ตอนที่ 424 เกาะกิน
กลางราตรี รถเบนซ์คันสีดำแล่นออกมาจากปี้เฟิงถังในย่านอ่าวถงหลัว ผ่านทางย่านที่จะเข้าสู่เกาะฮ่องกงไปทางทิศตะวันออกจนถึงเขตอ่าวน้ำตื้น
ภายในเวลาสิบนาทีเท่านั้น ฉากที่เห็นเปลี่ยนแปลงแตกต่างอย่างสิ้นเชิง!
อ่าวน้ำตื้นหรือรีพัลส์เบย์ตั้งอยู่ที่เขาไท่ผิงทางทิศใต้ของเกาะฮ่องกง จรดภูเขาและทะเล ปากอ่าวเป็นรูปจันทร์เสี้ยว ได้รับการขนานนามว่า ‘อ่าวอันดับหนึ่งของปฐพี’ และได้รับยกย่องว่าเป็น ‘ฮาวายตะวันออก’ เป็นอ่าวที่สวยที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกง
ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นเขตที่พักอาศัยระดับสูง มีแต่บ้านหรูหราโอ่อ่า รอบข้างรายล้อมด้วยโรงแรมห้าดาว โอเชียนปาร์ค สนามกอล์ฟ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เป็นต้น
ที่พักในเซียงเจียงของลู่เฉินอยู่ที่วั่นจิ่นคอนโดมิเนียม ถนนอ่าวน้ำตื้น เลขที่ 268
“เพื่อนของคุณต้องเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์มากแน่ๆ ถึงซื้อบ้านที่นี่เอาไว้”
วั่นเสี่ยวเฉวียนที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับเอ่ยกึ่งจริงจังกึ่งหยอกล้อลู่เฉิน “ราคาบ้านตอนนี้ ผมหาเงินทั้งชีวิตไม่กินไม่ใช้อะไรเลยก็ยังไม่พอ!”
เดิมทีลู่เฉินให้ผู้ช่วยจางเสี่ยวฟางมาส่งเขาก็พอ แม้จางเสี่ยวฟางจะมาที่เซียงเจียงเป็นครั้งแรก แต่บนรถยนต์ได้ติดตั้งระบบจีพีเอสเอาไว้เรียบร้อย ไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทาง
แต่วั่นเสี่ยวเฉวียนไม่วางใจ และยังมีเรื่องที่ต้องพูดกับลู่เฉินอีก จึงขึ้นมาบนรถด้วย
ลู่เฉินยิ้ม “ถ้างานที่นี่ไปได้สวยละก็ ผมคิดว่าอีกไม่นานคุณก็คงซื้อบ้านได้!”
บ้านในย่านอ่าวน้ำตื้นราคาแพงที่สุด เมื่อสิบปีก่อนเฉินเฟยเอ๋อร์ซื้อบ้านที่มีพื้นที่เพียง 137 ตารางเมตร ถึงกับจ่ายเงินเก็บทั้งหมดที่เธอมี แถมยังต้องทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารอีก
เวลาผ่านไปสิบปี บ้านหลังนี้ราคาดีดตัวสูงขึ้นสิบกว่าเท่า ถ้าคิดถึงกำไรของการลงทุน ก็แทบไม่มีธุรกิจไหนที่เทียบเท่าได้
สิบกว่าปีก่อน ดาราศิลปินจากจีนแผ่นใหญ่เริ่มเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเซียงเจียง บางคนถึงขั้นย้ายสัญชาติมาเลย ราคาบ้านและที่ดินในเซียงเจียงจึงเกิดการยกระดับเพิ่มสูงขึ้น
เฉินเฟยเอ๋อร์ซื้อบ้านในเซียงเจียงทั้งหมดสามแห่ง อีกสองแห่งเธอได้ขายทอดตลาดไปแล้วตั้งแต่ราคาดีดตัวขึ้นจนเธอได้กำไร บ้านที่อ่าวน้ำตื้นนี้เธอชอบที่สุด จึงเก็บเอาไว้มาพักผ่อน
ตอนนี้เป็นโชคของลู่เฉินไป ไม่อย่างนั้นหากเช่าห้องพักใหญ่ขนาดนี้และมีทำเลที่ตั้งดีเท่านี้ในเซียงเจียง ค่าเช่าแต่ละเดือนคงเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ
วั่นเสี่ยวเฉวียนส่ายหัว “ซื้อบ้านที่นี่หลังหนึ่ง เท่ากับซื้อบ้านที่ปักกิ่งได้สองสามหลัง”
ลู่เฉินกล่าวว่า “อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องบ้านเลยครับ อยู่ในเซียงเจียงไม่มีรถไม่ได้ เอาอย่างนี้ คุณกับลุงเฉียงไปซื้อรถบีเอ็มมาสองคัน บิลเข้าบริษัท เอาไว้ให้พวกคุณใช้เวลาทำงาน”
ลู่เฉินไม่ใช่คนตระหนี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้การถ่ายทำละครเรื่องหนึ่งได้สร้างรายได้เป็นหลักร้อยล้านให้เขา ซื้อรถยนต์แค่สองคันขนหน้าแข้งไม่ร่วง
วั่นเสี่ยวเฉวียนเป็นผู้อำนวยการศิลป์และผู้กำกับหนังให้กับสตูดิโอลู่เฉินเซียงเจียงฟิล์มแอนด์ทีวี เฉินเหวินเฉียงเป็นผู้จัดการดูแลสตูดิโอ ทั้งสองคนมีหน้ามีตาเป็นตัวแทนของสตูดิโอ ถ้ารถยนต์สองคันที่ดูเข้าท่าหน่อยยังไม่มี เขาก็จะพลอยไร้สง่าราศีไปด้วย
คนเซียงเจียงเห็นแก่หน้าตา แม้แต่ผู้ประกอบการที่มีหนี้สินล้นตัวยังต้องมีรถยนต์หรูไว้ใช้ ไม่เช่นนั้นไม่มีทางออกไปเจรจาธุรกิจกับคนอื่นได้
วั่นเสี่ยวเฉวียนทั้งแปลกใจและซาบซึ้ง “แบบนี้ไม่ดีหรอก”
วั่นเสี่ยวเฉวียนจำเป็นต้องใช้รถจริง แต่ลู่เฉินออกรถบีเอ็มให้เขาดูจะน่าหวาดเกรงเกินไป
เพราะเขามาที่เซียงเจียงก็เพื่อก่อตั้งสตูดิโอผลิตหนัง เงินใช้จ่ายเหมือนละลายน้ำอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันถ่ายหนังสักเรื่อง มักจะรู้สึกว่าความพยายามของตัวเองยังไม่เพียงพอที่จะตอบแทนให้กับลู่เฉิน
ลู่เฉินหัวเราะ “ไม่ดีตรงไหน เอาแบบนี้แหละครับ พรุ่งนี้ไปดูที่ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรกัน”
เห็นลู่เฉินดึงดันแบบนี้ วั่นเสี่ยวเฉวียนได้แต่น้อมรับความหวังดีของลู่เฉิน
แต่ในใจของเขา ยิ่งรู้สึกอยากทำงานและมีความเชื่อมั่นในตัวลู่เฉินอย่างหนักแน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar