ตอนที่ 845 กลายเป็นเรื่องตลก
วันที่ 1 ตุลาคม ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ภาค ‘กระบี่จากเทือกเขาฮว่าซาน’ ออกฉายครั้งแรกพร้อมกันทั่วประเทศ ยอดจำหน่ายตั๋ววันแรกอยู่ที่ 49.2 ล้าน
ยอดจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์นี้ไม่ได้ส่งผลสะท้อนในวงการมากนัก เพราะยอดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าของเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็เกือบ 50 ล้านแล้ว ยอดจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์วันแรกประมาณ 50 ล้านจึงถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ควรค่าที่จะตกใจ
หลายคนกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ พวกเขากำลังรอดูว่าภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะสามารถคืนทุนได้หรือไม่ ภายใต้การโจมตีของภาพยนตร์เรื่อง ‘กำเนิดโคตรพยัคฆ์ราชัน’ จะกลายเป็นผลงานที่ล้มเหลวชิ้นแรกของลู่เฉินหรือไม่
วันที่ 2 ตุลาคม ยอดจำหน่ายตั๋วของเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อยู่ที่ 57.72 ล้าน เพิ่มขึ้นมาถึงแปดล้านกว่าหยวน รวมมูลค่าตั๋วเกินร้อยล้านแล้ว
ยอดจำหน่ายตั่วของเรื่อง ‘กำเนิดโคตรพยัคฆ์ราชัน’ ก็สูงขึ้นเช่นกัน ยอดจำหน่ายตั๋วอยู่ที่ 77 ล้าน ยังคงนำเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อยู่เน้นๆ
ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ผลิตในประเทศเรื่องหนึ่ง ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูดอีกเรื่องหนึ่ง ภาพยนตร์สองเรื่องนี้โดยพื้นฐานแล้วครองแชมป์ช่วงวันชาติไปหมด ภาพยนตร์เรื่องอื่นที่เข้าฉายพร้อมกันในช่วงนี้ทำได้เพียงรับเศษอาหารเหลือไปเท่านั้น แทบจะไม่มีกำลังในการแข่งขันใดๆ เลย
ตลาดภาพยนตร์ตอนนี้ การทุ่มทุนผลิตถือเป็นเรื่องปกติ ต้นทุนการผลิตภาพยนตร์ในประเทศมักจะมากกว่า 100 ล้านหยวน และส่วนใหญ่หมดไปกับค่าตอบแทนของนักแสดง จึงเป็นเรื่องยากสำหรับภาพยนตร์ที่มีงบน้อยที่จะสร้างชื่อเสียงได้ แม้บางเรื่องจะเป็นข้อยกเว้น แต่นั่นก็เป็นเพียงปาฏิหาริย์
อย่างเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ลงทุนไปเกือบ 150 ล้านหยวน และใช้งบประมาณไปอีก 50 ล้านหยวนสำหรับการประชาสัมพันธ์ มูลค่าต้นทุนรวมกว่า 200 ล้านหยวน ถือว่าเป็นระดับกลางในบรรดาภาพยนตร์ในประเทศ ที่หลายปีมานี้งบการผลิตอยู่ที่สี่ห้าร้อยล้านมีให้เห็นเต็มไปหมด
แต่เมื่อเทียบกับ ‘กำเนิดโคตรพยัคฆ์ราชัน’ แล้ว นั่นก็ต่างกันราวฟ้ากับดินเลย
ดังนั้นแม้ว่าจะมีภาพยนตร์ในประเทศหลายเรื่องเคยทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วเอาชนะภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่เข้าฉายในประเทศ กระทั่งมียอดจำหน่ายตั๋วเป็นอันดับหนึ่งเลยด้วยซ้ำ แต่โดยรวมแล้ว เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีของภาพยนตร์ฮอลลีวูด แม้ว่าสถานการณ์ของภาพยนตร์ในประเทศจะไม่ได้เลวร้ายเหมือนเมื่อสิบปีก่อน แต่ก็ยังคงตกเป็นรองอยู่
อันนี้ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนในแวดวงภาพยนตร์ถึงไม่ค่อยมองเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในแง่ดีนัก พวกเขาเห็นว่าภาพยนตร์กำลังภายในกับภาพยนตร์แอกชันไม่ได้ต่างกันมาก จะต่างกันก็เพียงยุคสมัยของฉากหลังเท่านั้นเอง จะเทียบกับการสร้างสเปเชียลเอฟเฟกต์ของฮอลลีวูดได้อย่างไร
ถึงขั้นมีคนเอ่ยคำขาดว่า ประเดี๋ยวรอให้ยอดจำหน่ายตั๋วที่ได้จากแฟนคลับของลู่เฉินและแฟนคลับของนักแสดงคนอื่นๆ ซาลงก่อน ยอดจำหน่ายตั๋วของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จะต้องตกฮวบแน่ ถึงตอนนั้นคืนทุนได้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
แต่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นตอนนี้กลับตบหน้าคนที่เคยมองภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในแง่ลบอย่างหนักหน่วง วันที่สามของช่วงวันหยุดยาววันชาติ ยอดจำหน่ายตั๋วของภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทะลุไปที่ 75 ล้านหยวน ยอดก้าวกระโดดนี้ทำให้คนถึงขั้นตกตะลึงอ้าปากค้าง
แต่ที่เกิดการเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัดเจนมากก็คือ เรื่อง ‘กำเนิดโคตรพยัคฆ์ราชัน’ ตกลงไปอยู่ที่ 52.28 ล้าน วันนี้กับเมื่อวานภาพยนตร์สองเรื่องนี้เหมือนกับสลับตำแหน่งกันโดยสิ้นเชิง นี่แทบจะทำให้สายตาของคนทั่วทั้งวงการแทบจะถลนออกมาเลย
ภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ พลิกสถานการณ์ยอดจำหน่ายตั๋วกลับมาได้สวยงามอย่างหาใดเทียบได้ จากที่ตามหลังฝ่ายตรงข้ามอยู่ ยอดจำหน่ายตั่วก็พลิกกลับมาเหนือเรื่อง ‘กำเนิดโคตรพยัคฆ์ราชัน’ เสียอย่างนั้น
เวลาเพียงสามวันเท่านั้น หลายคนไม่เข้าใจเลย ในขณะที่พวกเขากำลังหาช่องทางในการหาคำตอบ ก็ทยอยซื้อตั๋วภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะอยากจะเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีเสน่ห์อะไรกันแน่ด้วยตัวพวกเขาเอง ยอดจำหน่ายตั๋วจึงเกิดการพลิกกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในวันเดียว
“ต้องซื้อตั๋วเองแน่ๆ!”
ในห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่ของบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาว หลู่เซิ่งต๋าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารวางเมาส์ในมือลงอย่างแรง ก่อนจะพูดอย่างโกรธเคืองว่า “คนเดี๋ยวนี้ ทำเรื่องเลวร้ายพวกนี้โดยเฉพาะ สีสันในวงการเลยถูกพวกเขาทำลายไปหมด!”
การเหมาซื้อตั๋วในวงการถือเป็นความลับที่เปิดเผย หรือกระทั่งเป็นกลโกงเลย เมื่อมาคิดๆ ดูเรื่องนี้ก็มีมานานแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยิ่งเล่นแรงขึ้นเรื่อยๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar