(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 862

สรุปบท ตอนที่ 862 ความร่วมมือกันแบบวินวิน: (นิยายแปล) Perfect Superstar

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 862 ความร่วมมือกันแบบวินวิน – (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

บท ตอนที่ 862 ความร่วมมือกันแบบวินวิน ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 862 ความร่วมมือกันแบบวินวิน

การที่ทางฝั่งของเมืองเติงเฟิงให้การต้อนรับทีมงาน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าจะต้องทำความเข้าใจในตัวลู่เฉินมาอยู่แล้วไม่น้อย และรู้ว่าเฉินเฟยมีเดียมีกำลังที่แข็งแกร่ง ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่ปล่อยฉายออกมาล้วนขายดีมากทั้งสิ้น มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก

และพวกเขาก็ต้องการใช้ประโยชน์จากอิทธิพลนี้นี่แหละ หวังที่จะยืมกระแสความโด่งดังของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ มาส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวในท้องถิ่น แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าลู่เฉินจะเสนอว่าอยากจะบริจาคเงินจำนวนมหาศาลให้กับวัดเส้าหลิน

ทุกคนอึ้งกันไปหมดแล้ว

อย่างไรเสียนายกเทศมนตรีหลู่ก็ไม่ใช่คนธรรมดา แม้จะตกใจอยู่ก็ยังคงรักษาความสงบเอาไว้ได้ เขาถามว่า “คุณลู่เฉิน ขอถามหน่อยครับว่าการบริจาคของบริษัทคุณมีลักษณะเป็นอย่างไร พวกเราสามารถเจรจากันได้”

ในความคิดของเขา ลู่เฉินไม่มีทางที่จะควักเงิน 30 ล้านหยวนออกมาอย่างเปล่าประโยชน์หรอกใช่ไหมล่ะ ที่บอกว่าต้องการการสนับสนุนจากเทศบาลเพื่อตอบสนองความต้องการในการถ่ายทำ มาคิดๆ ดูแล้วก็คงเป็นคำพูดตามมารยาทเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เขาก็ได้แสดงออกไปแล้วว่าต้องการที่จะสนับสนุนเป็นอย่างมาก ความจริงใจของเติงเฟิงนั้นไร้ข้อกังขา

ลู่เฉินยิ้มและพูดว่า “ก็เป็นการบริจาคธรรมดานี่แหละครับ ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติม ขอเพียงแค่นายกเทศมนตรีหลู่เห็นด้วย วันพรุ่งนี้ก็สามารถโอนเงิน 30 ล้านหยวนไปยังบัญชีที่ทางฝั่งของคุณกำหนดได้เลยครับ”

ลู่เฉินสามารถเข้าใจข้อกังขาของอีกฝ่ายได้ดี ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเขาเองก็เกรงว่าจะรู้สึกเหลือเชื่อเช่นเดียวกัน

แต่การที่ลู่เฉินเสนอเงินบริจาค 30 ล้านนี้ ไม่ใช่ว่าต้องการผลาญเงินที่มีมากเกินไป หรือสมองเสื่อมจนสับสนไปหมดแต่อย่างใด

อย่างแรกเลยคือความจำเป็นในการถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่องนี้เขาไม่ได้โกหก จากสภาพปัจจุบันของวัดเส้าหลิน เห็นได้ชัดว่าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นสถานที่ถ่ายทำภาคที่สองและภาคที่สามของเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ได้อย่างแน่นอน

แน่นอนเช่นเดียวกันกับที่นายกเทศมนตรีหลู่ได้กล่าวไว้ว่า สามารถเปลี่ยนไปถ่ายทำที่วัดซงซานแทนได้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเปลี่ยนป้ายชื่อวัดเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยากซับซ้อนเช่นนี้เลย

แต่วัดเส้าหลินก็คือวัดเส้าหลิน วัดซงซานนั้นไม่สามารถมาแทนที่ได้ และในโปรเจกต์ผลงานกำลังภายในอันยิ่งใหญ่ของลู่เฉิน วัดโบราณพันปีแห่งนี้มีสถานะที่พิเศษมาก

วิทยายุทธ์ในใต้หล้าล้วนมาจากวัดเส้าหลิน!

ในเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ‘ดาบมังกรหยก’ ‘แปดเทพอสูรมังกรฟ้า’ และผลงานกำลังภายในอีกมากมาย ล้วนมีวัดเส้าหลินอยู่ในสถานะผู้นำด้านศิลปะการต่อสู้ มันไม่มีทางเป็นวัดเก่าแก่ที่ผุพังหรอกใช่ไหมล่ะ

หากลู่เฉินต้องการผลักดันวัฒนธรรมกำลังภายใน ก็ไม่สามารถละเลยวัดเส้าหลินได้เลย นอกจากนี้ต้นกำเนิดทางประวัติศาสตร์ของวัดเส้าหลินก็เหมาะมากสำหรับวัฒนธรรมกำลังภายใน การเปลี่ยนป้ายชื่อของสถานที่แห่งหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่มันจะทำให้เนื้อแท้ที่สำคัญที่สุดนั้นสูญหายไป

ดังนั้นพื้นที่ของวัดเส้าหลินแห่งนี้ไม่เพียงแค่ไม่สามารถย้ายได้เท่านั้น แต่ยังต้องสร้างมันขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ ให้กลายเป็นวัดที่โด่งดังอย่างแท้จริง

ตอนนี้เขาลงทุนไป 30 ล้าน ในอนาคตจะได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ผลประโยชน์ที่ได้รับโดยตรงที่สุดก็คือทำเช่นนี้แล้ว ในอนาคตการจะมาถ่ายทำที่วัดเส้าหลินก็จะสะดวกและง่ายดาย เมื่อเทศบาลท้องถิ่นได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า ก็จะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แน่นอน

ในที่สุดทั้งนายกเทศมนตรีหลู่รวมถึงเหล่าเจ้าหน้าที่ก็ตระหนักได้แล้วว่า ลู่เฉินไม่ได้ล้อเล่น แต่ต้องการที่จะควักเงินอันแสนมีค่านี้ออกมาจริงๆ และก็ไม่ได้ดื่มเหล้าเยอะจนสับสนอีกด้วย

เพราะว่าคนที่นั่งข้างๆ อย่างเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่ซี และคนอื่นๆ นั้นไม่มีใครแสดงอาการแปลกใจออกมาเลย เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว

ลู่เฉินยังพูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “มีอยู่จุดหนึ่งที่ผมจำเป็นต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ เงินก้อนนี้สามารถใช้ได้เฉพาะในวัดเส้าหลินเท่านั้น หวังว่าท่านนายกเทศมนตรีหลู่จะสามารถเข้าใจได้นะครับ”

นายกเทศมนตรีหลู่รู้สึกตัวขึ้นมา หัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “เข้าใจแล้วๆ พูดตามตรง เมื่อสักครู่ผมสับสนอยู่นิดหน่อยจริงๆ แต่ว่าผมเชื่อใจในความจริงใจของบริษัทคุณ เทศบาลของพวกเราจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แน่นอนครับ”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่าขออภัยที่ต้องพูดตรงๆ นะครับคุณลู่เฉิน วัดเส้าหลินเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ และยังอยู่ภายใต้หน่วยงานคุ้มครองวัฒนธรรมในท้องถิ่นของพวกเราอีกด้วย ก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าขาดเงินทุน จึงไม่ได้รับการคุ้มครองและซ่อมแซมเป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะให้บริษัทของพวกคุณมาออกเงินก้อนนี้ให้”

นี่เป็นการนำประสบการณ์และความสำเร็จของที่อื่นมาปรับใช้เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามา แต่สิ่งที่พบเจอได้ยากก็คือ ข้อเสนอของนายกเทศมนตรีหลู่คนนี้เป็นสิ่งที่เขาเพิ่งคิดขึ้นมาได้เมื่อกี้อย่างไม่ต้องสงสัย และไม่ได้เป็นแผนที่คิดมาแล้วล่วงหน้าด้วย แต่มันกลับเหมาะสมกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และยังเป็นการร่วมมือกันแบบวินวินกันทั้งสองฝ่ายอีกด้วย

ขณะนี้ ภายในใจของบรรดาหัวหน้างานและผู้นำเหล่านั้นก็รู้แจ้งเห็นแสงสว่างขึ้นมาทันใด แถมผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวคนนั้นก็ยังจ้องไปที่ลู่เฉินด้วยสายตาเป็นประกายอีกด้วย

พวกเขาคิดไม่ออกถึงเหตุผลที่ลู่เฉินจะปฏิเสธเลย

แน่นอนว่าลู่เฉินไม่สามารถปฏิเสธได้ เขามองลู่ซีที่อยู่ข้างๆ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมคิดว่าแบบนี้เยี่ยมมากเลยครับ แต่ถ้าหากจะร่วมหุ้นเพื่อสร้างบริษัทขึ้นมา อย่างนั้นเงิน 30 ล้านหยวนนี้คงไม่พออย่างแน่นอน เรื่องรายละเอียดพวกเราค่อยมาคุยกันอย่างละเอียดทีหลังนะครับ”

“นอกจากนี้…”

ลู่เฉินหันไปทางเฉินเฟยเอ๋อร์ “เฟยเอ๋อร์ คุณมาพูดเถอะ”

เฉินเฟยเอ๋อร์พยักหน้าแล้วกล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “นอกจากนี้ ฉันกับลู่เฉินตัดสินใจที่จะบริจาคเงินอีก 20 ล้านหยวนในนามของตัวเอง เพื่อใช้ในการสร้างโรงเรียนในพื้นที่เติงเฟิงและเป็นเงินทุนช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนค่ะ”

นายกเทศมนตรีหลู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง แล้วเขาก็ยกมือขึ้นปรบ

ไม่นานภายในห้องก็เกิดเสียงปรบมือดังขึ้นมาอย่างกึกก้องทันที!

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar