ตอนที่ 800 รูปหนึ่งใบ กลอนหนึ่งบท
ภาพนี้ของเฉินเฟยเอ๋อร์ถ่ายที่ด้านข้างของเมืองฉวี่ซีใต้เชิงเขาชิงหนิง เมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปีแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในหนิงซาน รูปแบบสถาปัตยกรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวบ้านเป็นแบบดั้งเดิมมาก ก่อนหน้านี้ยังมีนักท่องเที่ยวมาอยู่บ้าง ตอนนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดชมวิวในเขตท่องเที่ยวของหนิงซานไปแล้ว
ลำธารในภาพคือลำธารฉวี่ซีที่ไหลลงมาจากภูเขาชิงหนิง และไหลคดเคี้ยวผ่านเมืองโบราณ ในเดือนมีนาคมของทุกปี ป่าดอกท้อข้างลำธารจะบานเต็มที่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด
วิวทิวทัศน์สวยงาม แต่คนสวยงามยิ่งกว่า น้อยมากที่เฉินเฟยเอ๋อร์จะมีรูปถ่ายที่อยู่ในชุดโบราณ ครั้งก่อนที่ถ่ายทำเรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ เธอได้แสดงเป็นบอสฝ่ายร้าย เมื่อเทียบกับภาพถ่ายในชุดชาวฮั่นที่โพสต์บนบล็อกวันนี้ มันเป็นสไตล์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจกันมาก
เหล่าแฟนคลับต่างก็คุกเข่าลงกันแล้ว!
“สวยจะบ้า!”
“อ้าๆ สวยจนแทบจะทนไม่ไหว มันผิดกฎนะ!”
“ของจริง เทพธิดาไม่มีใครเทียบได้!”
“ฉันอยากรู้ว่ารูปนี้ถ่ายที่ไหน”
“ฉันต้องการภาพต้นฉบับที่มีความละเอียดสูง ฉันต้องการใช้เป็นภาพพื้นหลังในคอมพิวเตอร์ คุกเข่าขอร้อง!”
“เฟยของฉันเหมาะกับการสวมชุดชาวฮั่นมาก นี่คือชุดฟิตติ้งเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เหรอ? สวยมาก!”
“เริ่นอิ๋งอิ๋ง…”
เช่นเดียวกับดาราหญิงหลายคน เฉินเฟยเอ๋อร์มักจะโพสต์ภาพถ่ายบนบล็อกของเธอ บางภาพเป็นภาพถ่ายในชีวิตประจำวันหรือภาพการทำงานที่ถ่ายโดยช่างภาพ และแน่นอนว่ายังมีภาพเซลฟี่ด้วย
แต่ที่ไม่เหมือนกับคนส่วนใหญ่ก็คือ เธอไม่เคยแต่งรูปเลย และยังไม่เคยใช้แอปใดในการกลบผิวหรือว่าตกแต่งให้สวยงาม สิ่งที่เผยออกมาจึงเป็นความสวยงามที่แท้จริงของตัวเธอเอง
ก็เหมือนกันกับรูปนี้ที่ไม่ได้มีการตกแต่งด้วยเทคนิคพิเศษอะไรเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นสีสันหรือว่าองค์ประกอบของภาพก็ล้วนงดงามเป็นอย่างมาก ใช้วิวทิวทัศน์ที่งดงามราวกับบทกลอนมาขับความงดงามของเฉินเฟยเอ๋อร์ ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากแฟนคลับจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ก็พอจะมองออกว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ชอบรูปนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงหยิบออกมารูปเดียวแล้วโพสต์ลงในบล็อกของตัวเอง ทั้งยังติดแท็กลู่เฉินด้วย แม้ว่าจะไม่มีถ้อยคำใดๆ เลย แต่ความหมายก็ชัดเจนมากว่า… รีบมาชมฉันสิ!
ตอนที่ลู่เฉินเห็นภาพเธอเขาเพิ่งกลับมาถึงบ้าน
เนื่องจากลู่ซีพาคนไปหนิงซานเพื่อสำรวจสถานที่ เขาจึงต้องทำงานในบริษัท อีกอย่างเขายุ่งกับการผลิตรายการ ‘ชุมนุมยอดมือปราบ’ ดังนั้นจนกระทั่งสองสามทุ่มแล้วถึงได้รับประทานอาหารเย็น
เขาอาบน้ำ แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ล็อกอินเข้าบล็อกด้วยความเคยชิน จึงเห็นว่ามีคนมากมายแท็กตน
เมื่อเห็นคนงามและดอกท้อบานในภาพ ลู่เฉินรู้สึกว่าความเหนื่อยล้าจากวันที่วุ่นวายหายไปทันที และเขาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
เขาพึมพำอยู่ครู่หนึ่งและตอบเฉินเฟยเอ๋อร์ด้วยบทกลอนสองสามบรรทัด
สายธารวสันตฤดู เริ่มต้นชีวิต
พนาไพรวสันตฤดู แตกยอด
สายลมวสันตฤดูสิบลี้ มิสู้เธอ
บทกลอนสั้นๆ นี้มาจากความทรงจำในโลกแห่งความฝันของลู่เฉิน แม้จะสั้นมาก แต่ก็สื่อถึงความงามของฤดูใบไม้ผลิได้ แต่หลังจากบรรยายทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ผลิแล้ว เขากลับใช้คำว่า ‘มิสู้เธอ’ เพื่อแสดงความรักและความชื่นชมในใจ
วสันตฤดูจะสวยงามเพียงใด กลิ่นอายของวสันตฤดูจะเข้มข้นแค่ไหน ลมของวสันตฤดูจะอบอุ่นอย่างไร ก็ไม่เท่ากับมีเธออยู่เคียงข้างกายและใจ!
ลู่เฉินรู้สึกว่าบทกลอนนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความรักของเขาได้
เฉินเฟยเอ๋อร์เห็นคำตอบของเขาในครั้งแรก ก็ตอบกลับด้วยท่าทางเขินอายอย่างรวดเร็วว่า “ทำให้หัวใจของหญิงสาวละลาย”
และแฟนคลับมากมายนับไม่ถ้วนก็ล้วนได้กินอาหารสุนัขกันอย่างเต็มที่
“จุกใจมาก เพิ่งจะผ่านวันสตรีสากลไปเองก็ถูกป้อนอาหารสุนัขแล้ว มันยุติธรรมหรือนี่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar