สรุปเนื้อหา ตอนที่ 847 เชื่อสายตาตัวเอง – (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet
บท ตอนที่ 847 เชื่อสายตาตัวเอง ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 847 เชื่อสายตาตัวเอง
ยืนอยู่ด้านหน้าเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ฮั่วเฟยเยวี่ยใช้เวลาไปเกือบสองนาที จึงเข้าใจว่าจะเอาตั๋วออกมาจากเครื่องอย่างไรหลังจากจองออนไลน์มา
เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับไอดอลหน้าใหม่คนนี้จริงๆ เพราะก่อนหน้านี้เวลาเขาดูภาพยนตร์ บางทีไม่ต้องซื้อตั๋วเข้าโรง บางทีก็มีผู้ช่วยทำแทน ก่อนหน้านี้ไม่มีเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติอะไรนี่หรอกเมื่อตอนเขายังเป็นวัยรุ่น!
วันนี้ฮั่วเฟยเยวี่ยมาที่โรงภาพยนตร์ในปักกิ่งแห่งนี้เพื่อดูภาพยนตร์ เขาแอบออกมาโดยไม่มีผู้ช่วยคอยอยู่ข้างๆ และไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าเขาทำอะไร
ดังนั้นเขาจึงจงใจสวมหน้ากากและแว่นตา และเลือกเวลาที่คนน้อยในตอนบ่าย
หลังจากได้ตั๋วภาพยนตร์มาก็เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก่อนภาพยนตร์จะเริ่ม ฮั่วเฟยเยวี่ยถือตั๋วผ่านจุดตรวจตั๋วก่อนจะเข้าโรงภาพยนตร์อย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ ในช่วงเวลาที่ไม่เป็นที่นิยมนี้ โรงภาพยนตร์ที่มีมากกว่าสองร้อยที่นั่งกลับมีคนเข้าชมมากกว่า 50% และที่นั่งที่ดีๆ ก็มีเจ้าของทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กสาวจำนวนมาก
ที่นั่งของฮั่วเฟยเยวี่ยคือแถวที่ 7 เลขที่ 11 เมื่อเขาหาที่นั่งเจอและนั่งลง เด็กสาวสองคนด้านข้างก็ใช้สายตาประหลาดใจเหลือบมองเขาหนึ่งที คงคิดว่าเขาสวมแว่นใส่หน้ากากดูประหลาดมั้ง
ฮั่วเฟยเยวี่ยก็อยากจะถอดเครื่องปกปิดร่างกายอยู่หรอก อยากเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของอีกฝ่าย แต่นึกถึงเป้าหมายที่แอบออกมาวันนี้ เขาก็อดทนเก็บความวู่วามเอาไว้
ผ่านไปสองนาที ก็มีผู้ชมทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตอนนี้จำนวนผู้ชมมีประมาณ 65% แล้ว
แม้ว่าจะรู้สึกไม่สบอารมณ์ในใจ แต่ฮั่วเฟยเยวี่ยก็อดยอมรับไม่ได้ว่า ความสำเร็จของยอดจำหน่ายตั๋วที่น่าตกใจที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับมาน่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีคนมาสนับสนุนมากมายขนาดนี้
และจากเสียงอภิปรายของผู้ชมที่อยู่รอบด้านเขาก็ฟังออกว่า ผู้ชมเหล่านี้ไม่ใช่คนที่ได้รับตั๋วฟรีเข้ามาดู แต่เป็นผู้ชมจริงๆ และแฟนคลับของลู่เฉิน
ใช่แล้ว ที่ฮั่วเฟยเยวี่ยมาดูก็คือเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่เข้าฉายมาเป็นวันที่เก้าแล้ว จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ยอดรวมการจำหน่ายตั๋วของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ทะลุ 700 ล้านไปแล้ว 1,000 ล้านนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว กำไรมหาศาลเป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป!
ในฐานะนักแสดงนำชายของภาพยนตร์กำลังภายในฟอร์มยักษ์เรื่อง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่เข้าฉายในช่วงฤดูร้อน ฮั่วเฟยเยวี่ยหลายวันมานี้ถูกข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ รบกวนอยู่ไม่น้อยเลย
ภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ยอดจำหน่ายตั๋วทะลุร้อยล้านภายในวันเดียว!
ภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เอาชนะภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวูดแล้ว!
ภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ สร้างสถิติยอดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกสูงสุดอีกครั้ง!
ภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’……
แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ในใจของฮั่วเฟยเยวี่ยยังคงรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก เงินลงทุนภาพยนตร์เรื่อง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ที่เขาแสดงนำนั้นมากกว่าเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ด้วยซ้ำ การประชาสัมพันธ์ก็ร้อนแรงมาก ทั้งยังได้รับฉายาว่าเป็นภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องแรกด้วย เนื้อหานั้นปรับมาจากนิยายชื่อดัง มันควรจะได้รับความนิยมถึงจะถูก สุดท้ายกลับไม่คืนทุนด้วยซ้ำ
และเขาเองเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ถูกคนไม่น้อยเลยเสียดสีว่าตั๋วภาพยนตร์เรื่องนี้มียาพิษ และไม่ได้รับแสดงภาพยนตร์ที่ดีๆ มาหลายเดือนแล้ว ความนิยมลดลงไปไม่น้อยเลย
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ โด่งดังอย่างนี้ ฮั่วเฟยเยวี่ยรู้สึกว่าในใจไม่ยินยอมนัก ดังนั้นจึงอยากมาดูให้เห็นกับตาว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเสน่ห์พิเศษอะไรหรือไม่ ถึงสามารถสร้างปาฏิหาริย์ออกมาภายใต้สถานการณ์ที่ตลาดภาพยนตร์กำลังภายในภายในประเทศเลวร้ายที่สุดอย่างนี้ได้
เขาเองก็อยากดูว่าลู่เฉินเก่งกว่าตนจริงๆ น่ะหรือ!
ไฟในโรงค่อยๆ ดับลง บนจอเงินปรากฏเนื้อหาตอนต้นออกมา ภาพยนตร์กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ฮั่วเฟยเยวี่ยถอดแว่นออก ก่อนจะเอนกายลงพิงกับพนักเก้าอี้ ใช้สายตาจับผิดจดจ้องไปยังหน้าจอตรงหน้า
เมื่อย้อนนึกถึงฉากต่อสู้ในเรื่อง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ฮั่วเฟยเยวี่ยก็รู้สึกอายมาก พอไม่เปรียบก็ไม่เจ็บปวดจริงๆ มิน่าเล่าถึงมีคนบอกว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นี่สิถึงจะเป็นภาพยนตร์กำลังภายในอย่างแท้จริง!
นอกจากฉากต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและกินใจคนแล้ว เนื้อเรื่องก็ลื่นไหลและสมบูรณ์มาก ด้วยฉากหลังที่วิจิตรหรืองดงามราวกับภาพวาด ทำให้ได้อรรถรสของภาพยนตร์ระดับมหากาพย์จริงๆ
และตอนท้ายของภาพยนตร์ เมื่อเพลง ‘ทะเลสรวล’ ที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ดังขึ้น ฮั่วเฟยเยวี่ยยังรู้สึกเหมือนภาพยนตร์จบแต่อารมณ์ยังไม่เจบ!
ดังนั้นเมื่อตอนออกมาจากโรงภาพยนตร์ อารมณ์ในใจเขาก็ยากจะหาคำพูดใดบรรยายออกมาได้
เรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ โดดเด่นมาก และก็เจ๋งมาก ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าภาพยนตร์กำลังภายในที่แท้จริงควรจะเป็นอย่างไร มันต้องไม่ใช่ผลงานเลียนแบบภาพยนตร์แฟนตาซีที่เอาแต่ใส่สเปเชียลเอฟเฟกต์แบบนั้นแน่
และในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น ลู่เฉินรับบทเป็นทั้งนักแสดงนำชาย ผู้กำกับแอกชัน ผู้เขียนบท นักแต่งเพลง และบทบาทอื่นๆ ความหดหู่ในใจของฮั่วเฟยเยวี่ยแค่คิดๆ ดูก็รู้แล้วว่าเป็นอย่างไร
เมื่อเทียบกับลู่เฉินแล้ว ความล้าหลังของเขานี่มันทุกด้านจริงๆ
ไม่ได้รอให้ฮั่วเฟยเยวี่ยเดินออกจากโรงภาพยนตร์ ก็มีเสียงดังขึ้นบริเวณร้านค้าตรงห้องโถงใหญ่ ที่ดึงดูดความสนใจของเขาไป
ตรงนั้นกำลังจำหน่ายสินค้าที่ระลึกจากเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ โมเดลการ์ตูน แผ่นเสียง เสื้อยืด ของเล่น เครื่องเขียน เคสโทรศัพท์… ด้านหน้าสินค้าตระการตา มีลูกค้าห้อมล้อมซื้อมากมาย
ฮั่วเฟยเยวี่ยหยุดฝีเท้าลงก่อนจะออกเดินอีกครั้ง ตอนนี้เขาไม่อยากหยุดฝีเท้าอยู่ที่่นี่แม้เพียงนาทีเดียว กลัวความริษยาในตัวจะกลืนกินตัวเองเข้าไป!
…………………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar