ตอนที่ 691 มติมหาชนที่ดุเดือด
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ออกอากาศครั้งแรกวันที่ 18 สิงหาคม สถานีโทรทัศน์เจ้อตงบวกับสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งได้เรตติ้งทั้งหมด 4.42% วันที่ 19 ออกอากาศตอนที่สอง เรตติ้งพุ่งทะลุ 5%!
ถึงแม้จะบอกว่าไม่สามารถอาศัยเพียงสองตอนแรกมาตัดสินเรตติ้งโดยรวมของละครเรื่องหนึ่ง แต่ทั้งในและนอกวงการโดยทั่วไปแล้วไม่มีใครสงสัยถึงความสำเร็จของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ การคาดเดาของสื่อที่มีต่อเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เน้นไปที่คำถามที่ว่าสุดท้ายละครเรื่องนี้จะได้เรตติ้งเฉลี่ยเท่าไร
และในคืนวันที่ 19 เช่นกัน ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เวอร์ชันพากย์เสียงภาษาเกาหลี ได้ออกอากาศครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์เคจีเอสของเกาหลี
เนื่องจากมี ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กับ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ละครยอดนิยมสองเรื่องเป็นพื้นฐาน บวกกับการโปรโมตที่ยิ่งใหญ่ของเคจีเอส โดยเฉพาะเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ มีสองนักแสดงชาวเกาหลีร่วมแสดงด้วย เพราะฉะนั้นก่อนเริ่มออกอากาศ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ จึงได้รับการตั้งตารอคอยจากผู้ชมโทรทัศน์เกาหลีเป็นอย่างยิ่ง
ผลที่ได้ไม่ทำให้ผิดหวัง คืนวันนั้น ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ได้เรตติ้งถึง 29.25% ขาดอีก 0.75% ก็จะล้ำเส้น 30% แล้ว และอัตราการติดตามละครทางออนไลน์ก็มากถึง 90% ขึ้นไป ได้รับคำชมไม่ด้อยไปกว่าในประเทศจีน
และเมื่อข่าวนี้ส่งกลับมายังประเทศจีน สื่อต่างๆ จึงเกิดความฮือฮาขึ้นอีกครั้ง!
พวกแฟนๆ ของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์แน่นอนว่ากระโดดโลดเต้นดีใจชื่นชมอยู่แล้ว สื่อที่เป็นมิตรและมีความเป็นกลางจำนวนไม่น้อยได้ชื่นชมอย่างเต็มที่ และยังทำให้พวกที่ตั้งใจวิจารณ์โอเวอร์เกินไปก่อนหน้านั้นต้องรู้สึกอับอาย
เหตุผลนั้นง่ายมาก ไม่ว่าพวกเขาจะอวย ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ให้เลิศหรูเช่นไร ก็เห็นได้ชัดว่าหน้าซีดเซียวห่อเหี่ยวต่อหน้าความสำเร็จของอันยิ่งใหญ่ของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ส่วนผลที่ได้กลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แถมยังช่วยทำโฆษณาให้ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ฟรีๆ อีกต่างหาก
หากทำต่อไป ก็เป็นเพียงแค่การโยนเงินลงน้ำ หากยอมแพ้ตอนนี้ละก็ เช่นนั้นจะทนรับความอับอายนี้ได้อย่างไรเล่า!
แต่ยากที่จะปฏิเสธว่า นับตั้งแต่ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถึง ‘ฟูลเฮ้าส์’ และมาถึง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ละครที่เพิ่งออกอากาศ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์สองคนที่รับบทพระเอกนางเอกได้ยกระดับของตัวเองในวงการละครโทรทัศน์จนถึงจุดสูงสุดแล้ว แซงหน้าขึ้นไปอยู่ในระดับดาราแถวหน้าอย่างแท้จริง
และทั้งสองคนกลับเดบิวต์ในฐานะนักร้องอีกด้วย โดยเฉพาะลู่เฉิน เดบิวต์แค่สองปีเท่านั้น
มีนักวิจารณ์ท่านหนึ่งในบล็อกกล่าวว่า “ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้ลู่เฉินประสบความสำเร็จมากที่สุด ไม่ใช่เขาแต่งผลงานเพลงที่ดีเยี่ยมมากมาย และก็ไม่ใช่เพราะเขาแสดงหลายบทบาทในละครที่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นเพราะการเขียนบทละครของเขาที่พลิกทั้งวงการให้กลับตาลปัตร!”
คำวิจารณ์ของนักวิจารณ์ท่านนี้เห็นได้ชัดว่าโอเวอร์เกินไป ความสำเร็จของลู่เฉินได้มาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากจะพูดว่าพลิกทั้งวงการให้กลับตาลปัตรยังไม่ถึงขั้นนั้นแน่นอน มากสุดพูดได้เพียงแค่สร้างอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่เท่านั้น
แต่คนในวงการมากมาย ต่างก็กดไลก์โพสต์นี้ และยังช่วยกันแชร์ต่อ
ก่อนที่ลู่เฉินจะถ่ายทำ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ละครไอดอลวัยรุ่นและละครแนวรักของคนเมืองที่ปรากฏบนหน้าจอทีวีในประเทศเรียกได้ว่าเยอะมาก ประสบปัญหาคล้ายคลึงกันอย่างรุนแรง
ต่างเลียนแบบพล็อตเรื่องซึ่งกันและกัน เซ็ตติ้งสับสนยุ่งเหยิง เรื่องราวขัดแย้งในตัวมันเอง ถือว่าเป็นจุดบกพร่องที่มีโดยทั่วไป
พวกคนดูเบื่อหน่ายเรื่องราวแบบนี้แล้ว จึงยอมสนับสนุนละครเกาหลี ละครญี่ปุ่น แต่ไม่ยอมเสียเวลาดูละครในประเทศ
‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เปลี่ยนแปลงสถานการณ์แบบนี้
ถึงแม้ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะเป็นละครเศร้า แต่ลู่เฉินที่สร้างละครเป็นครั้งแรกเล่าเรื่องราวได้ดีมาก พล็อตเรื่องมีชีวิตชีวาควบคุมจังหวะได้ดีไม่น่าเบื่อ อุปสรรคความรักของพระเอกนางเอกยิ่งสะดุดใจผู้คน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพการถ่ายทำของละคร หรือว่าเพลงประกอบล้วนเป็นที่หนึ่ง
ดังนั้น ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จึงสำเร็จ ดังระเบิดระเบ้อ อีกทั้งยังดึงดูดให้คนเลียนแบบตามกระแสมากมายนับไม่ถ้วน
ละครโทรทัศน์ในประเทศจีนมีช่วงหนึ่ง นิยมดำเนินเรื่องราวให้พระเอกหรือนางเอกเป็นโรคที่รักษาไม่หาย หรือไม่ก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
จากนั้นลู่เฉินได้นำเสนอ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar