ตอนที่ 493 คุ้มครองสัตว์เลี้ยง
ใช้แมวตายสุนัขตายมาข่มขวัญ เป็นวิธีที่แก๊งมาเฟียใช้กันเป็นประจำ
เมื่อก่อนคนของแก๊งจะปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง คนที่ติดหนี้คืนเงินไม่ได้ ขั้นแรกมักจะเอาแมวตายเลือดท่วมตัวไปแขวนไว้ที่หน้าประตูบ้านของอีกฝ่าย เพื่อบอกว่าหากยังไม่คืนเงิน ก็จะเป็นเหมือนแมวที่น่าสงสารตัวนี้
หลังจากแก๊งอั้งยี่ถูกปราบปรามอย่างหนัก แก๊งเหล่านี้จึงเปลี่ยนจากที่แจ้งไปที่ลับ การทวงหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยสูงในปัจจุบันใช้วิธีนี้น้อยมาก เปลี่ยนเป็นสาดสีแดงเขียนตัวหนังสือขนาดใหญ่หน้าประตูบ้านแทน โดยมีจุดประสงค์เหมือนกัน
แต่วิธีข่มขู่โดยแมวตายสุนัขตายยังไม่สูญหายไป ดังนั้นนักข่าวที่อยู่ในงานมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร กองถ่าย ‘โปเยโปโลเย’ ล่วงเกินคนของหงหวา จึงถูกอีกฝ่ายแก้แค้นก่อกวน
นี่คือวิธีที่น่ารังเกียจขยะแขยงมากอย่างไม่ต้องสงสัย
ปัญหาสำคัญคือ รูปภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโปรเจกเตอร์ถ่ายได้น่ากลัวมากจริงๆ ทำให้ผู้คนรู้สึกกลัวจนคืนนี้ต้องนอนหลับฝันร้ายแน่นอน ดังนั้นแม้แต่พวกนักข่าวที่มีความรู้และประสบการณ์มาก ก็อดตกใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
วินาทีต่อมา รูปภาพบนหน้าจอถูกเปลี่ยน เป็นภาพที่มีคาวเลือดมากเหมือนเดิม และยังมีเลือดสุนัขหนึ่งถัง!
จากนั้นจึงได้ยินแต่เสียงที่หนักอึ้งของลู่เฉิน “ฮ่องกงเป็นดินแดนของกฎหมาย และเป็นพื้นที่ของอารยธรรมและวัฒนธรรม คนฮ่องกงสมัยใหม่มีอารยธรรมและมีคุณภาพ ตอนที่ผมอยู่ประเทศจีนก็เคยได้ยินว่า ฮ่องกงมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์ขนาดเล็กและสัตว์เลี้ยง แถมยังก่อตั้งสมาคมคุ้มครองสัตว์เลี้ยงอีก แม้ว่าจะเป็นสุนัขจรจัดตัวหนึ่งก็ยังได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม”
“ทว่าสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงก็คือ กลางวันแสกๆ กลับมีคนใช้ความคิดชั่ววูบ ฆ่าแมวและสุนัขที่บริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยมแบบนี้แม้แต่สวรรค์ก็ไม่ให้อภัย!”
มาถึงตอนนี้แล้ว จุดประสงค์ในการจัดงานแถลงข่าวของลู่เฉินได้ถูกเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้ง
เฉินเหวินเฉียงตัวแทนของกองถ่ายได้เล่าความเป็นมาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว ลู่เฉินจึงไม่ต้องอธิบายอย่างละเอียดอีก และเขาก็ไม่ได้แผดเสียงแหบแห้งประณามพฤติกรรมก่อความรำคาญของหงหวาที่ปฏิบัติต่อกองถ่ายภาพยนตร์แต่อย่างใด แต่เน้นการประณามไปที่การทารุณสัตว์เล็ก
ถือว่าเกินความคาดหมายจริงๆ!
พวกนักข่าวที่อยู่ในงานก็ไม่ใช่คนโง่ ถ้าหากเดาเจตนาของลู่เฉินไม่ออก อย่างนั้นก็อย่าทำมาหากินในวงการนี้อีกเลย เพราะไอคิวต่ำแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงอนาคตเลยด้วยซ้ำ
ถ้าหากลู่เฉินให้ความสำคัญไปที่ความขัดแย้งของกองถ่ายกับหงหวา หวังว่าจะใช้สื่อกดทับอีกฝ่าย พูดความจริงหากทำแบบนั้นไม่มีผลมากเท่าไรนักหรอก
สื่อก็มีความเฉลียวฉลาดและเน้นความเป็นจริงมาก โจวอี้ใช้เส้นสาย เพื่อให้นักข่าวของหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์รีบมาร่วมงานแถลงข่าวที่กองถ่าย ถือว่าทำเต็มที่ที่สุดแล้ว
ก้าวต่อไปถ้าอยากให้สื่อต่างๆ ส่งเสียงสนับสนุนในขณะเดียวกัน จำเป็นต้องใช้พลังที่ใหญ่มาก นอกจากนี้การทำข่าวก็ต้องมีประเด็นร้อนและจุดที่สร้างกระแสได้ กองถ่าย ‘โปเยโปโลเย’ ถูกกลั่นแกล้งเห็นได้ชัดว่ายังห่างจากเกณฑ์มาตรฐานอีกไกลนัก
ที่สำคัญที่สุดคือ ลู่เฉินมาจากประเทศจีน คนฮ่องกงจำนวนมากไม่ค่อยรับคนต่างชาติเข้ากลุ่ม เขาที่เป็นตัวแทนของกองถ่ายเกิดการปะทะกับแก๊งเจ้าถิ่น เกรงว่าใครหลายคนน่าจะสะใจมากกว่า และยินดีที่จะรอดูฉากสนุกๆ
พอพวกนักข่าวกลับไป ก็จะลงข่าวขนาดใหญ่เท่าเต้าหู้ในมุมหนึ่งของหนังสือพิมพ์ พูดถึงเรื่องนี้สักสองสามประโยคถือว่าเป็นการไว้หน้ามากแล้ว เพราะข่าวนี้ไม่มีผลต่อการแสดงความคิดเห็นสาธารณะเลยด้วยซ้ำไป
ทว่าเหตุการณ์ในตอนนี้กลับไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง!
“ดังนั้น…”
ลู่เฉินหันมา สายตาของเขามองไปที่ผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านขวาสุดของแท่นประธาน จากนั้นก็พูดต่อว่า “ผมจึงเชิญคุณเฝิงเจินอวิ๋นรองประธานสมาคมคุ้มครองสัตว์เลี้ยงแห่งฮ่องกงมาด้วยความจริงใจ ต่อจากนี้ขอเชิญคุณเฝิงช่วยกล่าวอะไรหน่อยครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar