(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 721

ตอนที่ 721 ปล่อยมือ

“Will you only need the light when it’s burning low”

“Only miss the sun when it starts to snow”

“Only know you love her when you let her go”

“Only know you’ve been high when you’re feeling low”

ตอนที่ลู่เฉินดีดสายกีตาร์ เริ่มร้องเพลงนี้ ภายในห้องส่งเงียบกริบ

ผู้ชมในห้องส่งรวมทั้งทีมงานของสถานีโทรทัศน์ และพิธีกรไอรีนต่างรู้สึกสงสัยมาก ว่าลู่เฉินจะเลือกเพลงไหนของอีวาน จอยซ์ ซึ่งเป็นนักร้องเพลงบัลลาดผู้ยิ่งใหญ่ของอเมริกา

เพลง ‘ทางกลับบ้าน’ หรือเพลง ‘ไปให้ไกล’ หรือว่าเพลง ‘ดอกหญ้าที่ไม่มีวันโรยรา’

เพลงเหล่านี้เป็นผลงานสุดคลาสสิคของอีวาน จอยซ์

ทว่าทุกคนกลับคิดไม่ถึงว่า เพลงที่ลู่เฉินเล่นและร้องนั้น กลับเป็นเพลงที่พวกเขาไม่ได้เคยได้ยินมาก่อน!

“คุณต้องการแสงไฟเมื่อไฟของคุณกำลังดับมืด”

“ต้องการความอบอุ่นเมื่อคุณเริ่มหนาวกาย”

“และเพิ่งรู้ว่าคุณรัก เมื่อคุณปล่อยเธอไป”

“เพิ่งรู้ว่าคุณเคยมีความสุขแค่ไหนตอนที่คุณตกต่ำ”

ฟังเพลงบัลลาดที่มีความละมุนละไมนี้ ผู้ฟังเหมือนนั่งอยู่ในบาร์แถวหมู่บ้าน พูดคุยเกี่ยวกับผู้หญิงที่เคยรักและเรื่องราวในอดีตกับคนแปลกหน้า ทันใดนั้นพบว่าบนโลกนี้ยังมีคนหัวอกเดียวกันเหมือนตัวเอง ความรู้สึกเศร้าแบบนั้นเหมือนดั่งน้ำขึ้นที่ล้นขึ้นมาบนหัวใจ

จนกระทั่งดื่มเหล้าหมดแก้ว สบตากันด้วยความมึนเมา ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องพูดก็เข้าใจ!

ลู่เฉินร้องเพลงนี้อย่างนุ่มนวลและผ่อนคลาย แฝงไปด้วยความรู้สึกที่เงียบสงบหลังจากที่ปล่อยมือไป เขาใช้วิธีการร้องที่ละเมียดละไมเป็นพิเศษ ร้องขับขานถึงเรื่องราวความรักที่มิอาจลืมเลือนและชีวิตที่เรียบง่ายซึ่งเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด

ทำนองเพลงไพเราะแฝงไปด้วยความรู้สึกเศร้าและหดหู่ใจ มีพลังดึงดูดให้คนรู้สึกประทับใจ ไม่ว่าผู้ฟังจะเคยผ่านช่วงเวลาที่งดงามมาก่อนหรือไม่ ต่างก็รู้สึกซาบซึ้งอยางลึกซึ้ง

อย่างน้อย ผู้ชมในห้องส่งรู้สึกประทับใจมาก!

มีบางคนอุทานเบาๆ มีบางคนครุ่นคิดด้วยความสงสัย มีบางคนไม่อยากจะเชื่อ มีบางคนเบ้าตาแดง…

“Only know you love her when you let her go”

“And you let her go”

จนกระทั่งลู่เฉินร้องประโยคสุดท้ายจบวางกีตาร์ที่อยู่ในอ้อมแขนลง ผ่านไปนานพักหนึ่ง ทุกคนเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน เสียงปรบมือระเบิดขึ้นทันทีภายในห้องส่ง!

ไอรีนลุกขึ้นปรบมือให้ลู่เฉินเป็นคนแรก จากนั้นทุกคนจึงลุกขึ้นตาม

“ขอบคุณครับ!”

ลู่เฉินลุกขึ้นโน้มตัวเพื่อขอบคุณ

เสียงปรบมือดังติดต่อกันนานสองนาทีถึงสงบลง ‘ไอรีนทอล์กโชว์’ ออกอากาศหลายตอนแล้ว แต่เหตุการณ์เช่นนี้กลับมีน้อยมากๆ

ไอรีนกัดริมฝีปากแน่น เกิดประกายในดวงตาของเธอ

เธอเหมือนจะพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองเต็มที่ ถามลู่เฉินว่า “ดอน คุณช่วยบอกชื่อของเพลงนี้กับฉันได้ไหมคะ”

ลู่เฉินเอ่ยว่า “เพลงนี้ชื่อว่า Let Her Go[1]”

ที่สำคัญที่สุดคือสไตล์ของเพลง ‘Let Her Go’ มีหลายส่วนที่คล้ายคลึงกับอีวานมาก จนมีคนในทีบุ๊กสงสัยว่า ลู่เฉินหยิบผลงานเพลงของอีวานที่ยังไม่เคยปล่อยออกมาหรือเปล่า!

แน่นอนว่าการคาดเดานี้ไร้สาระมาก คนทั่วไปไม่มีใครเชื่อ แต่เพลง ‘Let Her Go’ ที่ลู่เฉินร้องและเล่นได้ถูกแพร่กระจายไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ในอเมริกาอย่างรวดเร็ว และติดอันดับคำค้นหาของทีบุ๊ก

จากนั้นครอบครัวของอีวาน จอยซ์ได้แสดงความขอบคุณลู่เฉินบนทีบุ๊ก!

ชีวิตของอีวาน จอยซ์ลำบากนัก คุณพ่อเสียชีวิตไปตอนที่เด็กมาก คุณแม่เนื่องจากเสพยาและขโมยจึงถูกจับเข้าคุก เขาเติบโตมาในครอบครัวอุปถัมภ์ มีน้องสาวแต่แยกกันตั้งแต่เด็ก

เขาเคยมีความรักที่ทุกคนรู้ดีในสามช่วงชีวิต แต่ไม่มีสักครั้งที่ประสบความสำเร็จเลย ผลงานเพลงของเขาสะท้อนสิ่งที่ลึกซึ้งอยู่ในนั้น และเป็นความทรงจำที่แสนเจ็บปวดในชีวิตของเขา

นักร้องเพลงบัลลาดผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของอเมริกา สุดท้ายก็ไม่สามารถชนะตัวเอง จบชีวิตเพราะใช้ยาเกินขนาด

เพลง ‘Let Her Go’ ของลู่เฉิน ได้ปลุกความทรงจำของแฟนๆ ที่มีต่ออีวาน จอยซ์อย่างไม่ต้องสงสัย รวมทั้งบทเพลงที่มีความเศร้าและหดหู่ใจแต่ละเพลงของเขาด้วย

ในตอนล่าสุดของ ‘ไอรีนทอล์กโชว์’ ไอรีนฟังเพลงนี้จบแล้ว ฉากที่สวมกอดลู่เฉินน้ำตาคลอเบ้าสร้างความประทับใจให้พวกแฟนเพลงอย่างลึกซึ้ง

นักร้องในวงการเพลงป็อปอเมริกาหลายคน ต่างโพสต์ข้อความคิดถึงอีวาน จอยซ์ในทีบุ๊กของตัวเอง ขณะเดียวกันได้แสดงความชื่นชอบเพลง ‘Let Her Go’

ในสถานการณ์ที่ไม่มีการแนะนำใดๆ วันที่ 22 ‘Let Her Go’ ติดสามอันดับแรกของรายการวิทยุออนดิมานด์ในอเมริกา และอันดับหนึ่งถึงเจ็ด ล้วนเป็นเพลงคลาสสิคของอีวาน จอยซ์

ด้วยเหตุนี้ผลที่ตามมาคือ สถานีวิทยุ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารหลายร้อยเจ้าได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ลู่เฉินและเชิญมาร่วมรายการ นอกจากนี้กลุ่มแฟนเพลงของอีวาน จอยซ์ หวังว่าลู่เฉินจะมาร่วมกิจกรรมรำลึกที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทภาพยนตร์สองสามแห่งของฮอลลีวูดและบริษัทเพลง อยากสัมผัสทำความรู้จักกับลู่เฉิน

แต่ลู่เฉินไม่สนใจเรื่องสับสนวุ่นวายเหล่านี้ ช่วงที่เขาอยู่ที่อเมริกาห้าวัน หลังจากร่วมการเจรจาครั้งสุดท้ายแล้วได้พาเฉินเฟยเอ๋อร์บินไปที่ลอสแอนเจลิส

…………………………………………………………………………

[1] Let Her Go เนื้อร้องและทำนองโดยวงพาสเซ็นเจอร์ (Passenger)