ท่าทางน่าสังเวชของเว่ยหุย ทำให้ลูกน้องของเฮียเว่ยอดที่จะสงสารไม่ได้ แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดอะไร และยิ่งไม่กล้าขอร้องอ้อนวอนแทนเว่ยหุย
วันนั้นหลังจากที่เฮียเว่ยกลับมาจากงานเลี้ยงค็อกเทล ก็ได้คุยโวเรื่องที่ได้เจอหลี่ฝางกับพวกลูกน้องอยู่บ่อยครั้ง ท่าทางเคารพนับถือในระหว่างที่กล่าวนั้น ทำให้พวกลูกน้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าเฮียเว่ยมีท่าทียังไง
“เอาละ จบแค่นี้แล้วกัน ต่อไปก็อบรมสั่งสอนน้องชายของนายให้ดี อย่าให้เขาก่อเรื่องตามอำเภอใจอีก ฉันไปก่อนล่ะ” หลี่ฝางกล่าวจบ ก็หมุนตัวเดินออกไปจากผับ
ในเมื่อแก้ปัญหาเสร็จแล้ว งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป
หลังจากที่หลี่ฝางออกจากผับไป ในที่สุดเฮียเว่ยก็ผ่อนคลายลง และรีบเข้าไปพยุงเว่ยหุย เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาก็อดที่จะสงสารไม่ได้
เฮียเว่ยกล่าวแนะนำสั่งสอนขึ้นมา: “นายอย่าโทษพี่เลย ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้ เกรงว่าคืนนี้พวกเราคงต้องจบเห่ทั้งสองคนแน่ คุณหลี่คนนั้น ไม่ใช่คนที่พวกเราจะล่วงเกินได้ นายจำไว้ให้ดี ต่อไปถ้าเจอหลี่เข้า จะต้องแสดงความเคารพนอบน้อมเป็นอย่างมากออกมา เข้าใจไหม?”
เมื่อเว่ยหุยได้ยินพี่ชายของตัวเองพูดแบบนี้ ถึงแม้ยังคงไม่รู้ว่าหลี่ฝางเป็นใครมาจากไหน แต่ก็นับว่าเขาได้รู้ถึงความน่ากลัวของหลี่ฝางแล้ว จึงรีบพยักหน้าทันที
ส่วนจางเฉิงที่แอบดูเรื่องสนุกอยู่ที่มุมห้องในตอนนี้นั้นได้ตะลึงงันไปโดยสิ้นเชิง
นี่ใช่เฮียเว่ยที่ร่ำลือในสังคมสายงานเดียวกันว่าโหดเหี้ยมเลือดเย็นคนนั้น?
จางเฉิงเข้าใจขึ้นมาอย่างเลือนรางแล้วว่า หลี่ฝางเป็นการดำรงอยู่ที่เขาไม่อาจล่วงเกินได้
ในตอนนี้พวกโจวหมิงยังคงรอหลี่ฝางอยู่ที่ด้านนอกอย่างร้อนรน
“ทำยังไงดี พวกเราแจ้งตำรวจดีไหม?”
ทุกคนมองดูเฮียเว่ยพาคนบุกเข้าไปในผับอย่างฮึกเหิมตาเป็นมัน แต่ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ออกมา ภายในใจนั้นเป็นกังวลมากจริง ๆ
ทุกคนต่างก็เห็นกับตาว่าเฮียเว่ยได้พาคนเข้าไปกลุ่มใหญ่ แต่ก็ยังไม่เห็นหลี่ฝางออกมาสักที ต่างก็เป็นห่วงสุด ๆ
“หลี่ฝางคงไม่ถูกพวกเขา......” ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวเสียงสั่น
“เป็นไปไม่ได้ เฮียเว่ยเป็นคนระดับไหนกัน เขาไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นหรอก” โจวหมิงเอ่ยขึ้นมาทันที
“ผมว่านะ พวกเรารวบรวมเงินกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ดีไหม?” หลี่เหวยกล่าวอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด
“คุณคิดว่าจ่ายเงินไปตอนนี้จะมีประโยชน์ไหม? ต่อให้มีประโยชน์ จำนวนเงินที่สามารถจบเรื่องนี้ได้ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราจะมีกำลังหามาได้” จางเสว่ส่ายหัวกล่าว
หลังที่รู้ว่าเป็นเฮียลั่วเธอก็รู้ว่าพวกเธอไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ดังนั้นเธอจึงได้โทรหาหยางฉงไปนานแล้ว
จางเสว่คิดว่า ต่อให้อีกฝ่ายเป็นเฮียลั่ว ก็น่าจะเห็นแกหน้าหยางฉงอยู่บ้าง
“งั้นทำยังไงล่ะ?” โจวหมิงต่อยเข้าไปที่เสาไฟที่อยู่ด้านข้างอย่างจัง ในดวงตามีแววตำหนิตัวเองและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปผ่านไปแวบหนึ่ง
“ผมนึกออกแล้ว! พี่ส้งของพวกเราเหมือนจะรู้จักกับเฮียเว่ย พวกเราลองถามพี่ส้งดูดีไหม!” ทันใดนั้นหานจื้อเย่ก็พลันเอ่ยขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง