเพียงสองประโยค ‘520 ใครบางคนเพิ่งให้ของขวัญ พวกคุณคิดว่าสวยไหมคะ’

ใต้ข้อความแปะรูปภาพไว้รูปหนึ่ง มือเรียวสวยข้างหนึ่งวางอยู่บนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก นิ้วกลางสวมแหวนทับทิมวงหนึ่ง ตัวเรือนของมณีแดงล้อมรอบด้วยเพชร งดงามเป็นประกายระยิบระยับภายใต้แสงไฟ ขับดุนให้ผิวขาวผ่องราวกับหิมะ หรูหรางดงามและละเอียดอ่อน

แฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์ฮือฮาทันที!

วันนี้เป็นวันอะไร 5.20 วันแห่งการบอกรักออนไลน์!

แฟนคลับที่เป็นคนโสดทั้งหลายรู้สึกถูกทำร้ายอย่างบอบช้ำสาหัส ร้องไห้กระซิกในช่องแสดงความคิดเห็น

“เจ้าของบล็อกส่งไม้ตายออกมา หมาโสดทั้งหลายชอกช้ำ HP-10000!”

“มาโชว์ความหวานอย่างบ้าคลั่งอีกแล้ว แบบนี้มันทนไม่ไหวแล้วนะ จะเปลี่ยนจากแฟนคลับเป็นแอนตี้แฟนละ!”

“ฮ่าๆๆ ใครบางคนจะต้องเป็นลู่เฉินแน่นอน แถมยังให้แหวนอีกด้วย นี่ไม่ใช่ขอแต่งงานสำเร็จแล้วใช่ไหม”

“อย่าเดามั่วซั่ว ขอแต่งงานต้องให้แหวนเพชร และต้องใส่ที่นิ้วนาง”

“อิจฉาจังเลย พลอยทับทิมสวยมากๆ ถ้าหากใครให้แหวนฉันสักวง ฉันจะแต่งงานกับเขาทันที!”

“ลู่เฉินใส่ใจดีจังเลย…”

พลอยทับทิมถูกรียกว่า ‘พลอยแห่งความรัก’ สีแดงที่ร้อนแรงทำให้ผู้คนมักเชื่อมโยงมันเกี่ยวกับความกระตือรือร้นและความรัก เป็นสัญลักษณ์ของความกระตือรือร้นดั่งไฟ เป็นตัวแทนของความรักที่งดงาม นิรันดร์ และไม่แปรผัน

ลู่เฉินซื้อแหวนวงนี้ตอนที่อยู่กรุงโซล เลือกวันที่พิเศษสุดนี้มอบเซอร์ไพรส์สุดโรแมนติกให้กับเฉินเฟยเอ๋อร์ ส่วนการอวดในบล็อกของคนหลังที่เป็นการทำร้ายพวกคนโสด นับว่าเป็นการทำร้ายอย่างไม่ตั้งใจ

แฟนคลับจำนวนไม่น้อยหลังจากที่เห็นโพสต์ของเฉินเฟยอ๋อร์ ก็วิ่งไปดูที่บล็อกของลู่เฉินด้วย

การอวดความรักจะต้องอวดให้ครบเซ็ต เฉินเฟยเอ๋อร์อวดไปแล้ว ต่อไปก็ถึงตาลู่เฉินอวดบ้าง

พวกแฟนคลับคนโสดทั้งหลายที่ได้รับการโจมตีไม่สนใจว่าจะต้องถูกทำร้ายอีกกี่ครั้ง ถ้าอยากจะทารุณ งั้นก็ทารุณให้ถึงที่สุดไปเลย!

ทว่าลู่เฉินไม่ได้โพสต์โชว์ของขวัญอะไรในบล็อกของตัวเอง แต่กลับโพสต์เพลงเพลงหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานที่เขาเพิ่งจะร้องและอัดเสร็จเมื่อครู่

ชื่อเพลงก็คือชื่อของโพสต์ ‘มีเธออยู่ในชีวิตของฉัน[1]’!

“เพราะว่าฝันเห็นเธอจากไป

ฉันสะอื้นไห้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน

มองสายลมยามค่ำคืนพัดผ่านหน้าต่าง

เธอสัมผัสความรักของฉันได้หรือไม่

รอวันที่แก่เฒ่า

เธอจะยังอยู่ข้างกายฉันไหม

คำสาบานโกหกหลอกลวงพวกนั้น

ล่องลอยกระจัดกระจายไปกับเรื่องราวในอดีตอย่างช้าๆ

มีคนมากมายเคยชื่นชมใบหน้าที่เยาว์วัยของเธอ

แต่ไม่รู้ว่าใครจะยอมรับความเปลี่ยนแปลงของอายุที่โรยราได้

มีคนมากมายเคยไปๆ มาๆ ในชีวิตของเธอ

แต่รู้ว่ามีเธออยู่ในชีวิตของฉันและฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอ!

…”

ปีที่แล้วตอนที่เริ่มถ่ายทำ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ลู่เฉินทุ่มเทพลังไปที่ละครเป็นหลัก จนรู้สึกเหมือนเขาบอกลาวงการเพลงป็อปไปชั่วคราว

แต่วงการเพลงป็อปยังคงมีเขาอยู่ และยังมีเรื่องราวของเขา

เพียงแต่สำหรับแฟนเพลงมากมาย พวกเขายังคงรักลู่เฉินในฐานะนักร้องมากกว่า ไม่ใช่นักแสดงดาราไอดอล พวกเขาชอบเพลงของลู่เฉิน และหวังว่าเขาจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ดียิ่งขึ้นออกมาอีกเยอะๆ

“ได้ฟังเพลงพิเศษในวันที่พิเศษแบบนี้ เป็นความสุขอย่างหนึ่ง…”

อิทธิพลของบล็อกล่างฉาวยิ่งใหญ่มาก เป็นผลให้รูปภาพที่เฉินเฟยเอ๋อร์โพสต์และเพลงนี้ของลู่เฉิน ขึ้นไปอยู่บนหน้าแรกของเว็บบันเทิงใหญ่ๆ มากมายในวันถัดมาอย่างรวดเร็ว และเพลงนี้ก็ถูกยกย่องให้เป็น ‘การบอกรักที่โรแมนติกที่สุดในวัน 520!’

กระทั่งมีบริษัทเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงระดับสากลแห่งหนึ่งได้ติดต่อไปยังสตูดิโอของทั้งสองคน อยากให้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ของพวกเขาร่วมกัน

ทว่ายามนี้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ออกจากเมืองหลวงไปแล้ว มุ่งหน้าไปยังโรงถ่ายจินหลิงเพื่อถ่ายทำ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ต่อ

ดังคำกล่าวที่ว่าตั้งใจปลูกดอกไม้ ดอกไม้ไม่ออกดอก ปักต้นหลิวโดยไม่ตั้งใจต้นหลิวเติบโตกลายเป็นพุ่ม เมื่อผ่าน ‘เหตุการณ์ที่เกาะเชจู’ กับ ‘การบอกรักวัน 520’ สองเรื่องนี้ไป ‘ฟูลเฮ้าส์’ ฮอตฮิตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในอินเทอร์เน็ตและในสื่อต่างๆ โดยที่ไม่มีการโปรโมตโฆษณาอย่างตั้งใจ ถูกมองว่าเป็นละครเรื่องหนึ่งที่ควรค่าแก่การเฝ้ารอคอยมากที่สุดในฤดูร้อนปีนี้

นักข่าวและสื่อมากมายวิ่งไปที่โรงถ่ายจินหลิงอย่างฉับไว ตามไปแย่งชิงข้อมูลข่าวในกองถ่ายละคร ‘ฟูลเฮ้าส์’ ถึงแม้จะสร้างความวุ่นวายต่อการทำงานทั่วไปของกองถ่ายอยู่ไม่น้อย แต่นักลงทุนที่ร่วมหุ้นด้วยต่างก็ยิ้มไม่หุบ

โดยทั่วไปแล้ว ความกระตือรือร้นของสื่อแบบนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายล้านเป็นค่าโปรโมต และใช่ว่าจะดังเป็นกระแสขึ้นมาได้

เชื่อว่าตอนที่ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ออกอากาศครั้งแรก จะได้เรตติ้งพุ่งกระฉูดอย่างแน่นอน

ทุกคนต่างรวยไปด้วยกัน การทำงานร่วมกับลู่เฉินเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างหาที่เปรียบมิได้!

แต่ในขณะเดียวกัน การที่ ‘ฟูลเฮ้าส์’ กับนักแสดงนำชายหญิงได้ปรากฏตามสื่อบันเทิงภาพยนตร์โทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง ดึงดูดสายตาของแฟนคลับและพวกคนดูไม่หยุดหย่อน ก็ทำให้พวกคู่แข่งรู้สึกถึงแรงกดดันเพิ่มอีกหนึ่งเท่า

ปีที่แล้ว ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็ดังเป็นพลุแตกทำลายสถิติไปแล้ว บริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์และบริษัทเอเจนซี่บันเทิงหลายแห่งจึงจับจ้องพล็อตเรื่องที่คล้ายๆ กัน แต่ละฝ่ายรีบสร้างโปรเจกต์ลงทุนเพื่อตามกระแสบ้าง

ในวงการมีละครใหม่ประเภทเดียวกันอย่างน้อยเจ็ดเรื่องที่เริ่มถ่ายทำในช่วงเวลาเดียวกัน หนึ่งในนั้นรวมถึงละคร ‘ห้วงทะเลแห่งรัก’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน ซึ่งไม่เพียงแต่เชิญจางลี่เวยกับหูหยางที่ดังจากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มารับบทนักแสดงนำชายหญิงเท่านั้น ทีมนักแสดงและขนาดการลงทุนก็ใหญ่มาก มีความเป็นไปได้สูงที่จะชนกับ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ในช่วงฤดูร้อน!

สถานีโทรทัศน์เซียงหนานให้ความสำคัญกับการโปรโมตประชาสัมพันธ์มากมาโดยตลอด เมื่อต้องเจอกับ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไม่หยุด มีหรือจะทนไหว ดังนั้นจึงรีบใช้เครื่องมือสร้างกระแสให้กับละครเรื่องใหม่ของตัวเองทันที

จางลี่เวยกับหูหยางซึ่งรับบทพระเอกและนางเอก มีข่าวต่างๆ ถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ มีข่าวลือว่าพวกเขาเล่นละครในเรื่องแต่รักกันจริงนอกเรื่อง จากนั้นก็ยังมีเรื่องราวต่างๆ ในกองละคร ใช้อุบายดึงดูดความสนใจของผู้ชม

ส่วนละครใหม่เรื่องอื่นๆ แม้ว่าจะขาดกำลังอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่อาจทนอยู่เฉยได้ ต่างก็ทุ่มเงินเพื่อทำการโปรโมต เพียงชั่วพริบตาข่าวซุบซิบนินทาในวงการก็ร้อนระอุขึ้นมาทันใด เยอะมากจนทำให้ผู้คนรู้สึกละลานตาไปหมด

วันที่ 27 พฤษภาคม ลู่เฉินแอบกลับมาเมืองหลวงอย่างเงียบๆ เพื่อร่วมบันทึกเทปรายการ ‘นิวสตาร์โชว์’ ของช่องวาไรตี้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง

…………………………………………………………………………

[1] มีเธออยู่ในชีวิตของฉัน (一生有你) เนื้อร้องและทำนองโดย หลูเกิงซวี (卢庚戌)