ตอนที่ 380 แฟนเพลงและแฟนหนังสือ – ตอนที่ต้องอ่านของ (นิยายแปล) Perfect Superstar
ตอนนี้ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายSlice of Lifeทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 380 แฟนเพลงและแฟนหนังสือ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 380 แฟนเพลงและแฟนหนังสือ
วงการบันเทิง คือสถานที่เสาะหาลาภยศและชื่อเสียงที่เปี่ยมไปด้วยแสงสีมากมายหลายหลากและพิลึกกึกกือ คนที่อยู่ในนี้ไม่สามารถหนีพ้นคำว่าชื่อเสียงและผลประโยชน์สองคำนี้ได้ตลอดกาล
เพียงแต่คนในวงการก็แบ่งเป็นหลายประเภท มีบางคนเพื่อไล่ตามลาภยศและชื่อเสียง พยายามแสดงความมีตัวตนอย่างสุดชีวิต สร้างกระแสโปรโมตต่างๆ พยายามดึงดูดสายตาผู้คนอย่างเต็มที่ แต่กลับได้ผลลัพธ์อันน้อยนิด หรือไม่ก็ดังแค่ช่วงหนึ่งไม่มีทางยาวนาน
ทว่าบางคน ไม่ต้องสร้างกระแสไม่ต้องโวยวาย ทำงานด้วยจิตใจที่สงบ กลับอยู่ในสายตาของมวลชนได้อย่างมั่นคง
วันที่ 12 มิถุนายน ชาร์ตจัดอันดับเพลงจีนได้ประกาศการจัดอันดับเพลงใหม่ประจำสัปดาห์ที่สองของเดือนมิถุนายน
‘บุปผานารี’ เพลงหลักอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ครองอันดับหนึ่งติดต่อกันหกสัปดาห์ได้ตกลงมาในที่สุด ตกไปอยู่อันดับที่สาม โดยมีสองเพลงใหม่ขึ้นมาแทน
‘มีเธออยู่ในชีวิตของฉัน’ ติดอันดับที่สองในชาร์ตจัดอันดับเพลงจีน
‘วัยเด็ก’ ได้รับเกียรติขึ้นไปติดอันดับที่หนึ่ง!
ทั้งสองเพลงล้วนเป็นผลงานของลู่เฉิน ดังนั้นจึงมีคนหัวเราะกล่าวว่าชาร์ตจัดอันดับเพลงจีนกลายเป็นการแย่งชิงอันดับภายในของคู่รักไปแล้ว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนในวงการต่างพูดไม่ออกก็คือ ‘มีเธออยู่ในชีวิตของฉัน’ เป็นเพลงรักที่ลู่เฉินมอบให้เฉินเฟยเอ๋อร์ในวันบอกรัก 520 ของจีน และ ‘วัยเด็ก’ ก็เป็นเพลงใหม่ที่เขาเล่นและร้องในรายการ ‘นิวสตาร์โชว์’ ไม่มีการโปรโมตใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างอาศัยการแนะนำและการสนับสนุนของแฟนคลับ ก็สามารถติดอันดับสูงสุดของชาร์ตจัดอันดับเพลงจีนในประเทศได้อย่างสบาย
แล้วคนอื่นจะทนรับการโจมตีแบบนี้ได้เช่นไร
หลายคนรู้สึกไม่พอใจจริงๆ โดยเฉพาะพวกนักร้องที่วนเวียนไปมาอยู่ใต้ชาร์ตจัดอันดับ
ในมุมมองของพวกเขา พ่ายแพ้ให้อัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่มียอดขายอัลบั้มเกินสองล้านชุด พวกเขายอมรับได้ แต่แพ้ให้ลู่เฉินที่ร้องเล่นๆ แบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร
นักร้องมากมายต่างทำผลงานออกมาอย่างยากลำบาก ทำเพลงเดี่ยวทำอัลบั้ม ยังต้องขอร้องให้คุณปู่คุณย่าช่วยกันโปรโมต โผล่หน้าไปออกรายการแทบทุกที่ ผลสรุปคือหาตำแหน่งในชาร์ตจัดอันดับเพลงจีนไม่ได้เลย
ผลงานของลู่เฉินติดชาร์ตจัดอันดับเพลงจีน เหมือนกับการเล่นก็ไม่ปาน!
แล้วจะยอมได้อย่างไร
หรือว่าในประเทศไม่มีนักแต่งเพลงป็อปคนไหนสามารถตั้งป้อมสู้กับลู่เฉินได้แล้วใช่ไหม
จริงๆ แล้วหากพูดอย่างยุติธรรม เพราะว่ามีลู่เฉิน นับจากปีที่แล้ว พลังการสร้างสรรค์ในวงการเพลงป็อปจึงได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และเพราะความสำเร็จของเขาถึงทำให้ศิลปินดาราและบริษัทเอเจนซี่มากมายเริ่มให้ความสำคัญกับมูลค่าของผลงานเพลงสร้างสรรค์ เพิ่มค่าตอบแทนให้นักแต่งเพลงสูงขึ้น
ตอนนี้เพลงหนึ่งของลู่เฉิน ราคาที่แจ้งกับคนภายนอกคือห้าแสนถึงเจ็ดแสนหยวน และยังเป็นราคาที่ยังไม่มีตลาดรองรับ ราคาสูงกว่านักแต่งเพลงระดับชั้นนำสมัยก่อนมากโข เปลี่ยนตำแหน่งของผลงานเพลงต้นฉบับให้สูงขึ้น
เมื่อยึดเขาเป็นเกณฑ์ รายได้ของนักแต่งเพลงในประเทศเพิ่มขึ้นไม่น้อย สำหรับวงการเพลงป็อปแล้วเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน…เงินไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่ทุกสิ่งต้องใช้เงิน!
หวังปัวนักวิจารณ์เพลงชื่อดังได้เขียนในบล็อกของเขาว่า “เนื่องจากลู่เฉินเป็นผู้นำกระแสเพลงบัลลาดเข้ามา เป็นแสงสว่างที่ใหญ่สุดของการแต่งเพลงต้นฉบับของประเทศในรอบสองปีที่ผ่านมาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาบุกเบิกเพลงบัลลาดร่วมสมัย เป็นสายน้ำที่ใสสะอาดไหลผ่านวงการเพลงอย่างชัดเจน ทำให้พวกเรามองเห็นความหวังและอนาคตของวงการเพลงป็อป”
กลับมาที่เพลง ‘วัยเด็ก’ ที่เพิ่งติดอันดับหนึ่งในชาร์ตจัดอันดับเพลงจีน ผู้เขียนคิดว่านี่คือหนึ่งในผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของลู่เฉิน ยามที่ได้ฟังเพลงนี้ ไม่เพียงแต่รู้สึกบาดลึกหัวใจ แต่ยังนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านเลยไปเป็นอย่างมากคิดถึงช่วงวัยเด็กที่แสนมึนงง
พวกเราค่อยๆ เติบโต พวกเราจำต้องประนีประนอมกับการเติบใหญ่อย่างช่วยไม่ได้ ความทรงจำตอนนั้นถูกสิ่งต่างๆ กลบเกลื่อน แต่วัยเยาว์จะอยู่กลางใจไม่จางหายตลอดไป บทเพลงนี้กำลังเรียกความทรงจำของพวกเรากลับมา
ทุกวันหลังเลิกงาน สิ่งแรกที่ทำเมื่อวิ่งมาถึงร้านอินเทอร์เน็ตก็คือล็อกอินเข้าล่างฉาวบุ๊ก อ่านตอนใหม่ล่าสุดของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ และแชร์ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่านกับเพื่อนๆ ที่ชอบหนังสือเล่มนี้เหมือนกัน
ในฐานะแฟนคลับตัวยง หวังผู่จึงอยากรู้จัก ‘อี้จินกู่’ นักเขียนหนังสือ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เป็นอย่างมาก เขาทิ้งข้อความไว้ในช่องสนทนาของเว็บไซต์และช่องวิจารณ์หนังสือ หวังว่าจะได้แอดเฟยซวิ่นของอีกฝ่าย พูดคุยเรื่องราวอะไรต่างๆ
แต่ข้อความของหวังผู่กลับไม่มีการตอบรับใดๆ นักเขียนคนนี้ถ่อมตัวมากจริงๆ นอกจากเนื้อหาที่ลงในแต่ละตอนแล้ว ก็ไม่เคยขอร้องให้แนะนำหรือเก็บสะสมอะไรเลย ช่องวิจารณ์หนังสือก็ไม่มีใครดูแล และเห็นได้ชัดว่าตั้งเวลาอัปเดตไว้ อัปเดตวันละสองตอนเวลาเดิมเหมือนกันทุกวัน
ในสถานการณ์เช่นนี้ หวังผู่จึงสร้างกลุ่มแชตกระบี่เย้ยยุทธจักรขึ้นมาด้วยตัวเอง ดึงเพื่อนๆ นักอ่านในกลุ่มเหล่าไป๋ที่ชอบเหมือนตัวเองเข้ามาทั้งหมด
ด้วยความทุ่มเทของเขา ตัวเลขของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ยอดคลิกเข้าชมเกินหนึ่งหมื่นครั้ง ยอดเก็บสะสมก็ห้าร้อยคนขึ้นไป การแสดงความคิดเห็นที่มีประโยชน์สามารถเบียดข้อความโฆษณาไร้สาระได้ทั้งหมด…
แต่ก็ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ดี
หวังผู่ไม่พอใจมากๆ เขายังคงดื้อรั้นหัวแข็งคิดว่าหนังสือเล่มนี้ควรจะมีนักอ่านเห็นมากกว่านี้ ไม่ควรถูกฝังอยู่ภายใต้ผลงานใหม่มากมาย ดังนั้นเขาจึงช่วยแปะโฆษณา ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เข้าไปในกลุ่มเพื่อนๆ
แปะโฆษณานั้นง่ายมาก ก็คือเขียนข้อความโฆษณาและบทวิจารณ์หนังสือล่วงหน้าสองสามบท จากนั้นก็ใช้ไอดีที่ต่างกันโพสต์ลงไปในช่องวิจารณ์หนังสือดังของเว็บไซต์หนังสือ ฟอรัมนิยาย และตามหน้าเว็บ
พฤติกรรมแบบนี้ ถูกคนเรียกว่าโฆษณาชวนเชื่อ เดิมทีหวังผู่รำคาญมาก
แต่เพื่อ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เขายินดีลดศักดิ์ศรีของตัวเอง เพราะเขาเป็นแฟนหนังสือที่แท้จริงคนหนึ่ง!
…………………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar