ตอนที่ 667 สู้ๆ
“ตื่นเต้นมากเหรอ”
ลู่เฉินยื่นขวดน้ำแร่ที่บิดเปิดฝาออกแล้วให้แก่หวังจิ้งที่นั่งอยู่ข้างกายเขา
ใกล้เวลาขึ้นเวทีแล้ว หวังจิ้งดูตื่นเต้นมาก แม้เธอจะพยายามทำเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาและความรู้สึกของลู่เฉินไปได้
คนที่ตื่นเต้นไม่ได้มีแค่หวังจิ้ง ยังมีสมาชิกของวงนิพพานคนอื่นๆ มือเบสอย่างโอวหยางเฮ่อดวงตาดูตื่นตระหนก ขาขวาของมือคีย์บอร์ดอย่างเวินยวนสั่นไปหยุด มือกลองหยางเสี่ยวอี้เกร็งจนกำหมัดแน่น พวกเขาไม่รู้ตัวว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ นี้ ได้แสดงอารมณ์ที่อยู่ในใจของพวกเขาออกมาหมด
แต่ลู่เฉินรู้สึกประหลาดใจ เพราะวงนิพพานได้ขึ้นเวทีใหญ่กับเขามาหลายครั้งแล้ว เคยทำงานใหญ่ ทั้งยังมักไปเล่นดนตรีตามบาร์ด้วย ประสบการณ์การแสดงเรียกได้ว่าโชกโชน แต่ทำไมถึงตื่นเต้นกับงานนี้
ความจริงลู่เฉินประเมินความหมายของเทศกาลดนตรีเทียนฝู่ที่มีต่อวงนิพพานต่ำไป เพราะครั้งนี้พวกเขาเป็นวงเอกเทศอย่างแท้จริง เท่ากับเป็นการเข้าวงการเต็มตัว เรียกได้ว่าสำคัญมากๆ
เดิมทีวงนิพพานก่อตั้งขึ้นเพราะความรักในดนตรีของหวังจิ้งและเพื่อนๆ เหมือนกับความฝันที่ทอประกายบนหมู่ดาว ฝันว่าสักวันจะทำได้เหมือนผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ได้รับการขับขานจากคนเป็นพันเป็นหมื่น
วันนี้ความฝันในตอนแรก กำลังเดินมาถึงก้าวสำคัญ แล้วจะให้สงบนิ่งอยู่ได้อย่างไร
เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังอ่อนวัย
รับขวดน้ำแร่แช่เย็นมา หวังจิ้งสงบใจลง เธอดื่มน้ำเข้าไปอึกหนึ่ง พยักหน้าตอบ “ตื่นเต้นมาก กลัวว่าตัวเองจะร้องพลาด จนทำผิดต่อนายและกับทุกคน…”
บางทีอาจเป็นเพราะอารมณ์บางอย่าง เธอถึงได้พูดความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด และไม่กลัวลู่เฉินหรือคนอื่นหัวเราะเยาะ เป็นการสารภาพความในใจอย่างตรงไปตรงมา
แตไม่มีใครหัวเราะเยาะ พวกโอวหยางเฮ่อตั้งใจฟังหวังจิ้งปรับทุกข์ระบายความในใจกับลู่เฉิน ไม่รู้ทำไม หัวใจของพวกเขาค่อยๆ สงบลง ไม่ตื่นเต้นอยู่ไม่สุขอีกแล้ว
ภาพแบบนี้ ทำให้มุมปากของลู่เฉินหยักเป็นรอยยิ้ม
จู่ๆ เขาก็ค้นพบว่า หญิงสาวที่มีนิสัยดื้อรั้นคนนี้ได้กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว มีบุคลิกของผู้ที่เป็นจิตวิญญาณของวงดนตรีและมีความพร้อม แม้ตอนนี้ยังดูอ่อนหัดไปนิด แต่เมื่อเดินขึ้นสู่เวทีจะไม่มีปัญหา
พูดไปหวังจิ้งขอบตาแดงขึ้นมา เธอยื่นมือขึ้นมาปาดน้ำตาทิ้ง หัวเราะแล้วบอกว่า “ขอโทษจริงๆ ให้ทุกคนฟังฉันบ่นตั้งเยอะ”
ลู่เฉินยิ้มน้อยๆ อ้าแขนกว้างกอดเธอเอาไว้ ปลอบว่า “พี่จิ้ง พี่ทำได้!”
ไม่เกี่ยวกับความรักหรือมิตรภาพ นี่คือนักร้องที่สนับสนุนนักร้องอีกคน
หวังจิ้งน้ำตาคลอ พยักหน้าแรงๆ
จากนั้นโอวหยางเฮ่อ เวินยวน หยางเสี่ยวอี้…พวกเขาเข้ามากอดหวังจิ้ง ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ตอนนี้เองที่ประตูห้องรับรองถูกเคาะ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้า “อาจารย์ลู่เฉินคะ ต่อไปจะเป็นคิวของพวกคุณขึ้นแสดงแล้วค่ะ”
ลู่เฉินรับคำ “ได้ครับ ผมรู้แล้ว”
เขาหันกลับมายื่นมือออกไป พร้อมกับพูดว่า “สู้ๆ!”
พวกหวังจิ้งมองหน้ากันแล้วยิ้ม ยื่นมือของตัวเองออกไป ทุกคนซ้อนมือกัน
“สู้ๆ!”
สมาชิกวงนิพพานไม่ตื่นเต้นอีกต่อไป ความมั่นใจและความกล้าหาญหวนกลับคืนมาสู่พวกเขาอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar