ตอนที่ 39 ในฤดูใบไม้ผลิ
ลู่เฉินไม่เคยคิดมาก่อน
ว่าวันหนึ่ง เขาจะได้มายืนในสถานที่แบบนี้ และร้องเพลงให้ผู้ชมจำนวนมากฟัง
สปอร์ตไลท์แสงสว่างจ้าตาส่องมาที่ตัว หัวใจของลู่เฉินกลับสงบอย่างน่าประหลาด
แต่ที่ไม่สงบก็คือบรรดาแฟนคลับมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นคนที่อยู่ในห้องถ่ายทอดสดลู่เฟยของ ‘จิงอวี๋ทีวี’!
“ท่านลู่เฟยขึ้นเวทีแล้ว!”
“ฉันเห็นแล้ว!”
“ฉันตื่นเต้นจังๆๆๆๆ!”
“ผู้ดำเนินรายการหลักสู้ๆ พวกเราสนับสนุนคุณ สนับสนุนตลอดไป!”
“ผู้ดำเนินรายการหลักสุดเจ๋ง…”
ส่วนหลี่เฟยอวี่พิธีกรหน้างาน กลับไม่ดูหน้าจอเลยด้วยซ้ำ
เขายกตัวขึ้นมา จ้องสายตาไปด้านหน้าเวที เบิกตาโตกว่าปกติ กำหมัดขวาแล้วอุดปากของตัวเองเอาไว้ เหมือนจะมีอะไรพุ่งออกมา มีเพียงการทำแบบนี้ถึงจะควบคุมอารมณ์ได้
ตื่นเต้น ตื่นเต้นสุดๆ ราวกับว่า ณ ตอนนี้ ตัวเขาเองที่ยืนอยู่ตรงนั้น!
ตำแหน่งที่หลี่เฟยอวี่อยู่สูงขึ้นไปสามเมตรห้าสิบเซนติเมตร ชั้นบนสุดของโซนวีไอพี เหล่าคนในวงการต่างก็พูดคุยถึงการแสดงที่เพิ่งจบไปของวงเฟยตู้ พวกเขาชื่นชมและยอมรับการแสดงของเฉิงเสี่ยวตง คำวิจารณ์คือเป็นวงและนักร้องที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้
ซูชิงเหมยกลับไม่สนใจ เธอดึงมือของต่งอวี่แล้วพูดว่า “หมอนั่นขึ้นเวทีแล้ว พี่รอดูอะไรสนุกๆ ก็แล้วกัน!”
เธอยิ้มมุมปาก ยิ้มสวยแพรวพราว เหมือนกับจิ้งจอกที่เล็งลูกไก่ตัวน้อยไว้
ต่งอวี่จนปัญญาจริงๆ
“เธอไหวไหมเนี่ย ต่อให้เขาร้องไม่ดี แล้วเธอจะได้อะไร ระบายอารมณ์เรอะ”
“พี่อวี่ คนอย่างฉันดูต่ำขนาดนั้นเลยเหรอ”
ซูชิงเหมยพูดอย่างเย่อหยิ่ง “ฉันโจมตีเขา เพื่ออยากให้เขารู้จักฐานะที่แท้จริงของตัวเอง จากนั้นฉันก็จะให้เขาเซ็นสัญญาแล้วจัดการฝึกให้เป็นอย่างดี เพราะมีแต่คนที่ผ่านการล้มเหลวมาเท่านั้นถึงจะรู้จักคุณค่า!”
ต่งอวี่หมดคำพูด
แท้จริงแล้วซูชิงเหมยยังอยากพูดว่า สิ่งที่เธอเตรียมให้ลู่เฉินไม่ใช่แค่เพียงการขึ้นแสดงเรียกน้ำย่อยแบบนี้เท่านั้น
อาหารมื้อหลักยังอยู่ข้างหลัง!
การแสดงของงานเงียบลงอย่างรวดเร็ว ความสนุกครื้นเครงจากวงเฟยตู้และเฉิงเสี่ยวตงที่มีอยู่พลันหมดลงทันที ผู้ชมกว่าสองพันคนมองลู่เฉินถือกีตาร์ขึ้นมาบนเวที บ้างก็ประหลาดใจบ้างก็สงสัย บ้างก็งงหรือไม่ก็หงุดหงิด
ผู้ที่ออกมาแสดงก่อนหน้าลู่เฉินล้วนมากันเป็นทีม ถ้าไม่ใช่วงดนตรีที่สมบูรณ์ ก็จะเป็นนักร้องที่มีวงดนตรีเล่น ประกอบ แต่ไม่มีใครที่เดินถือกีตาร์ไม้ขึ้นมาบนเวทีเหมือนกับเขา
หรือว่าลู่เฉินจะเตรียมร้องเพลงรักหรือไม่ก็เพลงบัลลาด
เพลงที่นุ่มนวลไม่มีแรงแบบนี้ เหมาะสมกับบรรยากาศในงานนี้?
ต้องใช้ความกล้ามากเท่าไรเขาถึงกล้ามายืนต่อหน้าทุกคนแบบนี้
ผู้ชมมากมายรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองถูกทำเสียบรรยากาศแล้ว จึงไม่ค่อยพอใจ กระทั่งมีเสียงโห่ร้องปรากฏอยู่ในกลุ่มผู้คน
ถึงแม้ผู้ชมจำนวนมากจะยังมีมารยาทอยู่ก็ตาม อย่างน้อยก่อนที่ลู่เฉินจะร้องเพลงพวกเขาก็ไม่โวยวาย แต่เสียงร้องโห่ที่ออกมาจากคนสามสี่คน ฟังดูแล้วก็แสลงหูเป็นพิเศษ
ความกดดันขนาดมหึมาที่มองไม่เห็นส่งมาถึงคนที่ยืนอยู่บนเวที!
ลู่เฉินไม่สนใจเสียงโห่ร้อง เขาพูดกับไมค์ว่า “สวัสดีตอนค่ำทุกคนนะครับ ผมลู่เฉินมาจากบาร์เดย์ลิลลี่ ผมขอมอบผลงานเพลงที่แต่งใหม่ของผมให้กับทุกคน และผมก็ร้องเพลงนี้ในที่สาธารณะเป็นครั้งแรกครับ”
“ชื่อเพลงคือ ในฤดูใบไม้ผลิ!”
เพลงที่แต่งใหม่ ร้องเป็นครั้งแรก ในฤดูใบไม้ผลิ?
ผู้ชมที่อยู่ในงานได้ยินแล้วก็งงเล็กน้อย รู้สึกว่าปริมาณข้อมูลน้อยเกินไป
ลู่เฉินไม่ได้อธิบายอีก และดีดกีตาร์บรรเลงทันที
วินาทีที่สายกีตาร์ขยับ สายตาของเขามองไปที่พื้นที่ว่างเปล่า ราวกับมีเปลวไฟกระโดดไปมาอยู่ในนัยน์ตาที่ดำสนิท
ความทรงจำนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาในหัวของลู่เฉิน นั่นคือความทรงจำของสวี่ป๋อ
เปลวไฟที่อยู่ในนัยน์ตากลายเป็นเหมือนคนที่ผ่านประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกมาอย่างโชกโชน เสียงเพลงที่ทุ้มแหบดังออกมา!
“ยังจำฤดูใบไม้ผลิเมื่อหลายปีก่อนได้
ฉันในตอนนั้นยังไว้ผมยาว
ยังไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ไม่มีเธอ
บ้านที่ไม่มีน้ำร้อนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
แต่ฉันในตอนแรกนั้นมีความสุขมาก
ถึงแม้จะมีเพียงกีตาร์ไม้เก่าๆ ตัวเดียว
บนถนน ใต้สะพาน ในทุ่งนา
ก็ยังร้องเพลงที่ไม่มีใครสนใจ!
…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar