ตอนที่ 632 ขายทิ้งแล้ว
จินหงเหว่ยล้มแล้วจริงๆ
ตอนที่ลู่เฉินได้รับข่าวนี้ เขาเพิ่งอัดรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ตอนใหม่ล่าสุดเสร็จ
โทรศัพท์สายตรงมาจากปักกิ่ง คนที่โทรมารายงานคือลู่ซี
เห็นได้ชัดมากว่าพี่สาวดีใจมาก ลู่เฉินสัมผัสถึงความรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นความโชคร้ายของคนอื่นได้เลย แม้จะอยู่ห่างไกลกันกว่าพันไมล์ก็ตาม
อันที่จริงจินหงเหว่ยก็ล้มแบบไม่เป็นธรรมไปสักหน่อย
ต้นเหตุของเรื่องราวก็คือสถานีโทรทัศน์เซียงหนานยุติความสัมพันธ์กับบริษัทเอเจนซี่จวี่ซิง ยิงเป้าไปยังโปรเจกต์ใหญ่ที่จินหงเหว่ยกำลังดำเนินการอยู่ ทำให้เกิดผลอย่างอื่นติดตามมาอีกมากมาย สุดท้ายก็ทำให้ผู้อาวุโสในวงการบันเทิงอย่างเขาตกเวทีไปเลย
เดิมทีเขาก็ไม่มีเรื่องราวอะไรมาก สถานีโทรทัศน์เซียงหนานยุติความสัมพันธ์อย่างมากก็แค่เริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้ง แต่เนื่องจากศัตรูของเขาในวงการบันเทิงมีมากมายเกินไป แล้วอีกอย่างก่อนหน้านี้เวลาเขาทำเรื่องอะไรก็ค่อนข้างกำเริบเสิบสานและบ้าอำนาจ สุดท้ายเมื่อถูกคนฟ้องร้องว่าสัญญาไม่เป็นธรรมหลอกลวง จึงถูกเชิญเข้าไปดื่มชาในสถานีตำรวจเสียแล้ว
จากนั้นเมื่อตำรวจเข้าตรวจค้นบริษัทเอเจนซี่ก็พบหลักฐานที่ผิดกฎหมายจำนวนมาก สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือพวกเขายังพบยาเสพติดจำนวนมากในบ้านของจินหงเหว่ยอีกด้วย
สิ่งนี้แทบเอาชีวิตของจินหงเหว่ยเลยจริงๆ ทัศนคติของประเทศจีนที่มีต่ออาชญากรรมยาเสพติดนั้นรุนแรงมากเสมอ ไม่ว่าอำนาจของจินหงเหว่ยจะแข็งแกร่งเพียงใด การแตะโดนเส้นสีแดงนี้ก็ถือเป็นความผิดร้ายแรงเช่นกัน
ยาเสพติดที่เขาแอบซ่อนไว้ในคฤหาสน์ไม่ได้มีไว้เพื่อให้ตัวเองใช้ แต่ถูกนำมาใช้เพื่อควบคุมดารานักแสดงหลายคนที่อยู่ใต้สังกัด วิธีการที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรในวงการบันเทิง แต่การถูกจับโดยที่หลักฐานมัดตัวแน่นหนาเช่นนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
ลู่ซีพูดว่า “ลำพังแค่ยาเสพติดเหล่านั้นที่เขาเก็บเอาไว้ อย่างน้อยก็ต้องจำคุกตลอดชีวิต”
จินหงเหว่ยมีเส้นสายกับเบื้องบนอยู่บ้าง แต่เส้นสายของเขาในเวลานี้ไม่เพียงแค่ช่วยเหลือเขาไม่ได้ กลับกลายเป็นยันต์สั่งตายสำหรับเขาเสียนี่ เรื่องร้ายๆ มากมายถูกแฉออกมา แต่มันถูกควบคุมข่าวสารไว้เท่านั้นเอง คนทั่วไปยังไม่ทราบเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้จินหงเหว่ยคงสิ้นชื่อแล้วจริงๆ คงต้องนอนคุกแน่ๆ แล้ว เอเจนซี่จวี่ซิงที่ลือชื่อในวงการบันเทิงก็คงต้องเป็นดั่งไม้ล้มเงาหายไปเสียแล้ว คงกลายเป็นเนื้อติดมันที่ผู้คนร่วมอาชีพต่างก็แย่งชิงมา
ว่ากันตามจริง หากไม่ใช่เพราะพี่สาวโทรศัพท์มาแจ้งเรื่องนี้ ลู่เฉินก็ใกล้จะลืมชื่อของจินหงเหว่ยผู้นี้ไปแล้วจริงๆ
แต่สำหรับสิ่งที่จินหงเหว่ยกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ลู่เฉินไม่มีทางให้ความเห็นใจแม้แต่เพียงนิดแน่นอน แต่กลับจะยิ่งรู้สึกสะใจ
ทำเรื่องที่ไร้คุณธรรมเอาไว้มากก็เท่ากับเป็นการรนหาที่ตายแล้ว เขาทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้มากมาย ได้รับผลของการกระทำตอนนี้ยังถือว่าสายไปเลย
สาเหตุที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ เรื่องที่ลู่ซีพูดต่อมาหลังจากนั้นจะเกี่ยวข้องกับเขา
นั่นก็คือเรื่องที่สถานีโทรทัศน์เซียงหนานยุติความร่วมมือทั้งหมดกับบริษัทเอเจนซี่จวี่ซิง ทำให้จินหงเหว่ยเหมือนกับกำแพงถล่มลงมา ผู้คนต่างก็เข้าถีบผลักทันที สาเหตุก็เพราะว่าสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมีเจตนาที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ดีกับลู่เฉินนั่นเอง
หลี่ว์เจิ้นไห่รองผู้อำนวยการสถานีและผู้อำนวยการรายการของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานแสดงความชื่นชมต่อลู่เฉินในที่สาธารณะ!
ลู่ซีพูดอย่างเหยียดหยามว่า “พวกเขาก็มีวันนี้หรือ ถ้ารู้แต่แรกก็คงไม่ทำอย่างนี้ตั้งแต่ทีแรก”
สองปีมานี้ที่สถานีโทรทัศน์เซียงหนานกดดันลู่เฉิน พี่สาวได้แต่ข้องใจมาตลอด วันนี้ถือว่าได้ลืมตาอ้าปากได้เสียที “ช้าไปน่ะสิ”
ลู่เฉินหัวเราะ ในใจลอบถอนใจว่าโลกนี้ช่างไม่แน่นอนเหลือเกิน
เมื่อวางสายจากลู่ซีแล้ว เฉินเฟยเอ๋อร์ก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar