ตอนที่ 785 ข่าวลือ
เมืองหลวง ห้างสรรพสินค้าเมซา
ห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านหรูวงแหวนรอบที่สองของเมืองหลวง เพิ่งเปิดกิจการทันปีใหม่พอดี ที่นี่มีทั้งหมดเจ็ดชั้น มีพื้นที่ใช้สอยสามหมื่นตารางเมตร เป็นศูนย์รวมของแบรนด์ดังทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ดังนั้นจึงกลายเป็นหมุดหมายใหม่ในย่านธุรกิจของเมืองหลวง
ใกล้เทศกาลตรุษจีน ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนที่ทำงานและเรียนหนังสือในเมืองหลวงได้ออกจากมหานครแห่งนี้ ถนนที่เดิมทีมีผู้คนขวักไขว่ไปมาโล่งว่างขึ้นมาก ปรากฏการณ์รถติดเป็นประจำจากวงแหวนที่รอบสองจนถึงวงแหวนรอบที่ห้ากลับหายไป แม้แต่ท้องฟ้าในเมืองหลวงก็แลเป็นสีฟ้ามากขึ้น
แต่ไม่ใช่ทุกสถานที่จะเงียบเหงา ห้างสรรพสินค้าเมซาที่เพิ่งเปิดใหม่เข้าสู่ช่วงพีกก่อนเทศกาล ลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซื้อสินค้ารุ่นใหม่กันอย่างมือเติบ…เสื้อผ้า กระเป๋าหนัง น้ำหอม เครื่องสำอาง เครื่องประดับเงินและทอง สินค้านำเข้า…
ราวกับว่าไม่ต้องจ่ายเงินก็ไม่ปาน
แม้แต่ฟางอวิ๋นที่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกยังติดใจบรรยากาศการชอปปิงที่คึกคักของห้างนี้ อดไม่ได้ที่จะซื้อของฟุ่มเฟือยบ้าง ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงลิ่วสองชุดกับกระเป๋าถือหนึ่งใบ
หากเป็นเมื่อสองสามปีก่อน เธอเสียดายไม่กล้าใช้เงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ด้วยซ้ำ เพราะคืนวันสิ้นปีเป็นช่วงที่ลำบากที่สุด ติดค้างหนี้ข้างนอกอีกเยอะแยะ คำว่าฉลองปีใหม่ถูกแนบท้ายด้วยความหมายที่หนักอึ้ง
หลังจากลู่เฉินมีชื่อเสียงทุกอย่างถึงเปลี่ยนไป บ้านตระกูลลู่ที่สูญเสียเสาหลักไม่เพียงแต่ได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนในอดีตอีกครั้ง แถมยังมีชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม
กระเป๋าถือของกุชชีที่ฟางอวิ๋นเพิ่งซื้อมามีบัตรแพลทินัมอยู่ข้างใน ซึ่งลู่เฉินได้ใส่เงินให้ห้าล้าน
ทว่าความกตัญญูของลูกชายไม่ใช่เหตุผลที่ท่านมีความสุข สิ่งที่ทำให้ท่านรู้สึกมีความสุขมากจริงๆ ก็คือมีคนเดินเป็นเพื่อนท่านในเวลานี้ มีลูกสาวสองคนและว่าที่ลูกสะใภ้อีกหนึ่งคน!
ฟางอวิ๋นพาลู่เสวี่ยที่เพิ่งปิดเทอมภาคฤดูหนาวมาเมืองหลวงเมื่อสองวันก่อน เพราะวันตรุษจีนปีนี้ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ต้องร่วมงานกาล่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี จึงไม่สามารถกลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้านได้ ดังนั้นฟางอวิ๋นจึงมาหาด้วยตัวเอง
นอกจากครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากันแล้ว สาเหตุอีกอย่างก็คือฉลองปีใหม่ที่บ้านเกิดหาความสงบไม่ได้อีกแล้ว ชื่อเสียงของลู่เฉินนับวันยิ่งโด่งดัง พอถึงเทศกาลจะมีคนมากมายมาหาถึงบ้านวุ่นวายไปหมด
บ้างก็อยากดองเป็นญาติ บ้างก็มายืมเงิน บ้างก็อยากเป็นนักร้องนักแสดง บางคนอยากให้แนะนำงานให้ลูกชายลูกสาว…
ตอนที่บ้านตระกูลลู่เจริญรุ่งเรือง ฟางอวิ๋นไม่เห็นรู้ว่าตัวเองมีญาติเยอะขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกรำคาญมาก ถึงได้มาหาความสงบที่เมืองหลวง
เมื่อฟางอวิ๋นกับลู่เสวี่ยมาถึงเมืองหลวง ลู่ซีเจียดเวลาจากงานที่ยุ่งเหยิงมารับแม่ด้วยตัวเอง เฉินเฟยเอ๋อร์แน่นอนว่าไม่ยอมเสียคะแนน เลื่อนงานออกไปสองสามอย่าง แล้วพาแม่สามีในอนาคตไปชอปปิงโดยเฉพาะ
“คุณป้าคะ เหนื่อยไหมคะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์คล้องแขนของฟางอวิ๋น ถามอย่างเป็นห่วง “พวกเราไปนั่งพักที่ร้านน้ำชาชั้นห้ากันเถอะค่ะ”
ฟางอวิ๋นพยักหน้ายิ้มกล่าวว่า “ดี แล้วแต่หนูเลย”
สำหรับว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคต ท่านพอใจที่สุด ตอนนี้เป็นห่วงอยู่เรื่องเดียวก็คือจะแต่งงานมีลูกกับลู่เฉินเมื่อไร ถึงตอนนั้นท่านก็จะเกษียณมาเลี้ยงหลานได้อย่างสบายใจ
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มเอ่ยว่า “งั้นพวกเราขึ้นไป…”
ขณะที่พูด เธอรู้สึกผิดปกติอย่างกะทันหัน จึงหันหน้ามองไปทางขวา
เห็นผู้ชายสวมเสื้อกั๊กสีดำคนหนึ่งอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไม่ไกลนักกำลังใช้กล้องดีเอสแอลอาร์ถ่ายรูปเธอ
เมื่อเห็นสายตาจ้องมองของเฉินเฟยเอ๋อร์ อีกฝ่ายจึงพยายามกดชัตเตอร์รัวๆ ถ่ายรูปสิบกว่าใบ จากนั้นจึงหมุนตัวเดินหายไปอย่างรวดเร็ว
เฉินเฟยเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างจนใจ
ปาปารัสซี่พวกนี้แทรกซึมไปได้ทุกที่จริงๆ วันนี้เป็นเพราะพาฟางอวิ๋นออกมาชอปปิง ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ปลอมตัวมากนัก ผลปรากฏว่ากลับถูกแอบตามถ่ายภาพ
ฟางอวิ๋นไม่รู้เรื่อง เมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆ ของเฉินเฟยเอ๋อร์ จึงรีบถามว่า “เป็นอะไร”
เฉินเฟยเอ๋อร์รีบยิ้มเอ่ยทันที “ไม่มีอะไรค่ะ พวกเราไปกันเถอะ”
เธอไม่อยากให้เรื่องเล็กๆ มารบกวนอารมณ์ของตัวเองและว่าที่แม่สามี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar