ตอนที่ 470 คำมั่นสัญญา
สโมสรป๋อรุ่ยเป็นกิจการของตระกูลหลี่ในเมืองหลวง วัตถุประสงค์แรกเริ่มมันถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อฝึกซ้อมบอดี้การ์ดและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในสโมสรมีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามต่อสู้ สนามยิงปืน เป็นต้น อุปกรณ์ทั้งหมดล้วนทันสมัย
ครูฝึกและพนักงานในสโมสรส่วนใหญ่เป็นทหารปลดประจำการ บอดี้การ์ดที่ผ่านการฝึกนอกจากเพื่อสนองความต้องการของตระกูลหลี่แล้ว ยังรับงานภารกิจข้างนอกอีกนิดหน่อย ดังนั้นคนที่เหลืออยู่ในสโมสรจึงมีอยู่ไม่น้อย
เมื่อปีที่แล้ว หลี่มู่ซือพาลู่เฉินมาเที่ยวที่สโมสรป๋อรุ่ย ที่นี่มีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่พิเศษ ทำให้เขาเกิดไอเดียหนึ่งขึ้น ทั้งยังทำให้มันเป็นจริง
นั่นก็คือลู่เฉินได้รวบรวมกำลังพลขึ้นกลุ่มหนึ่งในสโมสรป๋อรุ่ย แล้วทำการฝึกซ้อมตามแผนของเขา
กองพลนี้ไม่ได้ใช้เพื่อคุ้มกันลู่เฉิน เขายังไม่จำเป็นต้องใช้งานอะไรใหญ่โตแบบนั้น แต่ต้องการใช้ในการถ่ายทำหนังกำลังภายใน!
หนังแอ็กชันกำลังภายในที่ลู่เฉินต้องการถ่ายทำมีที่มาจากโลกของความฝัน ซึ่งมีภาพยนตร์แอกชันกำลังภายในที่โดดเด่นและเป็นตำนานอยู่นับไม่ถ้วน ล้วนเป็นผลงานที่ทำให้คนเลือดร้อน
โครงการผลงานลิขสิทธิ์ขนาดใหญ่ของลู่เฉินเกี่ยวข้องกับความทรงจำเหล่านี้ เขาอยากจะสร้างตำนานในโลกแห่งความฝันให้เกิดขึ้นจริง ทุกอย่างล้วนมีพร้อมแล้ว มีเพียงนักแสดงหนังบู๊เท่านั้นที่หายาก
ในโลกของลู่เฉินเอง หนังกำลังภายในปรากฏให้เห็นทั้งในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ เพียงแค่มีให้เห็นแต่ไม่ได้โด่งดังจนเป็นกระแส ตอนนี้หนังแนวแฟนตาซีเหนือธรรมชาติที่ใช้เทคนิคพิเศษหวือหวาอลังการกำลังเป็นที่นิยมไปทั่ว
ส่วนแนวแอกชัน สถานการณ์ดีกว่าแนวกำลังภายในนิดหน่อย แต่ยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนดูเล็กๆ ตลาดภาพยนตร์ในประเทศทุกวันนี้ นิยมภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องดัง ภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ และภาพยนตร์แนวแฟนตาซีเป็นหลัก
ส่วนแบ่งทางการตลาดอันล้นเหลือ ทำให้ภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เรื่องหนึ่งสามารถทำรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศเป็นร้อยเป็นพันล้านได้อย่างง่ายดาย แต่แน่นอนว่าการแข่งขันย่อมดุเดือดเป็นพิเศษ โดยพื้นฐานแล้วส่วนแบ่งตกอยู่ในมือของยักษ์ใหญ่ในวงการ
ดังนั้นเมื่อลู่เฉินอยากได้ส่วนแบ่งในตลาดภาพยนตร์ ทั้งยังต้องการควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ก็ต้องหาวิธีอื่น เขาเลือกที่จะไปฮ่องกงเลือกโอกาสที่เหมาะสม อาศัยการฝึกฝนคนที่สโมสรป๋อรุ่ยเพื่อเตรียมการล่วงหน้าสำหรับอนาคต
กองพลนี้ทั้งหมดมีสิบสองคน ค่าใช้จ่ายในการฝึกและเงินเดือนของทุกคนลู่เฉินเป็นคนดูแลทั้งหมด ผ่านการฝึกซ้อมมาครบปีแล้ว ก็ควรจะพาไปลงสนามจริง
คนกลุ่มนี้ก็คือ ‘ทีมตระกูลลู่’ ของลู่เฉิน!
ลู่เฉินไม่คิดว่าหลี่มู่ซือจะถามเรื่องนี้ขึ้นมา เขาถามอย่างประหลาดใจว่า “คุณรู้ได้ยังไง”
“อย่าคิดว่าฉันปัญญาอ่อนสิ!”
หลี่มู่ซือถลึงตาใส่ลู่เฉิน “ถึงฉันจะไม่เข้าใจสายงานนี้ แต่รู้ว่านายจ่ายเงินเพื่อเลี้ยงคนกลุ่มนี้ไม่ใช่เลี้ยงไว้ดูเล่น ตอนนี้นายวิ่งไปถ่ายหนังถึงฮ่องกง พวกเขาก็ต้องไปช่วยอยู่แล้วใช่ปะ”
ลู่เฉินนับถือ “ใช่แล้ว หนังเรื่องแรกของผมที่ฮ่องกงใกล้จะเปิดกล้องแล้ว ขาดพวกเขาไม่ได้”
หลี่มู่ซือพยักหน้า “ความจริงทุกคนเดาได้ตั้งนานแล้ว นายไม่ต้องบอก หัวใจของพวกเขากำลังร้อนรน เป็นคนที่ออกมาจากกองทัพทั้งนั้น ไม่มีใครอยากกินข้าวฟรีหรอก”
“ในเมื่อนายให้โอกาสพวกเขา ก็ต้องปฏิบัติต่อพวกเขาดีๆ อย่าให้พวกเขาผิดหวัง”
“พวกเขาจะใช้ความพยายามและความซื่อสัตย์เป็นสิ่งตอบแทน!”
ประโยคสุดท้ายหลี่มู่ซือกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ลู่เฉินก็ทำท่าจริงจังขึ้น “คุณวางใจเถอะ ผมไม่ทำให้คนของผมผิดหวังหรอก!”
ลู่เฉินไม่ได้พูดปากเปล่า ตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์ในความฝันอันแสนประหลาด จนกระทั่งเข้าสู่เส้นทางวงการบันเทิง คนที่ติดตามและเชื่อใจเขาไม่เคยมีใครผิดหวังมาก่อน
ลู่เฉินยอมเสียทั้งพละกำลังและค่าตอบแทนที่สูงเพื่อสร้างทีมตระกูลลู่ขึ้นมา เขาย่อมเห็นความสำคัญมากกว่าหลี่มู่ซือแน่นอน
“งั้นก็ดี…”
หลี่มู่ซือหัวเราะ “ฉันเชื่อในคำมั่นของนาย ความจริงคนที่อยากทำงานกับนายมีเยอะแยะ วั่นหย่งก็อยากไปถ่ายหนัง เขาถามฉันหลายรอบแล้ว!”
วั่นหย่งเป็นครูฝึกสอนที่รับผิดชอบเรื่องการสอนหมัดมวย เขาอายุ 35 ปี เป็นทหารมาสิบปี เคยได้รับรางวัลแข่งขันการต่อสู้ของกองทัพด้วย หลี่มู่ซือจึงให้ความสำคัญกับเขามากเป็นพิเศษ
ในสโมสรป๋อรุ่ย วั่นหย่งเป็นเหมือนเสาหลักใหญ่ ในเมื่อหลี่มู่ซือยอมปล่อยตัวเขาก็ยิ่งทำให้ลู่เฉินประหลาดใจ “คุณไม่เสียดายเหรอ”
หลี่มู่ซือตอบ “ไม่ได้เสียดายอะไรหรอก ที่สำคัญคือเขามีความคิดแบบนี้ ตอนที่ฉันเชิญเขามาก็เคยรับปากไว้ว่าจะอยู่จะไปแล้วแต่เขา ฉันจะไม่ผิดคำสัญญาหรอก”
ลู่เฉินตอบรับ “งั้นได้ ผมไปถามเขาก่อน ถ้าเขามาช่วยงานผมได้ยิ่งดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar