(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 503

สรุปบท ตอนที่ 503 ความจริงปรากฏออกมาอย่างชัดเจน: (นิยายแปล) Perfect Superstar

ตอนที่ 503 ความจริงปรากฏออกมาอย่างชัดเจน – ตอนที่ต้องอ่านของ (นิยายแปล) Perfect Superstar

ตอนนี้ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายSlice of Lifeทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 503 ความจริงปรากฏออกมาอย่างชัดเจน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 503 ความจริงปรากฏออกมาอย่างชัดเจน

เมื่อคาดเดาประวัติของหลี่มู่ไป๋ออกแล้ว เจี่ยงเฉิงหวาไม่เพียงแต่เจ็บไข่ แต่ยังปวดศีรษะหนักเข้าไปอีก

เขาสวมหมวกสีเทาเข้มใบหนึ่งตลอดเวลา ถึงแม้ลู่เฉินและคนอื่นๆ มาแล้วก็ยังไม่ถอดออก ไม่ใช่เพราะเจี่ยงเฉิงหวาไม่มีมารยาท และไม่ใช่เพราะเขาไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา แต่เป็นเพราะหมวกใบนี้ช่วยปิดบังผ้าพันแผลที่อยู่บนศีรษะของเขาต่างหาก

เจี่ยงไท่ใช้ที่เขี่ยบุหรี่เขวี้ยงใส่แรงมาก ไม่เพียงแต่ทำให้ศีรษะของเจี่ยงเฉิงหวาแตก แต่ยังมีผลทำให้หัวกะโหลกของเขาแตกเล็กน้อยและสมองได้รับความกระทบกระเทือน ถ้าหากไม่ใช่เพราะต้องจัดงานเลี้ยงขอโทษ เกรงว่าตอนนี้เขาคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว

ดังนั้นเจี่ยงเฉิงหวาจึงรู้ดี ตอนที่พ่อของเขาโกรธมากขนาดนี้ คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากคนที่นั่งหัวเราะคิกคักอยู่ตรงหน้านี้นั่นเอง ดูแล้วไม่มีท่าทางของคุณชายอะไรเลย!

เมื่อรู้ฐานะของหลี่มู่ไป๋แล้ว ท่าทีของเจี่ยงเฉิงหวาจึงยิ่งระมัดระวังและเกรงใจมากขึ้น

เขากลืนน้ำลายขมๆ หนึ่งที ลุกขึ้นยืนหยิบกาน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเทใส่แก้วน้ำชาอย่างช้าๆ

จากนั้นคุณชายเจี่ยงที่เกรี้ยวกราดหัวแข็งดื้อรั้นมาตลอดก็ใช้สองมือยกน้ำชายื่นไปตรงหน้าลู่เฉิน แล้วเอ่ยว่า “คุณลู่ ผมนายเจี่ยงมีตาหามีแววไม่ ที่ผมล่วงเกินคุณก่อนหน้านี้ ขอให้คุณลู่ได้โปรดให้อภัยด้วยครับ!”

น้ำชาถ้วยนี้มีความพิถีพิถันมาก มันหมายถึงเจี่ยงเฉิงหวากำลังแสดงท่าทางขอโทษอย่างเป็นทางการ ซึ่งเท่ากับเอาหนังหน้าของตัวเองแบลงพื้น ก็ต้องดูว่าลู่เฉินจะตอบสนองอย่างไร

ถ้าหากลู่เฉินไม่พอใจไม่ยอมรับ ปฏิเสธน้ำชาถ้วยนี้ ก็เท่ากับว่าเหยียบหนังหน้าของเจี่ยงเฉิงหวาอย่างแรง ทั้งสองฝ่ายไม่ตายไม่เลิกรา

แน่นอนมีเงื่อนไขว่าเจี่ยงเฉิงหวาต้องมีกำลังต่อสู้ไม่สิ้นสุด ไม่อย่างนั้นก็ต้องขายหน้า อยู่ในวงการไม่ได้อีก

ลู่เฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง

ก่อนหน้านั้นหงหวาของเจี่ยงเฉิงหวามาหาเรื่องเขามากมาย ทำให้การถ่ายทำของกองถ่ายต้องหยุดชะงัก ถ้าหากยอมให้อภัยอีกฝ่ายง่ายดายนัก เช่นนั้นเขาก็ลดฐานะของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่มู่ไป๋ทำเสียง ‘เชอะ’ หนึ่งที เคาะนิ้วมือที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วพูดเหน็บแนมด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “น้ำชาถ้วยเดียวก็จบเรื่องแล้วเรอะ บนโลกนี้มีเรื่องง่ายๆ แบบนี้ด้วยเหรอ! คราวหน้าผมจะเอาหมาตายสองตัวไปโยนทิ้งในโรงงานฟู่หยวนกับเผิงเฟยบ้าง อย่างมากแค่รินน้ำชาก็หายโกรธแล้ว”

เจี่ยงเฉิงหวารู้สึกหวาดกลัวในใจ ในที่สุดก็มั่นใจตัวตนของหลี่มู่ไป๋มิผิดแน่

ฟู่หยวนกับเผิงเฟยเป็นโรงงานใหญ่สองแห่งของตระกูลเจี่ยงที่ลงทุนสร้างในประเทศจีน ตอนนี้กำลังถูกกรมสรรพากรและสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมตรวจสอบอยู่ ทำให้เจี่ยงไท่ตกอยู่ในแรงกดดันสุดขีด

เจี่ยงเฉิงหวารีบยิ้มเอ่ยทันที “คุณหลี่พูดจริงจังเกินไปแล้วครับ ผมยังเตรียมของขวัญชดเชยมาอีกด้วย”

เขาส่งสายตาทำสัญญาณ ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ด้านหลังจึงรีบยื่นซองบางๆ ซองหนึ่งให้กับลู่เฉินทันที

เจี่ยงเฉิงหวากล่าวว่า “การขอโทษเล็กๆ น้อยๆ อาจจริงใจไม่พอ ขอให้คุณลู่ได้โปรดรับไว้ด้วยนะครับ”

ลู่เฉินมองหลี่มู่ไป๋หนึ่งครั้ง คนหลังพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงเปิดซองทันที

สิ่งที่อยู่ในซองจดหมายคือเช็คเงินสดของธนาคารแห่งประเทศจีนใบหนึ่ง มูลค่าสิบล้าน

ลู่เฉินเพื่อตอบโต้กับหงหวา จึงบริจาคเงินห้าล้านให้กับสมาคมคุ้มครองสัตว์เลี้ยง เจี่ยงเฉิงหวาต้องรู้แน่นอน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงจ่ายเงินเป็นสองเท่าเพื่อขอขมาลาโทษ ถือว่ามีความจริงใจเป็นอย่างมาก

เวลานี้หลิ่วเจิ้งหาวจึงเอ่ยปากว่า “คุณลู่ เรื่องในครั้งนี้เสี่ยวเจี่ยงทำไม่ถูก แต่เขาก็ถูกคนอื่นยุยงส่งเสริม ดังนั้น…ทุกคนก็อะลุ่มอล่วยปรองดองกันเถอะนะ!”

สายตาของลู่เฉินเป็นประกาย ยัดเช็คธนาคารใบนี้กลับเข้าไปในซองแล้วให้จางเสี่ยวฟางเก็บไว้ เขายิ้มจางๆ แล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อคุณปู่ห้าพูดแล้ว อย่างนั้นผู้น้อยก็ต้องไว้หน้าอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็จบลงแค่นี้พอครับ”

ขณะที่พูด เขาก็รับถ้วยน้ำชาที่อยู่ในมือของเจี่ยงเฉิงหวา

เมื่อลู่เฉินรับถ้วยน้ำชาของเจี่ยงเฉิงหวา บรรยากาศภายในห้องนกกระเรียนจึงผ่อนคลายลงทันที หลิ่วเจิ้งหาว โจวอี้ และคนอื่นๆ เผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า

เหมือนดังที่หลิ่วเจิ้งหาวกล่าวไว้ ปรองดองจะเกิดทรัพย์ สามัคคีอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขจะนำพามาซึ่งทรัพย์สินตอนนี้ไม่ใช่ยุค 70-80 การตีรันฟันแทงใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว

“คุณรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงอยากสู้กับพวกเรา”

ลู่เฉินงงมาก หวาก้วนพิคเจอร์สเขาก็รู้จัก แต่เขาไม่รู้จักชุยซิ่งเสียนเลยด้วยซ้ำ ทั้งสองฝ่ายไม่เคยมีบุญคุณความแค้นใดๆ ต่อกัน

เจี่ยงเฉิงหวาแฉชุยซิ่งเสียนออกมาจนหมดเปลือก “อย่างแรกภาพยนตร์ที่พวกคุณถ่ายมันชนกับของพวกเขา ภาพยนตร์ของพวกคุณมีชื่อว่า ‘โปเยโปโลเย’ ภาพยนตร์ของพวกเขามีชื่อว่า ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’”

พลิกตำนานโปเยโปโลเย!

ลู่เฉินเข้าใจทันที ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ก็คือเรื่องราวใน ‘เรื่องประหลาดจากห้องหนังสือ’ เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายใช้ชื่อเรื่องที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ตอนที่ยื่นเสนอรายชื่อขอนโยบายสนับสนุน จึงต้องมีการแข่งขันกันโดยตรง

นโยบายสนับสนุนภาพยนตร์ใหม่ของฮ่องกงมีโควตาเพียงยี่สิบรายชื่อเท่านั้นในครั้งแรก เดิมทีการแข่งขันก็ดุเดือดมากอยู่แล้ว ภาพยนตร์ที่คล้ายกันดันมาปะทะกัน หวาก้วนพิคเจอร์สจึงมีเหตุผลที่จะจัดการ ‘โปเยโปโลเย’ ให้เสียหายโดยสิ้นเชิง

ลู่เฉินหัวเราะเยาะเย็นชาอย่างช่วยไม่ได้ “หวาก้วนพิคเจอร์สให้ความสำคัญกับผมมากจริงๆ นะครับ”

ไม่ว่าจะเป็นขนาดของกำลังหรือตำแหน่งในวงการ สตูดิโอลู่เฉินที่เพิ่งตั้งหลักในวงการภาพยนตร์ยังห่างจากหวาก้วนพิคเจอร์สไกลนัก แต่กลับกลายเป็นตัวขัดขวางของชุยซิ่งเสียนเสียได้ ลู่เฉินอยากจะบ้าตายจริงๆ

เจี่ยงเฉิงหวาลังเลเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ้อ ได้ยินว่าชุยซิ่งเสียนเคยจีบเฉินเฟยเอ๋อร์มาก่อนด้วย”

ลู่เฉินพูดไม่ออก

คนคนนี้ตามจีบเฉินเฟยเอ๋อร์ แต่คาดว่าคงจีบไม่ติดเลยพาลมาโกรธเขากระมัง

ตอนนี้ความจริงจึงปรากฏออกมาอย่างชัดเจน!

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar